xs
xsm
sm
md
lg

จนท.อุทยานฯกุยบุรี-สามร้อยยอด ดื่มน้ำสาบานไม่ล่าสัตว์ป่า-ทำลายป่าไม้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ - จนท.อุทยานฯกุยบุรี อุทยานฯเขาสามร้อยยอด กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน กุยบุรี 200 นาย ร่วมพิธีให้คำสัตย์ปฎิญาณ ดื่มน้ำสาบานไม่ล่าสัตว์ป่า ไม่ทำลายป่าไม้ ในวิหารศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อในกุฏิวัดกุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นประธานในพิธี

วันนี้ (1 ก.ย.) ที่วิหารหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร นายอำเภอกุยบุรี นายชุมพล แก้วเกตุ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี นายนพวงศ์ พฤกษชาติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ผู้จัดการใหญ่ WWf ประเทศไทย นายวายุพงศ์ จิตรวิจักษณ์ ผจก.โครงการอนุรักษ์ช้างป่า WWf ประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยานให้กับเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน อุทยานฯกุยบุรี, เจ้าหน้าที่อุทยานฯสามร้อยยอด ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ทหารชุดประสานงานโครงการพระราชดำริ บ้านรวมไทย ตชด.145 ปราณบุรี

ตลอดจนกำนันและผู้ใหญ่บ้านอำเภอกุยบุรี “ร่วมกล่าวคำปฏิญาณตนพร้อมเพรียงกันว่าจะไม่ล่าสัตว์ป่า ไม่ตัดไม้ทำลายป่า และจะร่วมมือกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของประเทศเอาไว้อย่างสุดกำลังความสามารถ หากใครผิดคำสาบานขอให้มีอันเป็นไปด้วยฤทธิ์ของศาสตราวุธทั้งหลาย แต่หากใครประพฤติดีปฏิบัติดีก็ขอให้มีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานสืบไป”

จากนั้นเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้เดินเข้าไปกราบรูปหล่อหลวงพ่อในกุฏิ ภายในวิหารแล้วออกมาดื่มน้ำมนต์ที่ประกอบพิธีเพื่อแสดงเจตนารมย์ในการร่วมกันพิทักษ์รักษาป่าต่อไป

ภายในวิหารศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อ ในกุฏิวัดกุยบุรี ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาต่อพุทธศาสนิกชนในจังประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดต่างๆ ที่เดินทางมาราบไหว้ขอพร ซึ่งมีการนำศาสตราวุธทั้งดาบเก่าอายุราวกว่า 100 ปีของเจ้าเมืองกุยบุรี ในอดีต พร้อมมีด ดาบ และอาวุธปืนที่ผ่านพิธีทางสงฆ์ โดยมีผู้เข้าร่มพิธีดื่มน้ำสาบานในครั้งนี้มีกว่า 200 คน พร้อมกันนี้ทางผู้อำนวยการใหญ่ WWF ประเทศไทย ยังได้มอบเป้สนามพร้อมเครื่องจีพีเอสให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งมอบต่อให้แก่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เพื่อไว้ใช้ออกลาดตระเวนในผืนป่ากุยบุรี

นอกจากนั้น นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยังได้มอบประกาศนียบัตร ให้กับเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนอุทยานฯกุยบุรี ที่ผ่านการฝึกปฏิบัติการต่อต้านการล่าสัตว์ และการตัดไม้ทำลายป่า ที่กองพลทหารราบที่ 9 จ.กาญจนบุรี หลังจากนั้นจึงมาทำพิธีดื่มน้ำ สาบานตนในวิหารศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อในกุฏิ

นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สัตว์ป่ามีความรักลูกรักครอบครัวเหมือนมนุษย์ ทุกคนรักชีวิตเช่นกันสัตว์ป่าก็รักชีวิต อีกทั้งผืนป่ากุยบุรีอยู่ในโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่า บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ท่านมีความห่วงในต่อสัตว์ป่า และผืนป่า เมื่อย้อนหลังไปประมาณ 12 ปีที่แล้วเกิดวิกฤตขึ้นในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ช้างป่าถูกมนุษย์ฆ่าตายไปหลายตัว จนพระองค์ท่านทราบในที่สุดสามารถนำผืนป่ากลับมาพลิกฟื้นจนคนกับช้างอยู่ร่วมกันได้มาถึงปัจจุบันนี้

พระองค์ท่านพระราชทานแนวพระราชดำริในการพลิกฟื้นคืนผืนป่า ไม่ว่าจะเป็น “ให้ดำเนินการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี โดยใช้รูปแบบในการฟื้นฟูเช่นเดียวกับการดำเนินงานของโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ จังหวัดเพชรบุรี และโครงการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ จังหวัดราชบุรี” การปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูกปล่อยให้ขึ้นเองตามธรรมชาติ, ทำ CHECK DAM ในพื้นที่ที่เหมาะสม และช้างควรอยู่ในป่า เพียงแต่ต้องทำให้ป่ามีอาหารช้างให้เพียงพอ โดยการไปสร้างอาหารโดยนำพืชที่เป็นอาหารและเมล็ดพันธุ์พืชไปปลูกและโปรยเพิ่มเติมอีก เพื่อจะได้เป็นอาหารช้างของป่าให้กระจาย เป็นแหล่งเล็กๆ ตลอดจนการสร้างแหล่งน้ำขนาดเล็กกระจายในผืนป่า

นายวีระกล่าวอีกว่า จากไร่สับปะรดในอดีต ปัจจุบันได้กลายเป็นป่าใหญ่ในเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของช้างป่า กระทิง และสัตว์ป่านานาชนิด ดังนั้นในครั้งนี้เมื่อเจ้าหน้าที่ทุกคนสาบานในวิหารศักดิ์สิทธิ์ว่า “จะไม่ล่าสัตว์ป่า” ดังนั้น ขอให้นึกถึงคำสาบานเอาไว้ ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะมาร่วมกันดูแลสัตว์ป่า และป่าผืนนี้ให้มีความอุดมสมบูรณ์เป็นผืนป่าของพ่อที่มีความสำคัญของชาวกุยบุรี ทุกวันนี้อุทยานฯ กุยบุรีได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่ได้รับการขนานนาว่า “ซาฟารีเมืองไทย”

ด้าน นายชุมพล แก้วเกตุ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี กล่าวว่า พิธีให้คำสัตย์ปฏิญาณตนของเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนอุทยานฯ กุยบุรี ครั้งนี้เป็นภารกิจหนึ่งในการฝึกทบทวนทักษะและเสริมสร้างประสิทธิภาพการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการเข้ารับการฝึกรวม 25 นาย ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ กุยบุรีที่เข้ารับการฝึกที่กองพลทหารราบที่ 9 จ.กาญจนบุรี ที่ผ่านมามีขีดความสามารถในการป้องกันตนเองพร้อมทั้งหน่วยลาดตระเวน ในรูปแบบการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ หรือ SMART PATROL ตามนโยบายของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
 

อีกทั้งยังเป็นการดำเนินงานเชิงรุกสนองต่อบันทึกข้อตกลงระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงกลาโหม รวมถึงนโยบายของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในการต่อต้านการและการลอบล่าสัตว์ป่า และบุกรุกแผ้วถางป่า โดยเฉพาะภัยคุกคามด้านต่างๆที่ส่งผลต่อการอนุรักษ์ช้างป่า เสือโคร่ง กระทิง วัวแดง และสัตว์ป่าอื่นๆ ในพื้นที่โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่า บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ







กำลังโหลดความคิดเห็น