ตำรวจกรุงเก่ารวบคนร้ายก่อเหตุเชือดคอชิงทรัพย์ จยย.ได้แล้ว

พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจพระนครศรีอยุธยารวบคนร้ายก่อเหตุเชือดคอชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ พร้อมนำตัวไปประกอบคำสารภาพ

วันนี้ (11 ส.ค.) พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา, พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันนำผู้ต้องหาในคดีร่วมกันพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันชิงทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส

โดยผู้ต้องหาประกอบด้วยนายทองคำ เพ็ญภูมิ อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 63 ม.3 ต.ห้วยขุนราม อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี และ นายศุภฤกษ์ มีโภคกิจ อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 33 ม.4 ต.วัดตูม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากที่ พ.ต.ท.มนัสเวท ทองอิ่ม สว.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้จับกุมผู้ต้องหาได้ในเขต อ.พระนครศรีอยุธยา

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 05.30 น.วันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา นายทองคำ เพ็ญภูมิ ได้มาจ้างเหมารถจักรยานยนต์รับจ้างมีนายเพลินจิต พัฒนจันทร์ อายุ 63 ปีคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างวิน คลองมะขามเรียง กลางเกาะเมืองอยุธยา ไปส่งที่บ้านเพื่อนเส้นทางสายอยุธยา-วัดจอมเกตุ ห่างจากเพนียดคล้องช้างไปอีก 2 กม.ซึ่งอยู่ในเขต ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จนถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่เปลี่ยว

จากนั้นใช้มีดบังคับให้จอดรถเพื่อจะชิงทรัพย์ แต่เหยื่อขัดขืน จึงใช้มีดปาดคอจากด้านหลัง 1 แผล จนเหยื่อเสียหลักล้มลงแล้วตรงเข้าจ้วงแทงอีกหลายแผลตามลำตัว

หลังจากก่อเหตุได้นำทรัพย์ของเหยื่อไปประกอบด้วย รถจักรยายนต์ฮอนด้า เวฟ 125 สีน้ำเงิน หมายเลข กกค-885 อยุธยา แหวนเลี่ยมทอง และพระเลี่ยมทอง นาฬิกาข้อมือ 1 เรือน ไป ซึ่งได้นำทรัพย์สินเป็นทองไปขายได้เงิน 15,000 บาท และนำเงินมาแบ่งให้นายศุภฤกษ์ มีโภคกิจ ที่ชี้เป้าหมายและร่วมวางแผน

ส่วนรถจักรยานยนต์ได้นำไปขายให้กับนายธวัช วงษ์ยาแดง อาย 28 ปีที่ จ.ลพบุรี ในราคา 5,000 บาท โดยตำรวจได้จับกุมนายธวัช วงษ์ยาแดง ที่ จ.ลพบุรี เพิ่มเติมในข้อหารับของโจร

ขณะทำแผนได้มีนางบุญมา พัฒนจันทร์ อายุ 48 ปี อยุ่บ้านเลขที่136/74 ม.3 ต.ถนนใหญ่ อ.เมือง จ.ลพบุรี น้องสาวของนายเพลินจิต ผู้เสียหาย ได้เดินทางมาจากลพบุรีเพื่อมาดูหน้าผู้ต้องหายังจุดเกิดเหตุที่ทำแผนแต่ทางตำรวจกลัวว่าผู้ต้องหาจะโดนประชาทัณฑ์จึงรีบนำตัวขึ้นรถไป นางบุญมา ผู้เป็นน้องกล่าวว่า มันทำกับพี่ชายได้อย่างไรพี่ชายก็แก่ อายุมากแล้ว คนอย่างนี้มันต้องโดนประหารชีวิต

ด้าน พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จ.พระนรศรีอยุธยากล่าวว่าหลังจากเกิดเหตุทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจได้ติดตามสืบสวนสอบสวนจนทราบตัวคนร้าย แล้วได้ติดตามจับกุมตัวได้และนำมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพดั่งกล่าว