ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผู้เลี้ยงช้ำอีก ขนหมูหนีน้ำจ้าละหวั่น ตัดใจขายเป็นหมูหัน แถมโรคเข้าซ้ำเติม
นายพิสิษฐ์ การดี ผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยในจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า น้ำที่ไหลจากภาคเหนือและภาวะฝนตกชุกในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมในทุกภูมิภาค สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในหลายพื้นที่ เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรเองก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวด้วย
ล่าสุดในภาคตะวันออก โดยเฉพาะจังหวัดระยอง และจันทบุรี ประสบปัญหาน้ำท่วมเข้าไปยังพื้นที่เลี้ยงสุกร ก่อให้เกิดความเสียหายต่อการเลี้ยง และส่งผลต่อต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น จากการขนย้ายสุกรหนีน้ำท่วม และผู้เลี้ยงหลายรายจำเป็นต้องขายลูกสุกรเป็นหมูหันในราคาต่ำ นอกจากนี้ปัญหาโรคระบาดก็ยังไม่คลี่คลาย
“ปัจจุบันเกษตรกรหลายรายในพื้นที่น้ำท่วมต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นจากการขนย้ายหมูหนีน้ำ และน้ำที่เข้าท่วมก็สร้างความเสียหายแก่โรงเรือน ต้องทำการซ่อมแซม นอกจากนี้ยังมีภาวะโรคเข้ามาซ้ำเติม เกษตรกรจึงต้องเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมเรื่องยาและวัคซีนป้องกันโรค ซึ่งปัญหาเหล่านี้คือต้นทุนที่เกษตรกรต้องแบกรับ ทำให้ผู้เลี้ยงหมูหลายรายทนรับภาระไม่ไหวจำเป็นต้องเลิกเลี้ยงไป หรือบางรายที่วิตกและไม่มั่นใจในสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นก็ระงับการนำหมูเข้าเลี้ยง ที่สำคัญผู้เลี้ยงบางรายต้องขายลูกหมูเป็นหมูหัน จึงเป็นไปได้ว่าในช่วงสิ้นปีนี้ปริมาณหมูที่จะออกสู่ตลาดจะขาดแคลนอย่างแน่นอน” นายพิสิษฐ์กล่าว
ทั้งนี้ ปัญหาเรื่องโรคสุกรได้แก่ โรค PRRS หรือโรคเพิร์ท ที่ระบาดอย่างหนักมาตั้งแต่ปี 2553 โดยก่อความเสียหายต่อระบบสืบพันธุ์และเกิดปัญหาในระบบทางเดินหายใจในสุกร ซึ่งเป็นโรคที่เกิดในสุกรทุกช่วงอายุ ที่จัดว่ามีความรุนแรง ทำให้หมูเสียหายไม่ต่ำกว่า 20% สำหรับบางฟาร์มที่ระบบป้องกันโรคไม่ดีจะเสียหายสูงถึง 50%
ที่สำคัญปัจจุบันพบว่ายังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ล่าสุดเกิดการระบาดอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดพะเยา ที่อำเภอดอกคำใต้ อำเภอปง และอำเภอเชียงม่วน ซึ่งภาวะโรคที่เกิดขึ้นนี้ยิ่งจะซ้ำเติมให้ปริมาณสุกรลดลงอีก
นายพิสิษฐ์ การดี ผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยในจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า น้ำที่ไหลจากภาคเหนือและภาวะฝนตกชุกในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมในทุกภูมิภาค สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในหลายพื้นที่ เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรเองก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวด้วย
ล่าสุดในภาคตะวันออก โดยเฉพาะจังหวัดระยอง และจันทบุรี ประสบปัญหาน้ำท่วมเข้าไปยังพื้นที่เลี้ยงสุกร ก่อให้เกิดความเสียหายต่อการเลี้ยง และส่งผลต่อต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น จากการขนย้ายสุกรหนีน้ำท่วม และผู้เลี้ยงหลายรายจำเป็นต้องขายลูกสุกรเป็นหมูหันในราคาต่ำ นอกจากนี้ปัญหาโรคระบาดก็ยังไม่คลี่คลาย
“ปัจจุบันเกษตรกรหลายรายในพื้นที่น้ำท่วมต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นจากการขนย้ายหมูหนีน้ำ และน้ำที่เข้าท่วมก็สร้างความเสียหายแก่โรงเรือน ต้องทำการซ่อมแซม นอกจากนี้ยังมีภาวะโรคเข้ามาซ้ำเติม เกษตรกรจึงต้องเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมเรื่องยาและวัคซีนป้องกันโรค ซึ่งปัญหาเหล่านี้คือต้นทุนที่เกษตรกรต้องแบกรับ ทำให้ผู้เลี้ยงหมูหลายรายทนรับภาระไม่ไหวจำเป็นต้องเลิกเลี้ยงไป หรือบางรายที่วิตกและไม่มั่นใจในสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นก็ระงับการนำหมูเข้าเลี้ยง ที่สำคัญผู้เลี้ยงบางรายต้องขายลูกหมูเป็นหมูหัน จึงเป็นไปได้ว่าในช่วงสิ้นปีนี้ปริมาณหมูที่จะออกสู่ตลาดจะขาดแคลนอย่างแน่นอน” นายพิสิษฐ์กล่าว
ทั้งนี้ ปัญหาเรื่องโรคสุกรได้แก่ โรค PRRS หรือโรคเพิร์ท ที่ระบาดอย่างหนักมาตั้งแต่ปี 2553 โดยก่อความเสียหายต่อระบบสืบพันธุ์และเกิดปัญหาในระบบทางเดินหายใจในสุกร ซึ่งเป็นโรคที่เกิดในสุกรทุกช่วงอายุ ที่จัดว่ามีความรุนแรง ทำให้หมูเสียหายไม่ต่ำกว่า 20% สำหรับบางฟาร์มที่ระบบป้องกันโรคไม่ดีจะเสียหายสูงถึง 50%
ที่สำคัญปัจจุบันพบว่ายังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ล่าสุดเกิดการระบาดอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดพะเยา ที่อำเภอดอกคำใต้ อำเภอปง และอำเภอเชียงม่วน ซึ่งภาวะโรคที่เกิดขึ้นนี้ยิ่งจะซ้ำเติมให้ปริมาณสุกรลดลงอีก