อุทัยธานี - น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด แพขนานยนต์ หรือ “โป๊ะ” บริการขนส่งรถยนต์ข้ามฟาก ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว หลังน้ำล้นตลิ่งและไหลเชี่ยวแรง เกรงอันตราย ขณะที่พ่อเมืองอุทัยฯ สั่งระดมทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมให้ความช่วยเหลือ วางกระกระสอบทราย และถมดินลูกรัง เสริมคันกั้นน้ำยาว 3 กิโลเมตร ป้องกันน้ำนำทะลักนาข้าวจำนวน 3 พันไร่
รายงานข่าวจากจังหวัดอุทัยธานี แจ้งว่า แม้ว่าจะมีการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอีก เพื่อพร่องน้ำเหนือเขื่อนสู่ท้ายเขื่อน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพื้นอาศัยเหนือเขื่อนในจังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดอุทัยธานี แต่เนื่องจากพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี เป็นพื้นที่รองรับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา จากจังหวัดนครสวรรค์ เป็นจังหวัดแรกก่อนระบายสู่ท้ายเขื่อน ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ตำบลเกาะเทโพ และตำบลท่าซุง ไปแล้วเกือบ 200 หลังคาเรือน และพื้นที่การเกษตรทั้งนาข้าว พืชไร่ พืชผักสวนครัวไปจำนวนอีกกว่า 3,000 ไร่
ล่าสุด ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวแรงทำให้ผู้ประกอบการแพขนานยนต์ หรือโป๊ะ บริการขนส่งรถยนต์ข้ามฟากไป-มา ระหว่างตำบลท่าซุง อำเภอเมืองอุทัยธานี และตลาดมโนรมย์ อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย ส่งผลให้ประชาชนที่จะใช้เส้นทางลัดไปจังหวัดสุพรรณบุรี และกรุงเทพฯต้องไปใช้เส้นทางอ้อม
ด้าน นายวันชัย โอสุคนทิพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ได้ประกาศให้พื้นที่ ตำบลเกาะเทโพ และตำบลท่าซุง เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ยังคงมีระดับสูงขึ้นตลอดเวลา ดังนั้น ทางจังหวัดจึงได้แจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 4 ตำบล ของอำเภอเมืองที่เสี่ยงถูกน้ำท่วมเตรียมย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และเร่งเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะนาข้าว เนื่องจากมีข้าวจำนวนหลายพันไร่ที่กำลังใกล้เก็บเกี่ยว
พร้อมสั่งการให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใช้งบฉุกเฉินเร่งนำกระสอบทราย และถมดินลูกรังแนวตลิ่งและแนวถนนระยะทาง กว่า 3 กิโลเมตร ในตำบลท่าซุง อำเภอเมือง เป็นพนังกั้นน้ำ ป้องกันน้ำเอ่อทะลักเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวจำนวนกว่า 3,000 ไร่ ที่เหลืออีกเพียงสัปดาห์กว่าๆก็จะเก็บเกี่ยวได้ เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้เก็บเกี่ยวข้าวหนีน้ำได้ทัน โดยไม่ได้รับความเสียหาย