นครศรีธรรมราช - กองทัพภาคที่ 4 ออกมาชี้แจงในกรณีมีการเข้าใจผิด คิดว่า กองทัพบกยึดบัตรประชาชนของทหาร ยันกำลังพลทุกคนมีสิทธิ์อย่างเต็มที่ในการใช้สิทธิเลือกตั้ง
วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 พ.อ.สมชาย ภุมรินทร์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 ได้เปิดเผยถึงในกรณีที่มีการเข้าใจผิด คิดว่า กองทัพบกยึดบัตรประชาชนของทหาร กองทัพบกขอยืนยันว่า กองทัพบกไม่เคยมีการยึดบัตรประชาชนของพลทหาร หรือกำลังพลไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น กำลังพลทุกคนมีสิทธิ์อย่างเต็มที่ในการใช้สิทธิเลือกตั้ง
ส่วนการต้องกลับมาใช้สิทธิตามทะเบียนบ้านในหน่วยทหารของพลทหารที่เพิ่งปลดประจำการนั้น เป็นไปตามกฎหมายการเลือกตั้งว่าด้วยกรณีต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งอย่างน้อย 90 วัน หากเจ้าตัวไม่สะดวกก็สามารถขอลงทะเบียนเลือกตั้งนอกเขตได้ จึงไม่ควรนำข้อกำหนดของกฎหมายมาเป็นข้อจำกัด และทำให้สังคมสับสนและเข้าใจกองทัพผิด
“ทั้งนี้ ชายไทยทุกคนเมื่อได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการ (พลทหาร) จะมีการย้ายสำเนาทะเบียนบ้านมาอยู่กับหน่วยทหารต้นสังกัด ในตลอดระยะเวลาของการเข้าประจำการ จนกระทั่งครบระยะเวลาของการประจำการ หรือจนกระทั่งปลดประจำการ หน่วยทหารต้นสังกัดจะดำเนินการแจ้งย้ายทะเบียนบ้านออกจากหน่วยทหารกลับคืนภูมิลำเนาเดิมนี่คือระเบียบปฏิบัติ”
พ.อ.สมชาย กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.54 นี้ เป็นการเลือกตั้งที่จัดขึ้นในช่วงที่พลทหารเก่าปลดประจำการ และพลทหารใหม่เข้าประจำการ กองทัพบกได้ใช้ความรอบคอบในขั้นตอนของการสำรวจผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นทั้งพลทหารเก่าและใหม่ โดยตามกฎหมายเลือกตั้ง ระบุไว้ว่า ผู้ที่จะมีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดๆ ต้องมีภูมิลำเนาและทะเบียนบ้านอยู่ในเขตเลือกตั้งนั้นๆไม่น้อยกว่า 90 วัน นับจากวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้ง ดังนั้น พลทหารเก่าที่เพิ่งปลดประจำการเมื่อ 1 พ.ค.54 และหน่วยทหารได้ดำเนินการส่งและแจ้งย้ายทะเบียนบ้านกลับคืนภูมิลำเนาเดิมแล้วตั้งแต่ พ.ค.54 ก็ยังไม่ครบ 90 วัน จึงต้องกลับมาใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่หน่วยทหารต้นสังกัดเดิมตั้งอยู่ ส่วนทหารใหม่ที่เพิ่งเข้าประจำการเมื่อ พ.ค.54 ก็อยู่ในหลักเกณฑ์เดียวกัน ต้องกลับไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามภูมิลำเนาเดิมก่อนเป็นทหาร
ซึ่งกองทัพตระหนักในรายละเอียดและความยุ่งยากของการกลับไปใช้สิทธิเลือกตั้งของพลทหาร ในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง จึงได้เตรียมอำนวยความสะดวกไว้ตามความเหมาะสม โดยที่ผ่านมากองทัพบกได้แจ้งให้พลทหารที่เพิ่งปลดประจำการทราบถึงการกลับไปใช้สิทธิ์ดังกล่าว พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้พลทหารใหม่ไปลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขต รวมถึงการอนุญาตให้ทหารใหม่เดินทางกลับไปเลือกตั้งตามภูมิลำเนาเดิมในวันที่ 3 ก.ค.54 ด้วย
ทั้งนี้ กองทัพบกได้ปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด เพื่อสนับสนุนให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในขณะเดียวกันได้อำนวยความสะดวกให้กำลังพลทุกระดับ รวมถึงครอบครัวได้ไปใช้สิทธิอย่างเต็มที่ จึงขอวอนทุกฝ่ายได้เข้าใจในสิ่งที่ดำเนินการด้วย
วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 พ.อ.สมชาย ภุมรินทร์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 ได้เปิดเผยถึงในกรณีที่มีการเข้าใจผิด คิดว่า กองทัพบกยึดบัตรประชาชนของทหาร กองทัพบกขอยืนยันว่า กองทัพบกไม่เคยมีการยึดบัตรประชาชนของพลทหาร หรือกำลังพลไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น กำลังพลทุกคนมีสิทธิ์อย่างเต็มที่ในการใช้สิทธิเลือกตั้ง
ส่วนการต้องกลับมาใช้สิทธิตามทะเบียนบ้านในหน่วยทหารของพลทหารที่เพิ่งปลดประจำการนั้น เป็นไปตามกฎหมายการเลือกตั้งว่าด้วยกรณีต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งอย่างน้อย 90 วัน หากเจ้าตัวไม่สะดวกก็สามารถขอลงทะเบียนเลือกตั้งนอกเขตได้ จึงไม่ควรนำข้อกำหนดของกฎหมายมาเป็นข้อจำกัด และทำให้สังคมสับสนและเข้าใจกองทัพผิด
“ทั้งนี้ ชายไทยทุกคนเมื่อได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการ (พลทหาร) จะมีการย้ายสำเนาทะเบียนบ้านมาอยู่กับหน่วยทหารต้นสังกัด ในตลอดระยะเวลาของการเข้าประจำการ จนกระทั่งครบระยะเวลาของการประจำการ หรือจนกระทั่งปลดประจำการ หน่วยทหารต้นสังกัดจะดำเนินการแจ้งย้ายทะเบียนบ้านออกจากหน่วยทหารกลับคืนภูมิลำเนาเดิมนี่คือระเบียบปฏิบัติ”
พ.อ.สมชาย กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.54 นี้ เป็นการเลือกตั้งที่จัดขึ้นในช่วงที่พลทหารเก่าปลดประจำการ และพลทหารใหม่เข้าประจำการ กองทัพบกได้ใช้ความรอบคอบในขั้นตอนของการสำรวจผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นทั้งพลทหารเก่าและใหม่ โดยตามกฎหมายเลือกตั้ง ระบุไว้ว่า ผู้ที่จะมีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดๆ ต้องมีภูมิลำเนาและทะเบียนบ้านอยู่ในเขตเลือกตั้งนั้นๆไม่น้อยกว่า 90 วัน นับจากวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้ง ดังนั้น พลทหารเก่าที่เพิ่งปลดประจำการเมื่อ 1 พ.ค.54 และหน่วยทหารได้ดำเนินการส่งและแจ้งย้ายทะเบียนบ้านกลับคืนภูมิลำเนาเดิมแล้วตั้งแต่ พ.ค.54 ก็ยังไม่ครบ 90 วัน จึงต้องกลับมาใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่หน่วยทหารต้นสังกัดเดิมตั้งอยู่ ส่วนทหารใหม่ที่เพิ่งเข้าประจำการเมื่อ พ.ค.54 ก็อยู่ในหลักเกณฑ์เดียวกัน ต้องกลับไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามภูมิลำเนาเดิมก่อนเป็นทหาร
ซึ่งกองทัพตระหนักในรายละเอียดและความยุ่งยากของการกลับไปใช้สิทธิเลือกตั้งของพลทหาร ในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง จึงได้เตรียมอำนวยความสะดวกไว้ตามความเหมาะสม โดยที่ผ่านมากองทัพบกได้แจ้งให้พลทหารที่เพิ่งปลดประจำการทราบถึงการกลับไปใช้สิทธิ์ดังกล่าว พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้พลทหารใหม่ไปลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขต รวมถึงการอนุญาตให้ทหารใหม่เดินทางกลับไปเลือกตั้งตามภูมิลำเนาเดิมในวันที่ 3 ก.ค.54 ด้วย
ทั้งนี้ กองทัพบกได้ปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด เพื่อสนับสนุนให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในขณะเดียวกันได้อำนวยความสะดวกให้กำลังพลทุกระดับ รวมถึงครอบครัวได้ไปใช้สิทธิอย่างเต็มที่ จึงขอวอนทุกฝ่ายได้เข้าใจในสิ่งที่ดำเนินการด้วย
