จันทบุรี - แม่น้ำจันทบุรีไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ย่านการค้า เศรษฐกิจ และตลาดสดเทศบาลเมืองจันทบุรีแล้ว ส่วนถนนหลายสายมีน้ำท่วมสูง ขณะเดียวกันชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ ต่างปิดบ้านย้ายออกไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย
เช้ามืดวันนี้ (13 ก.ย.) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เข้าสู่วันที่ 3 พบว่าแม่น้ำจันทบุรี ได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำจันทบุรีทั้ง 2 ฝั่ง และในเช้ามืดวันนี้ปริมาณน้ำในแม่น้ำจันทบุรีได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ย่านการค้า เศรษฐกิจ ตลาดสดเทศบาลเมืองจันทบุรี รวมถึงตลาดการค้าขายพลอย ระดับน้ำอยู่ที่ 30-40 เซนติเมตร
นอกจากนี้ ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ถนนโดยรอบในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี และเทศบาลเมืองจันทนิมิต บางจุดทางเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองจันทบุรี ต้องนำแผงเหล็กมากั้นเพื่อไม่ให้รถวิ่งผ่าน เพราะระดับน้ำสูงและมีน้ำเอ่อท่วมเป็นวงกว้าง สาเหตุมาจากจุดวัดน้ำใน 4 จุดหลักเกินจุดวิกฤต และในพื้นที่ต้นน้ำมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีน้ำป่าไหลหลากเข้ามาสมทบทำให้น้ำทั้งหมดจะไหลลงมาสู่พื้นที่ อำเภอเมืองจันทบุรีจนหลีกเหลี่ยงไม่ได้
พร้อมกันนี้ระดับน้ำที่ท่วมสูงบริเวณริมแม่น้ำจันทบุรีชาวบ้านได้มีการปิดบ้านย้ายไปนอนบ้านญาติพี่น้อง ที่ไม่ถูกน้ำท่วมกันแล้ว หรือ บางครอบครัวได้ไปอยู่ที่โรงเรียนเทศบาลเมืองจันทบุรีที่หน่วยราชการจัดพื้นที่ไว้ให้
ส่วนพื้นที่ใกล้เคียง คือ หมู่บ้านไชยยันต์ หมู่บ้านธนาคม ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ทางเทศบาลตำบลพลับพลานารายณ์ ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่และเรือท้องแบนคอยอำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านที่จะผ่านเข้าออกในหมู่บ้านตลอดทั้งคืน เพราะระดับน้ำยังทรงตัว แม้ทางเทศบาลจะมีการนำรถแบ็กโฮมาทำการขุดลอกร่องน้ำให้กว้างขึ้น รวมทั้งมีการนำเครื่องสูบน้ำมาตั้งเพื่อสูบน้ำออกแต่ก็ยังไม่สามารถทำให้ระดับน้ำลดลงได้
สำหรับพื้นที่ตำบลจันทนิมิต โดยเฉพาะชุมชนวัดโรมันที่เป็นชุมชนที่ติดกับแม่น้ำจันทบุรี ในขณะนี้น้ำท่วมสูงและเริ่มเข้าสู่วิกฤตหนัก ทางเทศบาลต้องมีการอพยพชาวบ้านออกมาอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยแล้ว รวมทั้งได้มีการติดตั้งเครื่องสูบขนาดใหญ่ จำนวน 2 ตัว แต่ยังไม่สามารถที่จะช่วยให้น้ำลดระดับลงแต่อย่างใด และคาดว่าในค่ำคืนนี้ถ้ามีฝนตกลงมาเพิ่มขึ้นอีกก็จะทำให้ในพื้นที่ย่านการค้า เศรษฐกิจ ตลาดสด และตลาดการค้าขายพลอย รวมถึงห้างทองต่างๆ ที่มีกว่า 50 ร้านจะได้รับผลกระทบอย่างหนักและวิกฤตในที่สุดอีกด้วย