สุรินทร์ - ชุดลาดตระเวนทหารไทยเหยียบกับระเบิดเขมร บริเวณชายแดน “ปราสาทตาควาย” ต.บักได อ.พนมดงรัก สุรินทร์ เสียชีวิต 1 นาย ขณะเข้ารักษา ที่รพ.ค่ายวีรวัฒน์โยธินจังหวัดทหารบกสุรินทร์ กำหนดพิธีรดน้ำศพพรุ่งนี้ (9 ส.ค.)ที่วัดจุมพลสุทธาวาส อ.เมือง จ.สุรินทร์
วันนี้ ( 8 ส.ค.54) ผู้สื่อข่าวรายประจำจังหวัดสุรินทร์ รายงาน ว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. ชุดลาดตระเวนทหารไทยจำนวน 6 นาย ได้เหยียบกับระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ขณะออกลาดตะเวนที่บริเวณชายแดนไทยด้านทิศตะวันออกของปราสาทตาควาย บ.ไทยนิยมพัฒนา ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ห่างจากตัวปราสาทตาควายออกไป ประมาณ 300 เมตร ซึ่งคาดว่าทหารเขมรนำมาฝังไว้ ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บสาหัส 1 นาย ถูกส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธินจังหวัดทหารบกสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ พลทหารพลนิกร มูลหา อายุ 23 ปี ตำแหน่งพลปืนเล็ก กองร้อยทหารราบที่ 2 กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13 จังหวัดอุดรธานี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.7 ต.เซิม อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย
ต่อมาเวลา 17.30 น. ที่ตึกตรวจเก็บศพ เจ้าหน้าที่แพทย์โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒย์โยธิน จังหวัดทหารบกสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ และแพทย์ ประจำโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดทหารบกสุรินทร์ ได้ทำการชันสูตรศพ พลทหารพลนิกร มูลหา อายุ 23 ปี ที่เสียชีวิตดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์เหยียบกับระเบิด ดังกล่าว พลทหารพลนิกร มูลหา ผู้เสียชีวิต ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าแถวเดินนำชุดทหารลาดตระเวนร่วมกับชุดร้อย ร.1332 จ.อุดรธานี รวมจำนวน 6 นาย ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณชายแดนด้านทิศตะวันออก ปราสาทตาควาย บ้านไทยนิยมพัฒนา ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเส้นทางลาดตระเวนใหม่ตามแผนทางการทหาร
ขณะเดินลาดตระเวนออกจากปราสาทตาควาย ไปเป็นระยะทางประมาณ 300 เมตร ได้เหยียบกับระเบิด ชนิด 69 ที่ฝังอยู่ใต้ดินเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ร่างของพลทหารนิกร ได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิด ตามร่างกาย ศีรษะบริเวณท้ายทอย และขาทั้งสองข้าง อาการสาหัส ถูกนำตัวส่งมารักษาตัวที่ โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธินจังหวัดทหารบกสุรินทร์ ซึ่งทีมแพทย์และพยาบาลพยายามช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถ แต่พลทหารพลนิกรทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนเพื่อนทหารชุดลาดตระเวนอีก 5 นาย ปลอดภัยทั้งหมด
แหล่งข่าวทหารระบุว่า ระเบิดดังกล่าวน่าจะเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบฝังดิน ชนิด แบบ 69 ซึ่งอาจเป็นระเบิดที่มีการวางในช่วงการปะทะกันของทหารไทยกับทหารกัมพูชา ตามแนวชายแดนระหว่างวันที่ 26 เม.ย.-2 พ.ค.ที่ผ่านมา หรืออาจเป็นการนำเข้าวางขึ้นใหม่ของทหารกัมพูชา หลังการสู้รบสงบลงแล้วซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง
ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดังรัก จ.สุรินทร์ หลังเกิดเหตุการณ์เหยียบระเบิดเกิดขึ้น ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปยังปกติ ทหารทั้ง 2 ฝ่ายยังสามารถพูดคุยกันได้ ไม่พบมีความตึงเครียดแต่อย่างใด
สำหรับศพ พลทหารพลนิกร มูลหา อายุ 23 ปี สังกัด ร้อย ร.1332 จ.อุดรธานี จะมีพิธีรดน้ำศพในวันพรุ่งนี้ (9 ส.ค.) ที่วัดจุมพลสุทธาวาส ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยเบื้องต้นผู้บังคับบัญชาเตรียมจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพพลทหาร พลนิกร มูลหา อย่างสมเกียรติ พร้อมเตรียมขอปูนบำเหน็จตามระเบียบของกองทัพบกอย่างเต็มที่ ในความเสียสละและทุ่มเทการปฏิบัติหน้าที่อย่างสมชายชาติทหาร
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา เพิ่งเกิดเหตุ ทหารไทยเหยียบกับระเบิดทหารกัมพูชา ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 นาย ขณะออกลาดตระเวนในเขตแดนไทย ที่บริเวณช่องตาเฒ่า ชายแดนไทย - กัมพูชา ด้านปราสาทโดนตรวล ทิศตะวันออกของผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทำให้ พลทหารธีรัช ขอเหนี่ยวกลาง อายุ 21 ปี ทหารช่าง กรมทหารราบที่ 23 กองพันทหารที่ 1 กองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 ได้รับบาดเจ็บขาขวาขาด และ ส.ท.ปรีชา พิมพ์พิลา อายุ 26 ปี สังกัด บาดเจ็บบริเวณหน้าผากและดวงตาข้างขวา อาการสาหัส ทั้ง 2 นาย
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ทหารไทยออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการ เถียงตาฮอง ไปยังบริเวณจุดตรวจการณ์ช่องตาเฒ่า ใกล้เขาพระวิหาร อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีษะเกษ ได้เหยียบกับระเบิดทหารเขมร ทำให้ พลทหาร โกวิทย์ ทามูล สังกัด กรมทหารราบที่ 23 กองพันทหารราบที่ 1 ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสข้อเท้าข้างขวาขาด