ลำปาง - ป.ป.ท.-ดีเอสไอ ลงพื้นที่ลำปาง ประชุมร่วมผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเอาคืนป่าสงวนแม่เมาะแปลง 2 พื้นที่เกือบ 30,000 ไร่ให้เป็นป่าชุมชนหลังเอกชนเข้าฮุบทำประโยชน์
วันนี้(20 ส.ค.) นายสุวรรณ กล่าวสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เป็นประธานในการประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวน (แม่เมาะแปลง2) รวมทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสุขภาพจังหวัดลำปาง ซึ่งนำโดยนายบุญสม ชมพูมิ่ง พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดลำปาง วานนี้(19 ส.ค.54)
เพื่อติดตามผลการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ของผู้ที่ถือครองป่าสงวนแม่เมาะแปลง 2 ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ 4 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลบ่อแฮ้ว ตำบลบ้านเป้า ตำบลต้นธงชัย และตำบลบ้านเอื้อม อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง หลังกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมฯได้ยื่นเรื่องให้กับทางจังหวัด , ป.ป.ท. และดีเอสไอ.ให้เข้าตรวจสอบการพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากมีการจำหน่ายที่ดินให้กับบุคคลอื่นเข้าไปแผ้วถางป่าเป็นจำนวนมาก จนส่งผลให้ทางจังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการฯ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้น
ทั้งนี้เดิมป่าแม่เมาะแปลง 2 อยู่ระหว่างการดำเนินงาน 3 ส่วน คือ 1. พื้นที่ ที่ราษฎรที่ครอบครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้เช่า 2.ที่ดินของมูลนิธิสุขสะอาดปิยะวรรณ อ้างว่า จะนำไปปลูกป่า ครม.มีมติให้เป็นป่าส่วนกลางที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน และ 3.ที่ของ บจก.วนชัย เช่าสัมปทานปลูกอ้อย แต่บริษัทไม่ได้ดำเนินการ ให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่สาธารณะ ซึ่งทั้ง 3 ส่วน อยู่ในพื้นที่ป่าแม่เมาะแปลง 2 รวม 22,400 ไร่
หลังจากนั้นได้ให้คณะกรรมการฯตรวจสอบว่า ในพื้นที่ ที่เป็นป่าแม่เมาะแปลง 2 ทั้งหมดรวมพื้นที่ 53,000ไร่ และเป็นพื้นที่ ที่จะต้องเป็นป่าชุมชน จำนวน 22,400ไร่ ต้องให้ผู้ครอบครองออกนอกพื้นที่ เพื่อให้ชุมชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ส่วนที่อยู่นอกเหนือให้เร่งออกโฉนดให้กับชาวบ้านให้แล้วเสร็จ ซึ่งส่วนนี้ได้ดำเนินการออกโฉนดไปแล้วกว่า80% แล้วและให้ดำเนินการในส่วนนี้ให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2554นี้
จากการตรวจสอบล่าสุดของกรมที่ดิน ปรากฏว่า พื้นที่ที่แท้จริงที่จะต้องยึดคืนกลับมาเป็นป่าส่วนกลางที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน จากเดิม 22,400 ไร่ เพิ่มเป็น 28,000ไร่ ครอบคลุม3ตำบล คือ ตำบลบ้านเอื้อม ประมาณ 8,000 ไร่ ตำบลต้นธงชัย ประมาณ 10,000 ไร่ และตำบลบ้านเป้า ประมาณ 10,000 ไร่ เนื่องจากผู้ที่ครอบครองปัจจุบันได้เข้าครอบครองหลังปี 2513 ดังนั้นจึงยังคงเป็นป่าสงวนแม่เมาะแปลง 2 ไม่สามารถออกโฉนดได้