พะเยา - ญาติ-เพื่อนบ้านแห่ศพพลทหารประจำการที่ยะลา ประท้วงขอความเป็นธรรม ภรรยานำลูกวัย 8 เดือน ยื่นหนังสือร้องทางการช่วย จี้ ถามเหตุการณ์ตายที่แท้จริง หลังต้นสังกัดแจ้งฆ่าตัวตาย ทำให้ครอบครัวไม่ได้รับความช่วยเหลือ แต่ข้อมูลกลับขัดแย้ง ทั้งแผล-ลักษณะการตาย ด้าน นอภ.ปง รับแจ้ง 2 ประเด็น รับประสานงานช่วยครอบครัวผู้เสียหายต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 ก.ย.) ได้มีชาวบ้านจาก ต.งิม อ.ปง จ.พะเยา ประมาณ 70 คน เดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 10 คัน ร่วมกันแห่โลงศพของ พลทหาร กฤษฎา บุญนะ อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 80 หมู่ 2 ต.งิม อ.ปง จ.พะเยา ซึ่งเสียชีวิตจากระหว่างประจำการที่ จ.ยะลา เมื่อวันที่ 6 ก.ย.54 ที่ผ่านมา โดยมี นางณัฐญา บุญนะ ภรรยาผู้ตาย นำขบวนโลงศพมาที่หน้าที่ว่าการอำเภอปง เพื่อร้องขอความเป็นธรรมและความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่รับผิดชอบกรณีการเสียชีวิตของพลทหาร กฤษฎา
นางณัฐญา ภรรยาผู้ตาย เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ทหารของหน่วยที่สามีตนไปปฏิบัติหน้าที่ จาก จ.ยะลา แจ้งตนว่า สามีของตนได้เสียชีวิตด้วยการใช้อาวุธปืน เอ็ม 16 ยิงตัวเอง เสียชีวิตเมื่อเวลา 08.10 น.วันที่ 6 ก.ย.54 ศพมาถึงบ้านในเช้ามืดของวันที่ 8 ก.ย.54 หลังจากนั้น ทางตนและญาติของสามี กำหนดจะเผาศพในวันเสาร์ ที่ 10 ก.ย.54
แต่ลักษณะการตายมีหลายปัจจัยที่ทำให้ตนสงสัยว่า อาจจะไม่ใช่การฆ่าตัวตาย เพราะสามีของตนเป็นคนอารมณ์ดี เป็นที่รักของทุกคนในครอบครัว และที่สำคัญสามีของตนกำลังจะปลดประจำการในวันที่ 4 ต.ค.54 นี้ แล้วจะฆ่าตัวตายได้อย่างไร
ภรรยาผู้ตาย กล่าวอีกว่า การเสียชีวิตของสามีตนครั้งนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งว่า เนื่องจากฆ่าตัวตาย ทำให้ไม่ได้รับสวัสดิการใดๆ นอกจากประกันชีวิตหมู่ที่ได้เพียง 2 แสน เบื้องต้นมีการจ่ายเป็นเช็คแล้ว 3 หมื่น ที่เหลืออีก 1.7 แสนบาท ทางทหารจะนำมาจ่ายให้หน้าศพในวันฌาปนกิจ และเงินช่วยเหลือทำบุญงานศพจากเพื่อนทหารอีกเล็กน้อย
นางณัฐญา กล่าวอีกว่า ตนและญาติในครอบครัวของสามี คิดว่า การเสียชีวิตของคนๆ หนึ่งในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อบ้านเมือง ควรจะมีสิ่งตอบแทนมากกว่านี้ เพราะเราสองคนกำลังมีลูกอายุ 8 เดือน ที่ต้องมีอนาคตอีกยาวไกล หากสามีไม่เสียชีวิตครอบครัวจะมีหลัก และมีความยั่งยืนต่อไปอีกยาวนาน แต่เมื่อมาเสียชีวิตอีกทั้งไม่ชัดเจนในสาเหตุของการตาย ทำให้เกิดความสงสัยและน้อยใจอย่างมาก ที่ชีวิตหนึ่งทำงานเพื่อชาติ แต่ได้รับการตอบแทนอย่างไม่เป็นธรรม จึงได้นำโลงศพมาประท้วงเพื่อขอความเป็นธรรมจากราชการต่อไป
“เหตุที่ติดใจในการเสียชีวิตของสามี เนื่องจากพบว่าบริเวณท้ายทอยของสามีมีลักษณะยุบลงไปและมีรอยเย็บแผล ฟันหน้าหัก 2 ซี่ ปกติสามีถนัดขวา แต่ยิงฆ่าตัวตายด้วยมือซ้าย เพราะมีเขม่าปืนติดอยู่ ส่วนสถานที่การเสียชีวิตมีสองข้อมูล คือ ข้อมูลแรกบอกว่าตายบนเตียง อีกข้อมูลหนึ่งบอกว่าตายในป่า เมื่อข้อมูลการเสียชีวิตของสามีเหมือนมีความขัดแย้งกันหลายประการ ทางครอบครัวและญาติจึงมีสิทธิที่จะตั้งข้อสังเกตและสงสัยเป็นธรรมดา” นางณัฐญา กล่าว
ด้าน นายสราวุฒิ วรพงษ์ นายอำเภอปง จ.พะเยา กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้รับทราบเรื่องร้องเรียนเพื่อขอความช่วยเหลือจากญาติของพลทหารกฤษฎาผู้เสียชีวิตแล้ว ทราบความต้องการมี 2 ประเด็นคือ 1.ต้องการทราบสาเหตุการตายที่แท้จริงของผู้ตาย เพราะมีการแจ้งข้อมูลการตายของผู้ตายไม่ชัดเจน และ 2.ขอให้มีการช่วยเหลือเพราะครอบครัวกำลังมีลูกน้อยอายุ 8 เดือน โดยทั้งสองข้อเรียกร้องตนได้รับเรื่องและมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทำหนังสือเพื่อรายงานถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ตามลำดับขั้นตอนต่อไป
ซึ่งการประสานงานเรื่องความช่วยเหลือครอบครัวของผู้ตาย ต้องเป็นอำนาจของระดับจังหวัดพะเยาที่จะประสานงานไปยังจังหวัดยะลา ถึงหน่วยงานทหารที่ผู้ตายได้ไปปฏิบัติหน้าที่อยู่อีกครั้งหนึ่ง
สำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้นของทางอำเภอ ตนได้นำเงินของกิ่งกาชาดอำเภอปงช่วยเหลือครอบครัวของพลทหารกฤษฎา จำนวน 3,000 บาท เพราะเห็นสภาพครอบครัวแล้วน่าสงสารมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อทางนายอำเภอได้รับเรื่องร้องขอความเป็นธรรมจากญาติของพลทหารกฤษฎา และดำเนินการประสานงานเพื่อช่วยเหลือตามขั้นตอนให้แล้ว ทางกลุ่มผู้มาเรียกร้องได้สลายตัวกลับทันที