ป่าไม้ร่วมกำลังผสมเปิดยุทธการปราบขบวนการตัดไม้พะยูง เผยทั่วประเทศเหลือแค่แสนท่อน

อุบลราชธานี -อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับจังหวัดอุบลราชธานี เปิดยุทธการเป็นศัตรูกับขบวนการตัดไม้พะยูง ตั้งเป้าสกัดไม้ไม่ให้ถูกนำออกจากป่าส่งไปขายประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้รับซื้อรายใหญ่ ปัจจุบันไม้พะยูงทั้งประเทศเหลือราว 1 แสนท่อน โดยมีหนาแน่นในเขตป่าอุทยานอีสานใต้

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (21 ส.ค.) ที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับจังหวัดอุบลราชธานี เปิดยุทธการเป็นศัตรูกับขบวนการตัดไม้พะยูง โดยเป็นการสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ตำรวจภูธร ตชด.ทหารพราน และทหารบก จำนวนกว่า 600 นาย

ทั้งนี้ เพื่อกวาดล้างกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ โดยเฉพาะตามพื้นที่ติดต่อแนวชายแดนไทย กัมพูชา และลาว พบขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงทั้งในและนอกประเทศ

ขบวนการตัดไม้จากต่างประเทศแถบชายแดนกัมพูชา จะมีกองกำลังติดอาวุธของทหารกัมพูชาแตกแถวคอยคุ้มกันขบวนการลักลอบตัดไม้ตั้งแต่ จ.สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ทำให้สถานการณ์ลักลอบตัดไม้พะยูงตามแนวชายแดนทั้ง 3 จังหวัดรุนแรงขึ้นทุกวัน เพราะมีการตรวจพบว่าขบวนการลักลอบตัดไม้จากต่างประเทศรุกล้ำเข้ามาในประเทศไทยลึกถึง 8 กิโลเมตร

แสดงว่า ไม้ตามแนวชายแดนที่ใกล้กับประเทศกัมพูชาเริ่มหร่อยหรอน้อยลง โดยไม้ทั้งหมดที่ทหารกัมพูชาลอบเข้ามาตัด จะชักลากไปรวมหมอนในประเทศกัมพูชา ก่อนส่งออกไปทางประเทศเวียดนามและต่อไปประเทศจีน

สำหรับขบวนการตัดไม้ในประเทศไทย จะเป็นกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับจ้างจากนายทุน หลังตัดไม้จะแปรรูปเป็นไม้ท่อนเหลี่ยมซุกซ่อนไว้ในป่า รวมทั้งจมน้ำไว้ตามอ่างเก็บน้ำ ก่อนลอบเข้ามาลำเลียงใส่รถเข็นไปรวมหมอน เพื่อส่งขึ้นรถคอนเทนเนอร์และรถกระบะที่ใช้พืชผลทางการเกษตรปิดทับอำพรางตา และนำผ่านด่านศุลกากรตามแนวชายแดนไทย-ลาว

การสำแดงเท็จเพื่อขอผ่านด่าน หรือนำไม้ที่ตัดขนลงเรือข้ามแม่น้ำโขงเข้าประเทศลาว ผ่านเวียดนาม และมีจุดหมายปลายทางที่ประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้รับซื้อไม้พะยูงรายใหญ่จากประเทศไทย

จากสถิติตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2553 ถึงวันที่ 30 ก.ค.2554 สามารถจับกุมขบวนการตัดไม้พะยูงจำนวน 454 คดี ได้ผู้ต้องหา 229 คน ยึดไม้ของกลาง 352.04 ลบ.ม.เฉพาะอุทยานแห่งชาติภูจองนายอยตรวจยึดไม้พะยูงมากถึงกว่า 70 ลบ.ม.ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อไม้พะยูงจากประเทศจีน โดยไม่กำหนดขนาดเหมือนในอดีต เพื่อทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งเครื่องสักการะต่างๆ เพราะคนจีนมีความเชื่อว่า ไม้พะยูงเป็นไม้มงคลชั้นสูง จึงมีความต้องการไม้ชนิดนี้ที่เป็นไม้ประจำถิ่น มีแหล่งกำเนิดตามอุทยานผาหินในภาคอีสานของไทย ทำให้เชื่อว่าสถานการณ์ลักลอบตัดไม้พะยูงในประเทศจะรุนแรงยิ่งขึ้น

การเปิดยุทธการครั้งนี้ จะสามารถปราบปรามและป้องปรามขบวนการลักลอบตัดไม้ทั้งในและนอกประเทศ และลดความรุนแรงในการลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงส่งขายไปขายต่างประเทศ เพื่ออนุรักษ์ไม้หายากและใช้เวลาในการเจริญเติบโตนานหลายสิบปี

นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงสถานการณ์การลักลอบตัดไม้พะยูงในแหล่งธรรมชาติพื้นที่สุดท้ายของโลกที่เหลืออยู่ในประเทศไทยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีไม้พะยูงเหลืออยู่ราว 80,000-100,000 ต้น โดยส่วนใหญ่อยู่ในอุทยานแห่งชาติตามแนวชายแดนไทย กัมพูชา และลาว

การร่วมปราบปรามครั้งนี้ ต้องการสกัดไม่ให้ขบวนลักลอบตัดไม้สามารถนำไม้ออกจากป่าส่งไปให้ผู้ซื้อ และหลังการจับกุมกลุ่มผู้ลักลอบได้ ก็จะขยายผลสืบสวนให้ถึงตัวนายทุน เพื่อตัดวงจรการลักลอบตัดไม้พะยูง ต่อจากนั้น ก็จะเน้นทำความเข้าใจกับชาวบ้านและตั้งเป็นหมู่บ้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อให้ช่วยดูแลไม้พะยูงไม่ได้ถูกตัดทำลายต่อไปด้วย

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามสามารถจับกุม นายพิชิตชัย พิณยศ อายุ 26 ปี ราษฎรบ้านเลขที่ 36 บ้านแก้งเรือง อ.นาจะหลวย ซึ่งพร้อมพวกประมาณ 30 คน ลักลอบเข้าไปตัดไม้ในเขตป่าอุทยานภูจองนายอยเมื่อกลางดึกคืนวันเดียวกัน และถูกเจ้าหน้าที่ชุดปราบรามจับกุมได้พร้อมไม้พะยูงของกลางแปรรูปแล้วจำนวน 3 ท่อน มูลค่าประมาณ 20,000 บาท ส่วนพวกสามารถหลบหนีไปได้ จึงคุมตัวดำเนินคดีฐานตัดไม้ในเขตห้วงห้ามดำเนินคดีต่อไป