สุรินทร์-ทหาร-ตชด.-อส.-ป่าไม้ บูรณาการกำลังติดอาวุธ ออกลาดตระเวน ชายแดนไทย-กัมพูชา ตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อป้องกันลักลอบตัดไม้ และปราบสิ่งผิดกม.ทั้งยาเสพติด-อาวุธสงคราม เผย 6 เดือนจับกุมแก๊งลอบตัดไม้พะยูง 7 ครั้ง ยึดไม้กว่า 125 ท่อน แต่ผู้ต้องหาหนีรอดหมด เหตุทำเป็นขบวนการ มีนายทุน-จนท.รัฐไทย-เขมรร่วมพร้อมกองกำลังติดอาวุธคุ้มกัน
วันนี้ (22 มี.ค.) ที่สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ในฐานะผู้อำนวยการรักษา ความมั่นคงภายในจังหวัดสุรินทร์ ได้ประชุมและวางแผน โครงการแก้ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า และการป้องกันการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ ร่วมกับ พล.ต.ชวลิต ชุนประสาน ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกลสุรนารี) ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ส่วนแยก 2 กองทัพภาคที่ 2
พร้อมทั้งได้ร่วมกันทำพิธีปล่อยแถวกำลังเจ้าหน้าที่ติดอาวุธ ประกอบด้วย ทหารชุดเฉพาะกิจที่ 2, ชุดเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26, ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21, กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ, เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ทั้ง 4 อำเภอ ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประกอบด้วย อ.พนมดงรัก,อ.กาบเชิง, อ.สังขะ และ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์
ทั้งนี้ เป็นการบูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานในการออกลาดตระเวน ตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อป้องกันการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าและการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน โดยเฉพาะไม้พะยูง ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามหายาก มีลวดลายสวยงามราคาแพง เป็นที่ต้องการของตลาดผู้มีรายได้สูงทั้งภายในและต่างประเทศ
จากการรายงานข้อมูล พบว่า ในช่วงเดือน ต.ค.2553-มี.ค.2554 เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดไม้พะยูง จำนวน 7 ครั้ง รวมเป็นไม้ท่อน 125 ท่อน จำนวน 1.68 ลูกบาศก์เมตร ผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ทุกครั้ง เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าตามแนวชายแดน ซึ่งการลักลอบตัดไม้ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทำกันเป็นขบวนการ มีนายทุน เจ้าหน้าที่รัฐไทย-กัมพูชา เข้าร่วมเป็นเครือข่าย พร้อมมีกลุ่มติดอาวุธ เข้ามาสั่งการและคุ้มครองในการลักลอบตัดไม้พะยูงแต่ละครั้ง อีกทั้งยังมีการลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมาย ทั้งยาเสพติด และอาวุธสงครามตามบริเวณพื้นที่แนวชายแดน เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจำเป็นต้องบูรณาการความร่วมมือในการปฏิบัติงาน ให้ได้ผลอย่างจริงจัง
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องรุกประชาสัมพันธ์สร้างความร่วมมือกับประชาชน และส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อสร้างจิตสำนึกให้มีความรักป่า สร้างป่าชุมชน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน พร้อมทั้งการป้องกันและปราบปรามไม่ให้มีการกระทำผิดกฎหมาย และสร้างเงื่อนไขปัญหาชายแดน ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป