ศูนย์ข่าวศรีราชา - เหยื่อพิการจากเหตุการณ์เมาแล้วขับในจังหวัดจันทบุรี ไม่ย่อท้อต่อโชคชะตา ยังคงเดินหน้าใช้อวัยวะที่เหลือในร่างกายทำมาหาเลี้ยงชีพตนและคนในครอบครัว ทั้งยังฝากไปยังผู้ใช้รถใช้ถนนให้เคารพกฎจราจร รวมทั้งเมาไม่ขับ เพื่อไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น
ผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่บริเวณแปลงสวนยางพาราในเนื้อที่กว่า 20 ไร่ ซึ่งเป็นของนายนายรัศมี สิงขรณ์ วัย 53 ปี ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่.8 ตำบลอ่างคีรี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี .ซึ่งได้พบกับนายบุญมี ก้องเวหน อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/1 หมู่.8 ตำบลอ่างคีรี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ที่กำลังเร่งเครื่องยนต์เพื่อตัดหญ้าภายในสวนยาง ในสภาพแขนซ้ายที่เหลือใช้งานเพียงข้างเดียว ส่วนแขนขวา แม้จะมีอวัยวะครบถ้วนทั้งนิ้วมือและเล็บแต่กลับลีบแบนไม่มีพละกำลัง และความรู้สึก หลังต้องประสบเหตุจากความประมาทและต้องกลายเป็นเหยื่อมาแล้วขับจากอุบัติเหตุทางถนน
ซึ่งนายบุญมี เล่าว่าเมื่อ 20 ปีก่อนได้ถูกรถบรรทุก 10 ล้อ เฉี่ยวชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และทำให้ต้องสูญเสียแขนขวา แต่ก็ไม่เคยย่อท้อและกลับพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสด้วยการใช้อวัยวะส่วนที่เหลือทั้งแขนซ้าย ขาสองข้างและกำลังจากปากและฟัน ทำหน้าที่จนเกิดความชำนาญและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างคนปกติทั่วไป โดยตนทำงานได้ทุกประเภทแบบไม่เกี่ยงและไม่เลือกงาน ทั้งการโพงน้ำจากบ่อ , กรีดยาง , เก็บมังคุด , หุงข้าวประกอบอาหาร และรับจ้างตัดหญ้า ที่แม้บางครั้งต้องอาศัยความสามารถเฉพาะทางในการซ่อมเครื่องตัดหญ้าด้วยแขนเพียงข้างเดียว กับขาอีก 2 ข้าง แต่ผลงานที่ออกมาก็ไม่ด้อยกว่าคนอวัยวะ 32 ทำให้ญาติ และเพื่อนบ้าน มักใช้บริการของตนอยู่เสมอ
และแม้วัยจะล่วงเลยเข้าถึงปีที่ 48 ก็ไม่มีวันใดที่จะคิดเกี่ยงงาน เพราะยังมีอีก 2 ชีวิตในครอบครัวรวมทั้งตัวเองที่ต้องดูแล และแม้ว่าปัจจุบันความเป็นอยู่จะไม่ค่อยขัดสนเรื่องค่าใช้จ่าย เนื่องจากสมาชิกในครอบครัวพากันออกรับจ้างทั้งหมด ส่วนตนเองก็จะรับจ้างทำงานทั่วไปทั้งงานหนักและงานเบา ทำให้เฉลี่ยแต่ละวันจะมีรายได้ประมาณ 250 - 300 บาท ส่วนภรรยาและบุตรสาว จะมีรายได้ต่อวันคนละ 300 บาท ส่วนอุบัติเหตุที่ทำให้ตนต้องสูญเสียแขนซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญก็ไม่เคยคิดอาฆาต บาดหมางแก่ผู้กระทำผิด เพียงคิดว่าเกิดจากความประมาทและการเมาแล้วขับ
จึงอยากให้ชีวิตของตนเองเป็นอุทาหรณ์ แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน เพราะหากฝ่าฝืนเมาแล้วขับ นอกจะผิดกฎหมายแล้ว หากประสบอุบัติเหตุ อาจจะต้องมีคนเจ็บหรือเสียชีวิต และหากบุคคลนั้นเป็นเสาหลักของครอบครัว ผู้ที่ต้องรับผลกระทบและแบกภาระที่เหลือก็คือสมาชิกในครอบครัว ที่ต้องมารับชะตากรรมทั้งที่ไม่ได้เป็นผู้ก่อ
ผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่บริเวณแปลงสวนยางพาราในเนื้อที่กว่า 20 ไร่ ซึ่งเป็นของนายนายรัศมี สิงขรณ์ วัย 53 ปี ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่.8 ตำบลอ่างคีรี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี .ซึ่งได้พบกับนายบุญมี ก้องเวหน อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/1 หมู่.8 ตำบลอ่างคีรี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ที่กำลังเร่งเครื่องยนต์เพื่อตัดหญ้าภายในสวนยาง ในสภาพแขนซ้ายที่เหลือใช้งานเพียงข้างเดียว ส่วนแขนขวา แม้จะมีอวัยวะครบถ้วนทั้งนิ้วมือและเล็บแต่กลับลีบแบนไม่มีพละกำลัง และความรู้สึก หลังต้องประสบเหตุจากความประมาทและต้องกลายเป็นเหยื่อมาแล้วขับจากอุบัติเหตุทางถนน
ซึ่งนายบุญมี เล่าว่าเมื่อ 20 ปีก่อนได้ถูกรถบรรทุก 10 ล้อ เฉี่ยวชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และทำให้ต้องสูญเสียแขนขวา แต่ก็ไม่เคยย่อท้อและกลับพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสด้วยการใช้อวัยวะส่วนที่เหลือทั้งแขนซ้าย ขาสองข้างและกำลังจากปากและฟัน ทำหน้าที่จนเกิดความชำนาญและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างคนปกติทั่วไป โดยตนทำงานได้ทุกประเภทแบบไม่เกี่ยงและไม่เลือกงาน ทั้งการโพงน้ำจากบ่อ , กรีดยาง , เก็บมังคุด , หุงข้าวประกอบอาหาร และรับจ้างตัดหญ้า ที่แม้บางครั้งต้องอาศัยความสามารถเฉพาะทางในการซ่อมเครื่องตัดหญ้าด้วยแขนเพียงข้างเดียว กับขาอีก 2 ข้าง แต่ผลงานที่ออกมาก็ไม่ด้อยกว่าคนอวัยวะ 32 ทำให้ญาติ และเพื่อนบ้าน มักใช้บริการของตนอยู่เสมอ
และแม้วัยจะล่วงเลยเข้าถึงปีที่ 48 ก็ไม่มีวันใดที่จะคิดเกี่ยงงาน เพราะยังมีอีก 2 ชีวิตในครอบครัวรวมทั้งตัวเองที่ต้องดูแล และแม้ว่าปัจจุบันความเป็นอยู่จะไม่ค่อยขัดสนเรื่องค่าใช้จ่าย เนื่องจากสมาชิกในครอบครัวพากันออกรับจ้างทั้งหมด ส่วนตนเองก็จะรับจ้างทำงานทั่วไปทั้งงานหนักและงานเบา ทำให้เฉลี่ยแต่ละวันจะมีรายได้ประมาณ 250 - 300 บาท ส่วนภรรยาและบุตรสาว จะมีรายได้ต่อวันคนละ 300 บาท ส่วนอุบัติเหตุที่ทำให้ตนต้องสูญเสียแขนซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญก็ไม่เคยคิดอาฆาต บาดหมางแก่ผู้กระทำผิด เพียงคิดว่าเกิดจากความประมาทและการเมาแล้วขับ
จึงอยากให้ชีวิตของตนเองเป็นอุทาหรณ์ แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน เพราะหากฝ่าฝืนเมาแล้วขับ นอกจะผิดกฎหมายแล้ว หากประสบอุบัติเหตุ อาจจะต้องมีคนเจ็บหรือเสียชีวิต และหากบุคคลนั้นเป็นเสาหลักของครอบครัว ผู้ที่ต้องรับผลกระทบและแบกภาระที่เหลือก็คือสมาชิกในครอบครัว ที่ต้องมารับชะตากรรมทั้งที่ไม่ได้เป็นผู้ก่อ