ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- อธิบดีกรมอุทยานฯ เผยพร้อมสนับสนุนอาวุธปืน-กระสุนให้อุทยานฯ ทับลานและพื้นที่อื่นทั่วประเทศ ระบุเตรียมเสนอขออาวุธปืนอาก้า 100 กระบอกพร้อมกระสุน 1 แสนนัดจากกรมปกครองและกองทัพบก เพื่อลุยปราบแก๊งลักลอบตัดไม้และกลุ่มบุกรุกป่า ชี้ส่วนใหญ่จะส่งให้พื้นที่อีสานตอนล่าง เหตุกลุ่มผู้บุกรุกเข้ามาลอบตัดไม้พะยูงมีอาวุธ พร้อมมอบ“หลวงปู่เจียม” ของขลังให้ หน.อุทยานฯทับลานไว้คุ้มครองป้องกันไข้โป้ง
วันนี้ (19 ส.ค.) นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมหารือกับผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ จ.นครราชสีมา ถึงกรณีมีการข่าวการเคลื่อนไหวของกลุ่มมือปืนใกล้อุทยานแห่งชาติทับลานทำให้หัวหน้าอุทยานฯ ต้องระมัดระวังตัวถึงขั้นสวมเสื้อเกราะ ว่า ไม่มีใครทำอะไร เราเป็นข้าราชการทำงานตามกฎหมาย คิดว่าพี่น้องประชาชนเป็นมิตรกับเราทั้งนั้น เพียงแต่เราอย่าเลือกปฏิบัติ ถ้าเลือกปฎิบัติ ก็จะเป็นภัยต่อตัวเอง ใครผิดต้องจับหมดให้เท่าเทียมกัน ไม่มีเสื้อใครใส่เสื้อเกราะเพราะยังไงก็กันไม่ได้เขายิงหัวเอา (หัวเราะ) ตอนนี้กำลังใจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานดีขึ้น เพราะแนวทางการแก้ไขปัญหานั้น ต้องมีการพูดคุยกัน อะไรยอมได้เราก็จะยอม แก้ได้เราก็พร้อมแก้ แต่ที่ฝ่าผืนเป็นคดีความก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ส่วนกรณีที่ทางอุทยานแห่งชาติทับลานร้องขออาวุธปืนและยานพาหนะ เพิ่มนั้นทางกรมฯ พร้อมจะสนับสนุนทั้งอาวุธปืนและกระสุน โดยจะประสานขอจากทางกรมการปกครอง และกองทัพบก ในเรื่องดังกล่าว ซึ่งการสนับสนุนอาวุธปืนนั้นเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ และบางครั้งหากเกิดอะไรขึ้นในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่จะได้ป้องกันตัวเองได้ และเอาไว้เป็นเพื่อนเป็นกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน แต่คิดว่าคงไม่มีอะไร ตอนนี้อาวุธปืนส่วนใหญ่ถูกส่งลงไปทางใต้หมดจึงจะขอไปทางอธิบดีกรมการปกครองประมาณ 100 กระบอก เป็นอาวุธปืนอาก้า พร้อมกระสุนอีกประมาณ 100,000 นัด ซึ่งจะนำมาใช้ทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะที่อุทยานแห่งชาติทับลาน เพราะศัตรูไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ศัตรูอยู่ที่ทางอีสานใต้ ซึ่งขณะนี้กำลังเปิดศัตรูกับผู้ลักลอบตัดไม้พะยูงเพราะมีการลักลอบตัดทุกวัน
“ตอนนี้เรามีปืน HK และลูกซอง แต่กระสุนมีอยู่น้อยมาก ที่เอาปืนส่งไปทางอีสานใต้ เพราะกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้เขามีอาวุธ ถ้ามีการปะทะกันก็มีการสูญเสีย ความจริงเราไม่อยากให้เกิดการปะทะเพราะเห็นใจประชาชนมีนักเรียนและเด็ก ๆ เข้าไปช่วยตัดไม้มาแลกยาบ้า ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมากทุกฝ่ายต้องช่วยกัน เพราะเป็นการบ่อนทำลายชาติอย่างร้ายแรง และยังทำลายทรัพยากรมนุษย์อีก ฉะนั้นศัตรูมันอยู่ทางโน้น เรื่องของวังน้ำเขียวเป็นเรื่องเล็ก ๆ เพียงแต่จะทำอย่างไรที่จะควบคุมมันได้เท่านั้น” นายสุนันต์ กล่าว
นายสุนันต์ กล่าวอีกว่า กรณีที่ชาวบ้านเรียกร้องให้กรมอุทยานฯ ยอมรับแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานที่เคยตกลงร่วมกันไว้ในปี 2543 นั้น เรื่องนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาซึ่งจะเป็นช่องทางหนึ่งที่จะคุยกันได้ ซึ่งแนวเขตดังกล่าวนั้นมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณากรณีชาวบ้านที่อยู่มาก่อนประกาศเขตอุทยานฯ ครอบ ซึ่งจุดนั้นเราจะให้ความเป็นธรรม โดยมีมติ ครม. 2541ที่เราได้ทำแนวควบคุมกันไว้ ซึ่งเราพยายามดำเนินการตามหลักการที่ให้ไว้ โดยให้กระทบชาวบ้านน้อยที่สุดเพื่อลดความขัดแย้ง และให้จบเร็วที่สุด ซึ่งมีพื้นที่ค่อนข้างมากประมาณ 1.4 ล้านไร แต่ของ อ.วังน้ำเขียวประมาณกว่า 10,000 ไร่ และต้องเข้าใจว่าชาววังน้ำเขียวตกเป็นจำเลยถูกสื่อนำเสนอเช้า กลางวัน เย็นตลอด ฉะนั้นจึงอยากให้จบโดยเร็วแต่การดำเนินการกับกลุ่มผู้บุกรุกที่ศาลตัดสินไปแล้วก็ต้องเดินหน้าดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป
ต่อข้อถามจะป้องกันอย่างไรไม่เกิดปัญหาการบุกรุกป่าแบบนี้ขึ้นอีก นายสุนันต์ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนี้คงจะเป็นบทเรียนที่สำคัญของทั่วประเทศ จากนี้ไปคงต้องเพิ่มการลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ให้ถี่ขึ้นและทำความเข้าใจกับราษฎรในพื้นที่ ให้ความรู้กับประชาชน และชาวบ้านเข้ามาเป็นอาสาสมัคร พร้อมหาแนวร่วมในพื้นที่เพื่อใช้เป็นกลไกในการทำงาน เพราะหากไม่มีความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่แล้ว การดูแลป่าก็จะทำได้ลำบาก ทั้งไฟป่า และแนวเขตต่างๆ ฉะนั้นการทำงานจากนี้ไปคงต้องเป็นเชิงรุก
นายสุนันต์ กล่าวถึงกรณีการร้องเรียนอดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลานที่พัวพันกับการรุกป่าว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) ซึ่งหากมีการปล่อยปละละเลยก็ต้องมีโทษทางวินัย ซึ่งตนยังไม่ทราบรายละเอียดมากเพราะมอบให้กับ ผู้อำนวยการสำนักฯ ดำเนินการตรวจสอบ คิดว่าเร็ว ๆ นี้จะได้คำตอบซึ่งกรอบการทำงานมีอยู่แล้วในการตรวจสอบไม่เกิน 60 วัน เรื่องนี้ประชาชนไม่ต้องเป็นห่วงทุกอย่างเป็นไปตามกฎระเบียบ เพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันรวมถึงข้าราชการด้วย
ต่อข้อถามพอใจการทำงานปราบปรามกลุ่มผู้บุกรุกป่าของอุทยานแห่งชาติทับลานหรือไม่ นายสุนันต์ กล่าวว่า หัวหน้าอุทยานฯทับลานเขาเข้มแข็ง ค่อนข้างมีเมตตา มีมนุษยสัมพันธ์ เพราะการทำงานของหัวหน้าอุทยานฯ และเจ้าหน้าที่ค่อนข้างลำบากพอสมควรเพราะไปกระทบกับคนส่วนใหญ่ ก็ขอฝากกับพี่น้องประชาชนว่าต้องให้ความเห็นใจและเคารพในกฎหมายเพราะเราไม่ทำร้ายใครแน่นอน และยืนยันว่าประชาชนที่เข้ามาอยู่ก่อนเป็นป่าไม่กระทบแน่นอน จะได้รับการคุ้มครองสิทธิ์ 100% ขณะที่ทางกรมฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาสนับสนุนอุทยานฯทับลานในด้านกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ขณะรอขึ้นรถยนต์เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ อธิบดีกรมอุทยาน ได้มอบเครื่องรางของขลังเป็นสร้อยคอ ประกอบด้วย เหรียญหลวงปู่เจียม เกจิชื่อดังของภาคอีสาน เจ้าอาวาสวัดอินทราสุการาม อ.สังขละ จ.สุรินทร์, พระเครื่องอีก 1 องค์ , กระสุนปืนปลุกเสก 2 นัด และ ยันต์ตะกั่วอีก 2 แผ่น มอบให้กับ นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองป้องกันภยันตรายต่างๆ ซึ่งสร้างความดีใจให้แก่ นายเทวินทร์เป็นอย่างมาก