ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านบางปะกง รุกหนักเตรียมเดินหน้าแจ้งข้อหาโรงงานลักลอบทิ้งขยะ ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานเพิ่ม หลัง เมินไม่ยอมขนย้ายสารเคมีให้พ้นพื้นที่ ตามมติที่ประชุม ด้านรองผู้ว่าฯยังให้โอกาสถึงสิ้นเดือนนี้
วันนี้ (11 ส.ค.54 ) นายสุชาติ แสวงไวศยสุข นายก อบต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึง กรณีมีโรงงานลักลอบนำกากสารเคมีของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมมาทิ้ง ที่บริเวณ ม.3 ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จนทำให้เกิดผลกระทบต่อการประกอบอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณปากอ่าวแม่น้ำบางปะกงของชาวบ้าน โดยเฉพาะโรงเรียนในท้องถิ่นได้รับผลกระทบด้วย
ที่ผ่านมามีการประชุมจากหลายหน่วยงานและมีมติให้โรงงานขนย้ายสารเคมีดังกล่าวออกนอกพื้นที่ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการขนย้ายกากของเสีย และสารเคมีออกไปจากพื้นที่ หลังเจ้าของโรงาน บริษัทซิง ไล ฟา จำกัด รับปากว่าจะทำการขนย้ายภายในเวลา 10 วัน และไม่เกินหนึ่งเดือน
นายสุชาติ กล่าวต่อไปว่า ในวันนี้ทางจังหวัดฉะเชิงเทราได้เรียกประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง เพื่อหาแนวทางในการดำเนินการในขั้นต่อไป หากเมื่อครบกำหนดเวลา 30 วันแล้ว ทางบริษัทฯยังไม่ทำตามที่ได้รับปากไว้ ซึ่งที่ประชุมจะให้ตน ซึ่งเป็นนายก อบต.สองคลอง และอยู่ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางปะกง ให้ดำเนินคดีต่อน.ส.ปราณีต สติน และบริษัท ซิง ไล ฟา จำกัด อีกหนึ่งข้อหา คือ ข้อหา"ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน" ตามที่ได้เคยออกคำสั่งให้ขนย้ายสิ่งที่ก่อให้เกิดมลพิษในพื้นที่และส่งผลกระทบทางด้าน พ.ร.บ.สาธารณสุขต่อชุมชนออกไปให้พ้นจากพื้นที่แล้วนั้น
ที่ผ่านมาทาง อบต.และหน่วยงานในพื้นที่พยายามติดต่อกับน.ส.ปราณีต สติน หลายครั้ง หลายวิธีการด้วยกันเพื่อติดตามความคืบหน้าในการขนย้าย และหารือถึงวิธีการร่วมกันแต่บุคคลดังกล่าวไม่ยอมติดต่อเลย และ ขณะนี้สารเคมีที่ถูกนำมาฝังกลบนั้น ก็ยังคงมีการรั่วไหลซึมออกมาลงสู่ลำคลองสาธารณะที่บริเวณปากอ่าวแม่น้ำบางปะกงอยู่ในช่วงนี้
ด้านนางสุมิตรา ศรีสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า สาเหตุที่ยังไม่ยอมขนย้ายเอาสารเคมีที่แอบนำมาฝังกลบทิ้งไว้ออกไปจากพื้นที่นั้น อ้างว่าไม่มีเงินที่จะทำการขนย้าย เนื่องจากค่าการขนย้ายกากสารเคมีและส่งไปบำบัดมีราคาค่าดำเนินการสูง ซึ่งที่ผ่านมาหลายฝ่ายก็ได้พยายามที่ช่วยเหลือหาแหล่งกำจัดที่ถูกต้องตามกฎหมายให้ แต่ น.ส.ปราณีต ก็ยังอ้างว่ามีราคาค่าดำเนินการที่แพงเกินไปจึงเกี่ยงงอนราคามาโดยตลอด
แต่อย่างไรก็ตามล่าสุดทราบว่าผู้ประกอบการรายนี้สามารถจัดหาผู้ที่จะเข้ามาดำเนินการในราคาที่ถูกกว่ารายอื่นๆได้แล้ว ซึ่งทางจังหวัดจะรอไปก่อนโดยเบื้องต้นจะให้ธนารักษ์จังหวัดเข้าไปทำการติดต่อ เพื่อให้เขียนแผนการดำเนินงาน เสนอออกมาให้ชัดเจนและหากพ้นกำหนดเกิน 30 วันแล้ว ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ทางจังหวัดจะให้เจ้าพนักงานในท้องถิ่นเข้าดำเนินการตามกฎหมายต่อไป