บุรีรัมย์ - ตำรวจ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ จับลูกทรพีเพี้ยนฆ่าหั่นศพพ่อบังเกิดเกล้า ขณะป่วยนอนซมอยู่ภายในบ้าน ตัดคอขาด 2 ท่อน แยกชิ้นส่วนยัดกระสอบซ่อนเร้นอำพรางศพ เบื้องต้นตำรวจงดสอบสวน เพราะผู้ต้องหามีอาการหวาดระแวง พร้อมส่งตัวตรวจอาการทางจิตที่ รพ.จิตเวช
วันนี้ (22 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้ทำการจับกุม นายจ่าง หรือ เรือง ครุฑหมื่นไวย อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ถนนพลพัฒนา ต.นางรอง อ.นางรอง หลังก่อเหตุฆ่า นายเพ็ง ครุฑหมื่นไวย อายุ 87 ปี พ่อบังเกิดเกล้า ขณะป่วยด้วยโรคประจำตัว พักฟื้นอยู่ที่บ้านเลขที่ 9 ต.นางรอง อ.นางรอง เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยใช้ค้อนกระหน่ำทุบศีรษะจนเสียชีวิต ก่อนใช้มีดหั่นคอขาดเป็น 2 ท่อน แล้วแยกชิ้นส่วนศีรษะ และลำตัว ใส่กระสอบ 2 ใบ เพื่ออำพรางซ่อนเร้นศพ หวังหลบเลี่ยงความผิด
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบมีดอีโต้ และมีดทำครัว จำนวน 4 เล่ม ค้อนตอกตะปู 1 อัน แต่ไม่พบคราบเลือด ซึ่งคาดว่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ แต่ถูกนำไปล้างทำความสะอาดก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังออกติดตามตัวผู้ก่อเหตุ พบ นายจ่าง หลบซ่อนตัวในเล้าหมูข้างบ้าน จึงเข้าทำการจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน หลังเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาที่โรงพัก นายจ่าง ไม่ยอมให้ปากคำใดๆ และมีอาการหวาดระแวงตลอดเวลา
จากการสอบสวน นายดาวเรือง ครุฑหมื่นไวย พี่ชาย นายจ่าง ผู้ต้องหา ให้การว่า ครอบครัวมีพี่น้องทั้งหมด 5 คน นายจ่าง เป็นคนสุดท้อง และได้อาศัยอยู่กับบิดาตามลำพัง 2 คนมานานหลายปีแล้ว ตั้งแต่แม่เสียชีวิต ส่วนพี่คนอื่นๆ ก็แยกย้ายไปมีครอบครัว ซึ่ง นายจ่าง น้องชายมีอาการป่วยทางประสาทมานาน เคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช 2 ครั้ง พออาการดีขึ้นก็กลับมาอยู่บ้าน และแพทย์จะนัดไปไปรับยามากินเป็นประจำ แต่พักหลัง น้องชาย ไม่ยอมไปรับยาตามกำหนด คาดว่า น้องชายขาดยา จนทำให้อาการทางประสาทกำเริบ จึงได้ก่อเหตุสลดดังกล่าวขึ้น
ขณะที่ พ.ต.อ.พงค์ศักดิ์ สุขอิ่ม ผกก.สภ.นางรอง พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิทธิ์ หวังสุขกลาง พนักงานสอบสวน ได้เข้าตรวจสอบอาการของ นายจ่าง ผู้ต้องหาที่ห้องควบคุมผู้ต้องหา เพื่อจะนำไปทำแผนประกอบคดี แต่ นายจ่าง มีอาการหวาดระแวง ไม่ยอมพูดคุยกับใคร เกรงจะเป็นอันตรายกับผู้อื่น จึงไม่สามารถนำตัวไปทำแผนประกอบการดำเนินคดีได้ ซึ่งกรณีดังกล่าวพนักงานสอบสวน หรือศาลเห็นว่า ผู้ต้องหา หรือจำเลย เป็นผู้วิกลจริต และไม่สามารถต่อสู้คดีได้ จึงให้งดการสอบสวน หรือไต่สวนมูลฟ้อง หรือพิจารณาไว้ จนกว่าผู้นั้นจะหายวิกลจริต หรือสามารถต่อสู้คดีได้ จึงให้งดการสอบสวนไว้ก่อน
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหานายจ่าง “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” พร้อมจะส่งตัวไปตรวจอาการทางประสาทที่โรงพยาบาลจิตเวช นครราชสีมาราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ส่วนมีดและค้อน ที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ จะได้ส่งไปตรวจหาคราบโลหิตที่กองพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดีต่อไป