วันนี้(13 ส.ค.) นายชัยณรงค์ ดูดดื่ม หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง นายประวิท ภิญโญ ปลัดอำเภอภูเรือ ร.อ.เสถียร ตาสว่าง ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 2101จ.ส.ต.คำนวน ผาอินทร์ ทพ.สนธ์ พิมพ์โม้ ทพ.สุรัตน์ แก้วมณี ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้พุทธศักราช2484 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 นำตัวผู้ต้องหา 5 ราย ส่งพนักงานสอบสวน พ.ต.ท. ประสาร พรศรี พงส.(สบ.3) สภ. ภูเรือ
หลังจากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหา ซึ่งเป็นชาวเวียดนามจำนวน 5 คน มาแถลงข่าว ประกอบด้วย 1. นาย ดวนดิน ทรี 2. นาย เล วัน ทุย 3. นาย เล วัน พุง 4. นาย เหงียน วัน เทียน และ5. นาย เล ชวน ยุง ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงจับกุม บริเวณ ป่าทับแทรกเตอร์ บ้านนาน้อย ต.ท่าศาลา อ.ภูเรือ จ.เลย ได้ของกลางถุงปุ๋ย 3 ถุง ไม้กฤษณา ที่ตัดแล้ว 1 ท่อน น้ำหนักรวม 62 กิโลกรัม รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท ขวาน 2 เล่ม มีด 2 เล่ม สิ่ว 7 อัน โทรศัพท์ยี่ห้อโนเกีย 4 เครื่อง
นายชัยณรงค์ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากกรณีที่เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงได้เคยทำการจับกุม ตรวจยึด ผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นชาวเวียดนามได้จำนวน 1 คน พร้อมด้วยของกลางไม้กฤษณา จำนวน 3 กิโลกรัมก่อนหน้านี้ คณะเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบต่อมาว่ายังมีกลุ่มผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นชาวเวียดนาม ประมาณ 7 – 10 คน เข้ามาลักลอบตัดโค่นต้นไม้หอม (กฤษณา) อยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบแล้วนั้น
นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายชัชวาล พิศดำขำ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และนายอำนาจ อึงขจรกุล ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 (ขอนแก่น) นายพรศักดิ์ เจียรนัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ออกสืบสวน สอบสวน ติดตามกลุ่มผู้กระทำผิด กลุ่มที่อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 5 คน
พฤติกรรมของบุคคลกลุ่มนี้ ได้พยายามเข้ามาตัดโค่นไม้กฤษณาในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงตลอดมา แต่สามารถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไปได้ทุกครั้ง เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงจึงได้ทำการวางสายข่าวสืบสวนเพื่อทำการออกตรวจปราบปรามและลาดตระเวณอย่างเข้มข้นโดยใช้ระบบลาดตระเวณเชิงคุณภาพมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน จึงสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกลุ่มดังกล่าวได้
ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 03.45 น.ของวันนี้( 13 ส.ค.) คณะเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงคนกำลังตัดและสับต้นไม้อยู่คณะเจ้าหน้าที่จึงค่อยๆ คืบคลานโอบล้อมเข้าไปใกล้ที่เกิดเหตุแต่เนื่องจากเวลาในขณะนั้นเป็นเวลากลางคืนคณะเจ้าหน้าที่จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อที่จะไม่ให้ผู้กระทำความผิดรู้ตัวและป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น พอถึงสถานที่เกิดเหตุตรวจพบชายจำนวน 5 คนตั้งแค้มป์ไฟอยู่โดยมีชาย 4 คนกำลังใช้มีดสับชิ้นไม้กฤษณา(ไม้หอม)อยู่และมีชายอีก 1 คนทำหน้าที่เป็นเวรยาม
คณะเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้เข้าทำการตรวจค้นและจับกุมตัวชายทั้ง 5 คนดังกล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง ข้อหา 1.ฐานเก็บหาของป่าหวงห้าม หรือทำอันตรายด้วยประการใดๆแก่ของป่าหวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาตตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 29 2.ฐานมีของป่าหวงห้ามเกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 29 ทวิ 3.ฐานเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535มาตรา 37 4.ฐานตัด โค่น แผ้วถาง เผา หรือทำลาย ต้นไม้หรือพฤกษชาติอื่นโดยมิได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 38