ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ทางหลวงเชิญประชาชน-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหลังเตรียมเดินหน้าโครงการทางแยกต่างระดับแม่โจ้ ตั้งเป้ารวบรวมข้อมูลนำไปใช้ออกแบบก่อนให้คนในพื้นที่ดูซ้ำว่าพอใจหรือไม่-พิจารณาผลกระทบทุกด้าน หลังแบบสำเร็จถึงเดินหน้าของบก่อสร้างต่อ ตัวแทนที่ปรึกษาเผยข้อมูลหลายส่วนมีผลว่าควรเป็น “ทางลอด-สะพานต่างระดับ” ต้องนำมาพิจารณาด้วย
วันนี้ (5 ส.ค.) ที่ห้อง CGV 1 ศูนย์ประชุมนานาชาติ โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว กรมทางหลวงได้จัดให้มีการประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชน โครงการสำรวจและออกแบบรายละเอียดทางแยกต่างระดับที่จุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 1001 ขึ้นโดยมีเจ้าหน้าที่จากส่วนราชการและประชาชนในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟัง
การจัดประชุมในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานด้านการมีส่วนรวมของประชาชนต่อโครงการดังกล่าว โดยจะทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปประกอบการออกแบบทางแยกต่างระดับบริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 1001 หรือสามแยกแม่โจ้ ซึ่งกรมทางหลวงมีแผนงานที่จะดำเนินการก่อสร้างเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่
ในที่ประชุมได้มีการชี้แจงถึงความเป็นมาของโครงการและขั้นตอนการดำเนินงานโดยผู้แทนจากกรมทางหลวง และบริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาโครงการ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมการประชุมได้ซักถามข้อสงสัยต่างๆ ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมได้เสนอความคิดเห็นอย่างหลากหลาย อาทิเช่น เรื่องผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ การเสนอแนะถึงรูปแบบที่เหมาะสมของโครงการ หรือข้อเสนอแนะให้พัฒนาจุดที่เกี่ยวข้องอย่างสะพานข้ามแม่น้ำปิง บริเวณฟ้าฮ่าม ซึ่งมีสภาพเป็นถนน 2 เลน ทำให้รถที่มาตามเส้นทางประสบปัญหาติดขัดก่อนขึ้นสะพาน เป็นต้น
นายสมเกียรติ เตรียมแจ้งอรุณ ผู้จัดการโครงการ กลุ่มวิศวกรที่ปรึกษา กล่าวถึงการดำเนินงานตามแผนงานของโครงการ ว่า ขณะนี้คณะทำงานได้ทำการรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นทั้งหมดแล้ว เพื่อจะนำข้อมูลที่ได้มาใช้ประกอบการพิจารณาออกแบบและเลือกรูปแบบต่างๆ ของทางแยกต่างระดับ ไม่ว่าจะเป็นทางลอดหรือสะพานยกระดับ ซึ่งจะต้องออกแบบ และนำมาให้ประชาชนในพื้นที่ให้ความเห็นและทำการคัดเลือกต่อไป ขณะเดียวกันก็ได้เข้าพบกับผู้บริหารเทศบาลนครเชียงใหม่ เทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม และเทศบาลตำบลหนองป่าครั่งซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบหากมีการก่อสร้างเกิดขึ้น
นายสมเกียรติ กล่าวต่อไปว่า คณะทำงานจะจัดให้มีการประชุมทั้งสิ้น 5 ครั้ง เป็นการประชุมใหญ่ 3 ครั้ง และการประชุมย่อยอีก 2 ครั้ง ซึ่งประชาชนที่ได้รับผลกระทบ หรืออยู่ในพื้นที่สามารถเสนอข้อคิดเห็น หรือชี้แจงผลกระทบที่เกิดขึ้นเข้ามาได้อย่างต่อเนื่อง โดยคณะทำงานจะนำข้อเสนอลและความคิดเห็นต่างๆ มาใช้ในการพัฒนารูปแบบของโครงการให้เป็นที่พอใจของทุกภาคส่วนมากที่สุด
โดยในขณะนี้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้รับซึ่งมีความน่าสนใจ และคงจะต้องนำมาพิจารณาในการออกแบบก็คือ ข้อมูลที่ว่าปริมาณรถที่สัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าวมากที่สุด คือ รถจากทางหลวงหมายเลข 1001 ที่จะเลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 11 กับกรณีของสะพานข้ามแม่น้ำปิงบริเวณฟ้าฮ่ามที่อยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 800 เมตร ซึ่งในการออกแบบจำเป็นจะต้องพิจารณาให้เส้นทางทั้งสองส่วนเชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่องด้วย
ด้าน นายสมบัติ เจริญพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักสำรวจและออกแบบ กรมทางหลวง กล่าวว่า โครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับที่จุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 1001 เป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาทางหลวงระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2550-2559) ซึ่งกำหนดให้ปรับปรุงทางแยกดังกล่าวให้เป็นทางแยกต่างระดับเพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่จะเพิ่มขึ้น โดยโครงการสำรวจและออกแบบ มีระยะเวลาทั้งสิ้น 300 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย.2554-29 มี.ค.2555 ทั้งนี้ หลังจากออกแบบเสร็จและผ่านการรับรองจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว จะมีการนำเสนอต่อกรมทางหลวงเพื่อเสนอแผนของบประมาณสำหรับทำการก่อสร้างต่อไป
ส่วนกรณีของสะพานข้ามแม่น้ำปิงบริเวณฟ้าฮ่ามที่มีการเสนอว่าควรขยายสะพานเพื่อช่วยแก้ปัญหาการจราจร เนื่องจากสะพานมีเส้นทางสัญจรเพียง 2 เลน แต่ถนนสายเชียงใหม่ลำปางมีพื้นที่มากกว่า ทำให้รถที่วิ่งมาตามเส้นทางติดขัดเป็นคอขวดบริเวณสะพานนั้น นายสมบัติกล่าวว่ากรมทางหลวงคงจะเป็นผู้ดำเนินการในส่วนนี้เอง โดยจะนำเรื่องไปพิจารณาดูความเป็นไปได้ก่อนจะตัดสินใจว่าควรดำเนินการอย่างไร