อุบลราชธานี-ขบวนการภาคประชาชนทุกกรณีปัญหาในภาคอีสานหลายพันคน ตบเท้าเคลื่อนขบวนทวงถามสัญญาจากนายกฯเงา นช.แม้ว “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ให้บรรจุความเดือดร้อนของประชาชนที่พรรคเพื่อไทยได้ทำเอ็มโอยูไว้ก่อนเลือกตั้งเป็นนโยบายของรัฐบาลใหม่ หากไม่เป็นผลจะชุมนุมยืดเยื้อจนกว่าจะได้ตามสัญญา
ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี กลุ่มประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในทุกกรณีปัญหา เช่น กลุ่มสมัชชาคนจนเขื่อนปากมูล เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเพื่อการทำกินและการอยู่อาศัย กลุ่มสลัม 4 ภาค รวมตัวอ่านแถลงการณ์เคลื่อนขบวนไปทวงถามสัญญาจากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ได้ทำเอ็มโอยูจะบรรจุความเดือดร้อนของประชาชนทั้งหมดกว่า 40 องค์กรเข้าไว้เป็นนโยบายของรัฐบาลนี้
ก่อนออกเดินทางตัวแทนภาคประชาชนที่เป็นผู้สูงอายุ ได้เข้ากราบสักการะขอพรจากศาลหลักเมือง โดยขบวนรถของกลุ่มภาคประชาชนมีประมาณ 20 คัน และจะไปรวมตัวกับขบวนการประชาชนในภาคอีสานกลุ่มอื่นที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ก่อนเคลื่อนขบวนไปรวมกันที่ กรุงเทพฯ
นายศักดิ์สิทธิ์ บุญญะบาล ตัวแทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) และแกนนำกลุ่มปฏิรูปที่ดินเพื่อการทำกินและอยู่อาศัยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. เครือข่ายประชาชนทั้งคนจนจากชนบท คนจนเมือง กลุ่มผู้ใช้แรงงาน ซึ่งรวมตัวเป็นเครือข่ายกว่า 40 องค์กร ได้จัดเวทีสัญญาประชาคมพบพรรคการเมือง
วันนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นตัวแทนรับข้อเสนอของประชาชน ที่มีความเดือดร้อนในกรณีปัญหาต่างๆทั่วประเทศ พร้อมร่วมลงนามเอ็มโอยูบรรจุข้อเรียกร้องที่เป็นความเดือดร้อนของภาคประชาชนไว้เป็นนโยบายของรัฐบาลใหม่ ต่อหน้าตัวแทนภาคประชาชนกว่า 2,000 คน
เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 ภาคประชาชน จึงต้องการเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์เพื่อทวงถามสัญญา เบื้องต้นไปรวมตัวที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และถ้าไม่ได้พบกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเคลื่อนขบวนไปที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป
ด้านข้อเรียกร้องของกลุ่มสมัชชาคนจนเขื่อนปากมูล ที่ยืดเยื้อมายาวนาน คือ ให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 เดินหน้าตามผลการศึกษาของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน กรณีเขื่อนปากมูล ซึ่งมีมติให้ชดเชยที่ดินทำกินให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจำนวนกว่า 7,000 ครอบครัวๆละ 15 ไร่ หรือจ่ายเป็นเงินชดเชยครอบครัวละ 300,000 บาท พร้อมให้เปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลถาวร
มติดังกล่าวคณะกรรมการได้ทำไว้ตั้งแต่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่รัฐบาลได้หมดอายุลงก่อน จึงไม่ได้ต้องการให้รัฐบาลใหม่ดึงเกม โดยโยนให้มีการทำการศึกษาใหม่อีก