รง.ลักลอบทิ้งกากเคมียกธงยอมแพ้ หลังถูกชาวบ้าน-หน่วยงานรัฐกดดันหนัก

ฉะเชิงเทรา - โรงงานทิ้งกากเคมียกธงยอมแพ้ชาวบ้านและหน่วยงานรัฐหลังถูกกดดันอย่างหนักและต่อเนื่อง เตรียมว่าจ้างบริษัทรับกำจัด อย่างถูกวิธี ขนย้ายออกนอกพื้นที่

วันนี้ (26 ก.ค.) ที่ห้องประชุม 2 ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา นางสุมิตรา ศรีสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานเปิดการประชุมเจรจาหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกันครบทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับกรณีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง (บริษัท ซิง ไล ฟา จำกัด) ที่ลักลอบนำกากสารเคมีจากภาคอุตสาหกรรมมาฝังกลบ ที่บริเวณใกล้ปากอ่าวแม่น้ำบางปะกง พื้นที่ ม.3 ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จนส่งผลกระทบทำให้ชาวบ้านไม่สามารถประกอบอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้ และมีนักเรียนในโรงเรียนแสมขาววิทยาคาร ซึ่งมีรั้วติดกันได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็น จากการฟุ้งกระจายและฝุ่นปรนเปื้อนสารเคมีดังกล่าว

การประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วย นายสันไชย ฉายวิเชียร อัยการจังหวัด, นายสุรพล สุนทรจินดา อุตสาหกรรมจังหวัด, นางรัตนา สมสวัสดิ์ ธนารักษ์จังหวัด, นายสุชาติ แสวงไศยสุข นายก อบต.สองคลอง, นายพรศักดิ์ ไชยพร ปลัด อ.บางปะกง, พ.ต.ท.วรวุฒิ สุวรรณวิก รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.สมศักดิ์ เอี่ยมอิ่ม พนักงานสอบสวน สบ3 เจ้าของคดี สภ.บางปะกง นายพิเชฐ พิศภา นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการตัวแทนจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านอีกจำนวน 10 คน และ น.ส.ปราณีต สดินเจ้าของกิจการผู้เช่าพื้นที่จากกรมธนารักษ์ ซึ่งมาพร้อมด้วย นายอเนก สมประเสริฐ ทนายความส่วนตัว

ในที่ประชุมเป็นไปอย่างประนีประนอม โดยให้แต่ละฝ่ายแสดงความเห็น และเหตุผลต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามแนวทางของ นางสุมิตรา ศรีสมบัติ ที่ใช้วิธีการพูดคุยแบบไกล่เกลี่ยและมีการพูดจากระทบกระทั่งกันบ้างเป็นบางครั้ง ระหว่างทนายความกับฝ่ายของชาวบ้าน ก่อนที่การประชุมจะสิ้นสุดลง โดยใช้เวลาในการพูดคุยนานกว่า 3 ชั่วโมง

หลังการประชุม นางสุมิตรา กล่าวว่า ในที่ประชุมทาง น.ส.ปราณีต ผู้เช่าที่ดินดังกล่าว อ้างว่า สาเหตุที่ยังไม่ทำการขนย้ายสารเคมีนั้น เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการรอผลพิสูจน์หาค่าความเป็นพิษของสารเคมีที่ถูกนำมาทิ้ง ว่า มีสารเคมีชนิดใดและมีความรุนแรงอย่างไรบ้าง ซึ่งเมื่อทราบแล้ว จะมีผลเกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายในการ ว่าจ้างบริษัทมีที่แหล่งกำจัดกากสารเคมีจากภาคอุตสาหกรรมอย่างถูกต้องนำไปกำจัดต่อไป

น.ส.ปราณีต กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ตนรับปากว่าจะเร่งดำเนินการ จัดหา และว่าจ้างบริษัทผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้กำจัดสารเคมีอันตรายเข้ามาดำเนินการอย่างเร่งด่วน ตามที่ทางจังหวัดเรียกให้เข้ามารับทราบปัญหา ภายใน 10 วัน และมีขอบเขตเวลาไม่เกิน 1 เดือน โดยที่หน่วยงานภาครัฐ ทั้งอุตสาหกรรมจังหวัด อบต.ท้องที่ รวมทั้งทางจังหวัดเองจะเร่งอำนวยความสะดวกในการประสานขอใบอนุญาตเพื่อเอื้ออำนวยในการขนย้ายให้เร็วขึ้น โดยการ ขนย้ายนั้นต้องมีแหล่งจุดหมายปลายทางที่ชัดเจนและถูกต้องตามกฎหมาย โดยจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่คอยกำกับดูแลในการขนย้ายออกไปอย่างใกล้ชิด

ด้าน นายสุรพล สุนทรจินดา อุตสาหกรรมจังหวัด กล่าวว่า สำหรับแหล่งกำจัดสารเคมีอันตรายอย่างถูกต้องในเขตโซนภาคกลางและภาคตะวันออกนั้น มีเพียง 3-4 แห่งเท่านั้น ซึ่งในเขตโซนนี้มีแหล่งกำจัดอยู่ที่ จ.ระยอง ซึ่งการขนย้ายต้องมีการกระทำอย่างมิดชิดและถูกต้องตามวิธีการขนย้ายเท่านั้น