อุทัยธานี - เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯ เมืองอุทัยฯ บุกตรวจสอบเหตุแม่ทุบตีลูกวัย 8 และ 5 ขวบ เป็นประจำ จนเพื่อนบ้านทนไม่ไหวแจ้งตำรวจจับ พบเด็กหญิงผู้พี่ ช้ำทั้งตัว บอกไม่โกรธแม้ถูกแม่ตี แต่อยากไปโรงเรียน เผย ผู้เป็นแม่มีอาการทางประสาท แถมเคยติดยามาก่อน ต้องส่งตัวเข้ารักษา รพ.ปากน้ำโพ ก่อน ระบุ หากพบทำร้ายลูกอีก พร้อมแยกเด็กเข้าดูแลแทนทันที
รายงานข่าวจากจังหวัดอุทัยธานี แจ้งว่า หลังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อุทัยธานี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุทัยธานี ว่า ได้มีเหตุแม่ใจร้ายใช้ไม้ไล่ตีลูกของตัวเอง ที่เป็นเด็กหญิง 2 คน ในพื้นที่ตำบลท่าซุง อำเภอเมือง เจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ พม.จึงได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมให้การช่วยเหลือ
บริเวณที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นใต้ถุนโล่ง เลขที่ 125/7 หมู่ 7 ตำบลท่าซุง อำเภอเมืองอุทัยธานี พบเด็กหญิง 2 คนอยู่กับตา และทวด เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบร่องรอยบาดแผล พบรอยช้ำจากการถูกไม้ตีที่หลัง แก้ม และหัวเข่า ของ น้องเอ (นามสมมติ) อายุ 8 ขวบ ส่วนน้องบี อายุ 5 ขวบ ผู้เป็นน้องนั้นไม่พบร่องรอยโดนแม่ของตนตีแต่อย่างไร
จากการสอบถามจึงทราบว่า ก่อนหน้านั้น นางนงนุช ยอดสำเภา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125/7 หมู่ 7 ตำบลท่าซุง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี แม่ของเด็กทั้ง 2 คน ได้ไปทำงานอยู่ที่ โรงงานแถวจังหวัดอยุธยา และได้หย่าร้างกับสามี จึงได้เดินทางกลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่ เพื่อเลี้ยงดูลูกๆ
นายบุญช่วย ยอดสำเภา บิดาของ นางนงนุช เล่าว่า แต่ก่อน นางนงนุช ติดยาบ้าขนาดหนัก และพยายามเลิกจนสำเร็จ แต่หันไปดื่มเหล้าแทน เวลา นางนงนุช ดื่มเหล้าเข้าไปจะมีอาการทางประสาท ไล่ตีลูกๆ เป็นประจำ ขนาดตนที่เป็นพ่อ ยังเคยถูกลูกของตนเองไล่ตีเลย ครั้งนี้เพื่อนบ้านทนดูพฤติกรรมไม่ไหว เนื่องจากใช้ไม้ตีลูกอย่างหนัก จนไม้ที่ใช้ตีแตกหัก จำเป็นต้องแจ้งตำรวจ เพราะเกรงว่าเด็กจะได้รับอันตรายถึงชีวิต รวมทั้งเพื่อนบ้านจะได้รับอันตรายจากการอาละวาดของนางนงนุช ด้วย
สำหรับเด็กทั้งสองเป็นวัยที่จะต้องเข้าโรงเรียนแล้ว แต่ นางนงนุช ไม่ยอมให้เด็กไปโรงเรียนเพื่อเรียนหนังสือเลย
โดย น้องเอ บอกว่า หนูอยากเรียนหนังสือเหมือนกับเพื่อนๆ แต่แม่ไม่ยอมให้ไปโรงเรียน และไม่โกรธที่แม่ตี อยากให้แม่กลับมาบ้านไวๆ และไม่ตีหนูอีก
ส่วน นางนงนุช แม่ของเด็กทั้ง 2 ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช จังหวัดนครสวรรค์ เนื่องจากมีอาการทางประสาท คาดว่า จะใช้เวลา 3-6 เดือนในการรักษา
สำหรับการให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่จากบ้านเด็กและครอบครัว และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดอุทัยธานี ได้มอบสิ่งของใช้จำเป็น นม เสื้อผ้า และของเล่นให้กับเด็กหญิงทั้ง 2 และจะประสานทางโรงเรียนเพื่อให้เด็กเข้าโรงเรียนเสียก่อน หากต่อไปเด็กถูกทำร้ายอีก ก็จะมีพนักงานคุ้มครองเด็ก มาแยกเด็กออกจากครอบครัวให้ไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุทัยธานี ตามกฎหมายต่อไป