ชาวบ้านร้องหยุดรุกป่าแพร่ ก่อนซ้ำรอย “วังน้ำเขียว”

แพร่ - พบกลุ่มทุนบุกเบิกป่าสร้างอาคาร ชาวบ้านหวั่นเปิดรีสอร์ตปิดเส้นทางสาธารณะ ร้อง อบต.นาพูนตรวจรุกป่าแม่สูง-แม่สิน พบมีมูล รายงานป่าไม้-พ่อเมือง เรื่องเงียบ ทั้งที่เป็นพื้นที่หมู่บ้านรักษาป่าถวายในหลวงเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาปีนี้ด้วย

รายงานข่าวจากจังหวัดแพร่ แจ้งว่า ขณะนี้ชาวบ้านดงยางหมู่ 7 ต.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ กำลังกลัวกันว่าไร่ของแม่เลี้ยง “ป.” เขตหมู่ 7 ต.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ ที่ทำการบุกเบิกเส้นทางขนาดใหญ่เข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่สูงแม่สิน บ่อแก้ว และมีการก่อสร้างอาคารลึกจากเส้นทางสายศรีสัชนาลัย-เด่นชัย ประมาณ 1 กิโลเมตร (กม.) ก่อสร้างทำแนวรั้วถาวร จะเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะปิดเส้นทางเดินหาของป่าที่ชาวบ้านเดินอยู่เป็นประจำ

ชาวบ้านในบ้านดงยาง ต.นาพูน ได้ทำหนังสือถึงนายวิเชียร สมฤทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาพูน (อบต.) มานานกว่า 1 เดือนแล้ว แต่พบว่า ไม่มีการตรวจสอบใดๆ และยังคงปล่อยให้มีการบุกเบิกเส้นทางพร้อมนำไฟฟ้าแรงสูงเข้าไปยังจุดที่มีการก่อสร้างอีกด้วย

ล่าสุดวันนี้ (24 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปดูในพื้นที่ดังกล่าว พบมีการใช้รถแทรกเตอร์ตัดภูเขาทำเป็นเส้นทางขนาดใหญ่ มีเสาไฟฟ้าแรงสูงเดินเข้าไปยังจุดที่มีการก่อสร้างอาคารไม้ และทำแนวรั้วตั้งเสาไม้ขนาดใหญ่ โดยมีคนงานกำลังเร่งทำการก่อสร้าง คล้ายกับการก่อสร้างที่พักหรือรีสอร์ตกลางป่า

ชาวบ้านแจ้งว่า บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าที่ชาวบ้านหาของป่ามานาน ผู้ประกอบการทำรั้วปิดเส้นทางเดินหาของป่า หวั่นว่าจะเกิดปัญหาภายหลังถ้าชาวบ้านเข้าไปหาของป่า และเป็นที่สงสัยว่าการก่อสร้างและนำไฟฟ้าแรงสูงเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างไร ในขณะที่ชาวบ้านขอไฟฟ้ายากมาก ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าวน่าจะเป็นผู้กว้างขวางทำให้ข้าราชการเกรงกลัวและอำนวยความสะดวกให้

นายวิเชียร สมฤทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาพูน เปิดเผยว่า กว่า 1 เดือนแล้วที่มีการบุกเบิกเส้นทางเข้าไปโดยชาวบ้านร้องเรียนมาหลายครั้ง อบต.นาพูน ได้เข้าไปตรวจสอบพบว่า มีการซื้อที่ดินจำนวน 80 ไร่ มีเอกสาร น.ส.2 ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสาร น.ส.2 กับพื้นที่ที่มีการก่อสร้างน่าจะเป็นคนละจุดกัน

เบื้องต้นจากการตรวจสอบของ อบต.นาพูน เชื่อว่า น่าจะเป็นการรุกพื้นที่ป่า และถ้าปล่อยไปก็อาจต้องกลับมานั่งตรวจสอบและขับไล่ที่ยุ่งยากเช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่ “วังน้ำเขียว” อบต.นาพูน จึงได้ทำหนังสือถึง หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.24 สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และทำหนังสือถึงนายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ให้มีการตรวจสอบจุดที่มีการก่อสร้างและถนนที่ตัดเข้าไปในป่าว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่

นายวิเชียรบอกว่า หนังสือจาก อบต.นาพูน ออกไปนานเกือบเดือนแล้ว ยังไม่มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแต่อย่างใด ความจริง อบต.นาพูน ซึ่งทำหน้าที่ปลุกจิตสำนึกชาวบ้านให้หันมารักป่าไม้และอยู่กับป่าได้อย่างเหมาะสมไม่ทำลายป่าไม้มานานหลายปี ปัจจุบันชาวบ้านเห็นความสำคัญของป่าไม้ แต่ทางการกลับนิ่งเฉย โดยเฉพาะพื้นที่ ต.นาพูน คณะกรรมการหมู่บ้านนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายในหลวง ตามโครงการรักป่าสร้างคน 84 ตำบลทั่วประเทศ