ทัพเรือจับเรือประมงเวียดนามรุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ทัพเรือภาคที่ 1 ส่งเรือหลวงมกุฎราชกุมาร ออกไล่ล่าเรือประมงเวียดนามหลายสิบลำ รุกล้ำจับสัตว์ทะเลในน่านน้ำไทย โดยสามารถจับกุมเรือประมงเวียดนาม 1 ลำ พร้อมลูกเรือและไต้ก๋ง 10 คน สารภาพปลาหมึกในน่านน้ำไทยชุกชุม ซ้ำยังตัวใหญ่และมีราคาดี

เมื่อเวลา 00.10 น.วันนี้ (26 ส.ค.) พล.ร.ท.ฆนัท ทองพูล ผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 ได้รับรายงานจากฝ่ายข่าว ว่า ได้พบเรือประมงเวียดนาม รุกล้ำเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทย กระจายอยู่ในทะเลช่วงแลตติจูด 11 .52 องศาเหนือ ลองติจูด 150 องศาตะวันออก ห่างจากเกาะจวง ช่องแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ประมาณ 40 ไมล์ทะเล จึงสั่งการให้ พลเรือตรี ไชยณรงค์ ขาววิเศษ เสนาธิการ ทัพเรือภาคที่ 1 ออกโทรเลขด่วนให้เรือหลวงมกุฎราชกุมาร ที่มี นาวาโท ก้องหล้า ตุ้มภู่ เป็นผู้บังคับการเรือให้ปรับแผนการลาดตระเวนออกตรวจสอบและจับกุมเรือประมงที่กำลังทำการประมงในน่านน้ำ

เมื่อ นาวาโท ก้องหล้า นำเรือพร้อมกำลังพลหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ทัพเรือภาคที่ 1 ออกตรวจสอบได้พบเรือประมงที่มีแสงไฟแตกต่างกับเรือประมงไทย กระจายอยู่หลายพิกัด จึงเข้าทำการจับกุมเรือประมง หมายเลข CN 6687 ความยาว 12 เมตร กว้าง 3 เมตร ขณะทำการประมงโดยใช้แสงไฟจับปลาหมึก และตกปลา พร้อมไต้ก๋งเรือชื่อนายด่อง อายุ 35 ปี และลูกเรืออีก 9 คน และได้นำทั้งหมดส่งมายังท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ และนำเรือประมงเข้ามาเทียบยังท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ ก่อนนำตัวส่งสถานีตำรวจภูธรอำเภอสัตหีบ ดำเนินคดี

ทั้งนี้ การตรวจสอบภายในเรือ และรอบๆ เรือ พบอุปกรณ์ทำการประมง อุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ และปลาหมึก ปลาตากแห้งจำนวนมาก ซึ่งไต้ก๋งเรือ ยอมรับว่า ได้นำเรือเดินทางออกมาจากจังหวัดกาเมา สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม พร้อมเรือในเครือข่ายอีกหลายลำ และสาเหตุที่ต้องเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทย เพราะมีปลาหมึกและปลาขนาดใหญ่ชนิดต่างๆ ชุกชุม ซึ่งเมื่อส่งขายให้กับนายทุนจะให้ราคาดี

ขณะที่ พลเรือโท ฆนัท ทองพูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กล่าวว่า ขณะนี้ตรวจพบว่า มีเรือประมงเวียดนามรุกล้ำเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทยในระยะใกล้ฝั่งจำนวนมาก ทำให้เรือประมงไทยได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากถูกแย่งแหล่งทำมาหากิน จึงได้ส่งเรือหาข่าวดูความเคลื่อนไหวในเรื่องของความมั่นคง และขณะนี้ได้จัดทำแผนดำเนินการให้กับหน่วยเรือและฝ่ายข่าวเรียบร้อยแล้ว เพียงรอวันเวลาที่เหมาะสมจะดำเนินการจับกุมในคราวเดียวกัน