ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ทัพเรือภาคที่2 สงขลาจับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนามจำนวน 1 ลำพร้อมลูกเรือ12 คน ขณะลักลอบเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำอ่าวไทยและกำลังขยายผลเพื่อจับกุมกระบวนการเรือประมง ที่เป็นเรือแม่ในการส่ง น้ำมัน เสบียงอาหาร น้ำจืด ให้เรือประมงเวียดนามเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทย
วันนี้ (27 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. พลเรือโท วิฑูรย์ คัมภีระพันธุ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ได้เดินทางมาทำการ ตรวจสอบและสอบสวนลูกเรือประมงเวียดนามด้วยตัวเอง โดยผ่านล่ามของกองทัพเรือ หลังจากที่เรือ ต.217 ทัพเรือภาคที่ 2 สงขลา จับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนามจำนวน 1 ลำ ชื่อ เรือ BT96086 ST ซึ่งเป็นเรือประมงตกเบ็ดปลาหมึก พร้อมลูกเรือจำนวน12 คน ขณะที่ลักลอบเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำอ่าวไทย บริเวณแบริ่ง 180 ระยะ 15 ไมล์จากเกาะกระ แลต. 8 องศา 08 ลิปดาเหนือ ลอง. 100 องศา 45 ลิปดา ตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่เขตน่านน้ำภายในของประเทศไทย หลังจากนั้นได้ทำการควบคุม เรือ BT96086 ST พร้อมลูกเรือทั้งหมดเข้ามายังท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 สงขลา
ก่อนที่เรือประมงจะถูกจับกุมทางทัพเรือภาคที่2 ได้รับแจ้งจากวิทยุเรือประมงไทย ว่าพบเรือประมงต่างชาติสัญชาติเวียดนาม ลักลอบเข้ามาทำการประมงตกเบ็ดปลาหมึกในเขตน่านน้ำอ่าวไทย ใกล้เกาะกระ ทางทัพเรือภาคที่2 จึงได้สั่งการให้เรือ ต.217 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนในน่านน้ำอ่าวไทย ทำการตรวจสอบและจับกุม จากการตรวจสอบพบเรือประมงสัญชาติเวียดนาม ชื่อ เรือ BT96086 ST กำลังทำการประมงอยู่ในเขตน่านน้ำอ่าวไทย จึงได้ทำการจับกุมพร้อมลูกเรือ จำนวน 12 คน
พลเรือโทวิฑูรย์ คัมภีระพันธุ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เรือประมงเวียดนามที่จับมาจากทางด้านทิศใต้ของเกาะกระ ประมาณ 15 ไมล์ทะเลหรือ 30 กิโลเมตร ที่จับมาเพราะเขาเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทย ปกติเรือประมงเวียดนามถ้าอยู่ในระหว่างกึ่งกลางแบ่งเขตทะเลระหว่างไทยกับเวียดนาม จะใช้วิธีการผลักดันให้ออกไปแต่ในครั้งนี้เข้ามาทำการประมงลึกมาก เรามีความจำเป็นต้องทำการจับกุม เพราะถือว่าตั้งใจที่จะเข้ามาทำการประมงในพื้นที่น่านน้ำของประเทศไทย
ในการจับกุมแต่ละครั้งได้รับเบาะแสจากกรมข่าวทหารเรือ ชาวประมงในพื้นที่ที่แจ้งเรามา เพราะฉะนั้น จึงจำเป็นต้องทำการจับกุมเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่บังคับใช้ และในการจับกุมแต่ละครั้งก็ได้แจ้งไปยังประเทศเวียดนาม เพื่อเป็นการเตือนว่าอย่าให้ชาวประมงรุกล้ำเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำประเทศไทย ถ้าอยู่ในเขตใกล้เส้นเขตแดนเราจะไม่จับเลย ในปีที่ผ่านมา เราได้ผลักดันออกไป 28 ลำ
การจับในครั้งนี้เป็นการจับครั้งที่ 2 และเป็นลำที่ 6 ของปี 2554 เพราะเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมาได้ทำการจับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนาม จำนวน2 ลำ ประกอบด้วยเรือ CM 99613 และเรือ CM 99384 TS ซึ่งเป็นเรือประมงวางเบ็ด พร้อมลูกเรือจำนวน22 คน และเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2554 ก็ได้จับกุมเรือตกปลาหมึกสัญชาติเวียดนาม เพิ่มอีก 3 ลำ ประกอบด้วย เรือCM 99827 TS มีลูกเรือ13 คน เรือ CM 9981476 TS มีลูกเรือ 10 คน และเรือ CM 6058 TS มีลูกเรือ 9 คน
เรื่องนี้ คงจะต้องมีการคุยกันระหว่างกองทัพเรือไทยกับกองทัพเรือเวียดนาม โดยจะมีการไปเยี่ยมเยียนเมืองท่าของกันและกันอยู่แล้วตลอดเวลา เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาตรงนี้ จะได้ลดปัญหากระทบกระทั่งกันระหว่างเรือประมงไทยกับเรือประมงเวียดนาม เพราะเรือประมงไทยเขาก็มาทำการประมงบริเวณนี้เช่นกัน จะต้องดูแลเรือประมงไทยของเราเป็นหลัก เพื่อให้พี่น้องชาวประมงของเรามีที่ทำกิน ไม่มีใครเข้ามาแย่งทรัพยากรสัตว์น้ำ ซึ่งอยู่ในเขตของประเทศเรา
พลเรือโทวิฑูรย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสอบสวนลูกเรือทราบว่า เขาเข้ามาตกเบ็ดปลาหมึกและกำลังสอบสวนอยู่ว่าทำไมถึงเข้ามาลึกขนาดนี้ เข้าใจว่ามาเป็นกระบวนการ กำลังจับตาดูอยู่ว่า หลังจับแล้วเอาไปขายให้กับใคร เพราะปรกติเรือที่มานี้คงมาได้ไม่ไกลมากนักและไม่น่าที่จะมาได้ไกลถึงขนาดนี้ เพราะน้ำมันมีเพียงนิดเดียว กำลังสอบอยู่ว่า มีกระบวนการรับ-ส่ง ในเรื่องของน้ำมัน เสบียงอาหาร น้ำจืด อย่างไร ใครให้การสนับสนุน
และในขณะเดียวกันเราก็กำลังตรวจสอบในเรื่องของเรือประมงไทยที่เข้ามารับซื้อปลาหมึกจากเรือประมงเวียดนาม ซึ่งกำลังขยายผลเพื่อทำการจับกุมเรือประมงไทยในขั้นต่อไป คาดว่าคงจะต้องเป็นเรือขนาดใหญ่และกำลังหามาตรการเพื่อวางแผนจับกุมเรือที่อยู่เบื้องหลังและให้การสนับสนุนเรือประมงเวียดนามเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทย คิดว่าคงใช้เวลาไม่นานน่าจะจับกุมได้ทั้งกระบวนการ