พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา สบ 10 เปิดเผยว่า พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีหนังสือคำสั่งเร่งด่วนให้ พล.ต.ต.วัฒนา เขตร์สมุทร ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ปทุมธานี ช่วยราชการที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยให้มีผลตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป จนกว่าการพิจารณาจะแล้วเสร็จ หลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่าง กลุ่มชายชุดดำ ประมาณ 200 คน กับกลุ่มคนไทย 4 ภาค หรือ กลุ่มสมัชชาคนจน ที่ปลูกเพิงพักอาศัยอยู่บนที่ดินของ บริษัท สินทรัพย์ไทย ต.คลองหลวง อคลองหลวง จปทุมธานี เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เนื่องจากเห็นว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ไม่สามารถอ้างได้ว่าเกิดในช่วงการเลือกตั้ง เพราะเป็นเหตุการณ์ที่อุกฉกรรจ์และรุนแรง อีกทั้ง มีความขัดแย้งอย่างชัดเจน จึงไม่น่าจะปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นได้
ระหว่างนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดอีกครั้งว่า เกิดจากการปล่อยปละละเลยหรือไม่ พร้อมกันนี้ ได้มอบหมายให้ พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา สบ 10 รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พิจารณาหาผู้ไปรักษาราชการแทน พร้อมพิจารณาข้อบกพร่องของ ผู้กำกับการ สภ.คลองหลวง ด้วย
ทั้งนี้ ตำรวจภูธรคลองหลวง ได้ขออนุมัติศาล ออกหมายจับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และชายไทยไม่ทราบชื่อ นามสกุล อายุประมาณ 48 ปี ที่ปรากฏตามภาพถ่าย ในข้อหา ก่อให้ผู้อื่นกระทำผิดด้วยการจ้างวานให้วางเพลิง เผาทรัพย์โรงเรือนที่อยู่อาศัยของผู้อื่น พร้อมเร่งสืบสวนดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังสั่งการให้ ตำรวจทุกพื้นที่ ตรวจสอบการบุกรุกที่ดินในลักษณะเดียวกัน หากพบให้ติดต่อประสานเจ้าของที่ดิน ให้ดำเนินการกับผู้บุกรุก หรือ กลุ่มบุคคล ที่หลอกให้ชาวบ้านเข้าไปถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินของผู้อื่น เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ป้องกันปัญหาลุกลาม
ระหว่างนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดอีกครั้งว่า เกิดจากการปล่อยปละละเลยหรือไม่ พร้อมกันนี้ ได้มอบหมายให้ พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา สบ 10 รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พิจารณาหาผู้ไปรักษาราชการแทน พร้อมพิจารณาข้อบกพร่องของ ผู้กำกับการ สภ.คลองหลวง ด้วย
ทั้งนี้ ตำรวจภูธรคลองหลวง ได้ขออนุมัติศาล ออกหมายจับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และชายไทยไม่ทราบชื่อ นามสกุล อายุประมาณ 48 ปี ที่ปรากฏตามภาพถ่าย ในข้อหา ก่อให้ผู้อื่นกระทำผิดด้วยการจ้างวานให้วางเพลิง เผาทรัพย์โรงเรือนที่อยู่อาศัยของผู้อื่น พร้อมเร่งสืบสวนดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังสั่งการให้ ตำรวจทุกพื้นที่ ตรวจสอบการบุกรุกที่ดินในลักษณะเดียวกัน หากพบให้ติดต่อประสานเจ้าของที่ดิน ให้ดำเนินการกับผู้บุกรุก หรือ กลุ่มบุคคล ที่หลอกให้ชาวบ้านเข้าไปถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินของผู้อื่น เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ป้องกันปัญหาลุกลาม
