เชียงใหม่เตรียมจัด “มหกรรมหมอพื้นบ้านนานาชาติ” หวังผลักดันการแพทย์พื้นบ้านก้าวหน้า

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่เตรียมเป็นเจ้าภาพ “มหกรรมหมอพื้นบ้านนานาชาติ” 24-28 ส.ค.นี้ ในงานมีทั้งการประชุมวิชาการ-นิทรรศการด้านแพทย์พื้นบ้าน พร้อมคลินิกรักษาสำหรับผู้สนใจ ตั้งเป้าปลุกกระแสรักษาสุขภาพตามแบบดั้งเดิม-พัฒนาแพทย์แผนไทยให้ก้าวหน้าทัดเทียม ตปท.ด้าน ผวจ.ระบุเป็นโอกาสดีได้เผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่น-หนุนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และสมาพันธ์แพทย์แผนไทยล้านนา เตรียมเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน “มหกรรมหมอพื้นบ้านนานาชาติ : Chiang Mai International Conference and Exhibition on Traditional Medicine - ICETM2011” ขึ้นในระหว่างวันที่ 24-28 ส.ค.54 ณ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต จังหวัดเชียงใหม่ และได้ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับการจัดงานดังกล่าวขึ้นเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ณ ห้องอิมพีเรียล 1 โรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง จ.เชียงใหม่

การแถลงข่าวการเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมหมอพื้นบ้านนานาชาติในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมในการแถลงข่าวจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วย หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รศ.นพ.นิเวศน์ นันทจิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภญ.นฤมล ขันตีกุล ตัวแทนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นายวัลลภ เผ่าพนัส ประธานสมาพันธ์การแพทย์แผนไทยล้านนา และ นางสาวปานจิตต์ พิศวง พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ท่ามกลางบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับงานด้านหมอพื้นบ้าน และสื่อมวลชนที่เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าว ขณะที่ภายนอกห้องแถลงข่าวได้มีการจัดสาธิตการรักษาตามแนวทางหมอพื้นบ้าน อาทิเช่น การนวดแผนไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก

การจัดงานมหกรรมหมอพื้นบ้านนานาชาติเป็นผลสืบเนื่องจากนโยบายของภาครัฐที่ต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพของเอเชีย (Medical Hub of Asia) ประกอบกับในปัจจุบันประเทศต่างๆ หันมาให้ความสนใจกับการแพทย์พื้นบ้านเพิ่มมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากการประชุมประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลก ว่าด้วยการผสานการแพทย์พื้นบ้านเข้ากับระบบการดูแลสุขภาพ ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 7-9 พ.ย.2551 ซึ่งในที่ประชุมดังกล่าว องค์การอนามัยโลกได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกผนวกการแพทย์ดั้งเดิมเข้าในระบบสาธารณสุขมูลฐาน โดยให้นับว่าผู้ประกอบโรคศิลปะด้านการแพทย์ดั้งเดิมเป็นส่วนหนึ่งของบุคลากรสาธารณสุขด้วย

ขณะเดียวกัน กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ซึ่งประกอบไปด้วย ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน และเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานมหกรรมหมอพื้นบ้านนานาชาตินั้น ถือเป็นกลุ่มจังหวัดที่มีภูมิปัญญาด้านแพทย์พื้นบ้านที่มีมาอย่างยาวนานและมีเอกลักษณ์ จึงถือเป็นโอกาสดีที่จะได้นำองค์ความรู้ต่างๆ ของการแพทย์พื้นบ้านในพื้นที่ของกลุ่มจังหวัดมาแลกเปลี่ยนกันกับภูมิปัญญาด้านแพทย์พื้นบ้านจากประเทศต่างๆ ที่จะเข้าร่วมในงานดังกล่าว เพื่อพัฒนาการแพทย์พื้นบ้านให้มีความก้าวหน้า และนำไปสู่การพึ่งพาตนเองในการดูแลสุขภาพของประชาชนในประเทศต่างๆ ให้มากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาการแพทย์แผนปัจจุบันเพียงด้านเดียว

ทั้งนี้ การจัดงานมหกรรมหมอพื้นบ้านนานาชาติจะประกอบกด้วยการจัดการประชุมวิชาการนานาชาติด้านการแพทย์พื้นบ้าน นิทรรศการหมอพื้นบ้านนานาชาติและผลงานทางวิชาการเกี่ยวกับภูมิปัญญาหมอพื้นบ้าน 8 ประเทศครอบคลุมทั้ง 5 สาขา นิทรรศการความรู้เกี่ยวกับการแพทย์แผนไทย และบริการคลินิกทางการแพทย์ต่างๆ สำหรับผู้ที่สนใจ โดยมีผู้เข้าร่วมและสังเกตการณ์ทั้งของประเทศไทยและจากต่างประเทศราว 70 คน

หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมหมอพื้นบ้านนานาชาติ ว่า การจัดงานดังกล่าวถือเป็นโอกาสอันดีที่ระเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จะได้เผยแพร่ชื่อเสียงและภูมิปัญญาด้านการแพทย์พื้นบ้านให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ ขณะเดียวกัน งานดังกล่าวยังช่วยส่งเสริมความร่วมมือในการยกระดับและพัฒนาองค์ความรู้ด้านการแพทย์พื้นบ้าน รวมทั้งยังเป็นการเสริมสร้างโอกาสทางการท่องเที่ยวในเชิงวัฒนธรรมสุขภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นของจังหวัดเชียงใหม่ได้อีกทางหนึ่งด้วย