คน “แม่ถอด-ลำปาง” ผวาซ้ำรอย “วังน้ำเขียว” หลัง สทก.สิ้นอายุ-อบต.ตัดชื่อทิ้ง

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชาวบ้าน “แม่ถอด” เมืองลำปาง ครวญขอความเป็นธรรม หลังชื่อ-สิทธิ์ทำกินบนที่ดิน สทก.หาย หลังหมดอายุ ทั้งที่ยื่นผ่าน อบต.แล้วนับพันราย แต่มีคนได้รับสิทธิ์แค่ 55 ราย แถมป่าไม้ฯขู่สำทับอีก หวั่นเป็นเหยื่อเหมือนวังน้ำเขียว เตรียมยื่นเรื่องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนายกฯ

นายเกษม คำภิระธรรม เกษตรกรวัย 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 หมู่ 2 ต.แม่ถอด อ.เถิน จ.ลำปาง กล่าวว่า มีที่ดิน 7 ไร่ ทำกินมานานตั้งแต่รุ่นพ่อ แต่ภายหลังมีการออกเอกสารสิทธิเป็น สทก.และหมดอายุลง ทาง อบต.แม่ถอด ได้ทำการประกาศให้มีการขึ้นทะเบียนกันใหม่ตนจึงเข้าร่วมโครงการ และผ่านการรังวัดทำหลักฐานเพื่อขอเอกสารสิทธิ สทก.(สิทธิทำกิน กรมป่าไม้) ต่อ โดยมีชาวบ้านที่เข้ารังวัดใหม่ ทั้งคนจับจองใหม่ และผู้ที่จับจองมานานก่อนกฎหมายออกจำนวนมาก

ล่าสุด นายวิทยา คำวงศา เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการ สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 3 (ลำปาง) กรมป่าไม้ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้นัดชาวบ้านเดินทางมาที่วัดแม่ถอด เพื่อตรวจสอบรายชื่อและที่ดินที่จะออกใบอนุญาต เมื่อ 6 ก.ย.54 กลับพบว่า มีเพียง 55 รายเท่านั้น ที่ได้รับสิทธิเข้าทำประโยชน์และที่อยู่อาศัยทำกิน

นายเกษม กล่าวว่า นายวิทยา คำวงศา เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการ สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) กรมป่าไม้ บอกกับชาวบ้าน ว่า การนัดให้มาทำหลักฐานและตรวจสอบหลักฐานการถือครอง พร้อมทั้งตรวจสอบแปลงที่ดินจริง มีเพียง 55 รายเท่านั้น ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ถอดได้เสนอไป ซึ่งผู้ที่ไม่มีรายชื่อไม่สามารถทำการต่ออายุหลักฐานที่ดินได้

นางพิมพาภรณ์ จองคำ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 หมู่ 2 ต.แม่ถอด อ.เถิน จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ตนมีที่ดินทำไร่เพียง 2 ไร่เท่านั้น ทำมาหากินมาตั้งแต่ พ.ศ.2516 ทางราชการมาออกใบ สทก.ให้เมื่อปี 2536 ขณะนี้หมดอายุ ก็ได้เข้าร่วมโครงการขึ้นทะเบียนใหม่ที่ อบต.เช่นกัน แต่กลับไม่มีรายชื่อที่ได้รับ ซึ่งถ้าไม่มีเอกสารรับรองปัญหาว่า หากเข้าไปทำกินจะต้องถูกจับดำเนินคดีหรือไม่ ซึ่งตนก็กลัวปัญหาการถูกจับดำเนินคดีจะตามมา ขอให้ทางการเร่งทำความเข้าใจให้กระจ่าง

“ชาวบ้านจำนวนมากที่ผิดหวังกับการต่อใบอนุญาตจะมีการรวมตัวทำหนังสือถึง อบต.แม่ถอด เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ถ้าไม่ได้ความกระจ่างจะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อขอความเป็นธรรมต่อไป เพราะชาวบ้านหวั่นว่าจะถูกเข้าจับกุมเช่นเดียวกันเหตุการณ์ที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา”