นครพนม - ผู้ว่าฯ นครพนมสั่งรับมือน้ำท่วมหนักหลังน้ำโขงพุ่งถึงจุดวิกฤต 12 เมตร ทะลักล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนนาข้าวบ่อปลา ประกาศ 9 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม
วันนี้ (4 ส.ค.) นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยหลังลงพื้นที่สำรวจและช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตอำเภอบ้านแพง และอำเภอศรีสงครามว่า ขณะนี้ได้ประชุมด่วนศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุทกภัยวาตภัยและดินถล่มเพื่อรับมือช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม หลังระดับน้ำโขงสูงขึ้นถึงจุดวิกฤตกว่า 12 เมตรแล้วในขณะนี้และมีแนวโน้มสูงขึ้นอีก
ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.ถึงวันนี้ จังหวัดได้รับอิทธิพลจากพายุนกเตน และฝนยังตกอย่างต่อเนื่องทุกวัน และขณะนี้น้ำโขงได้ไหลบ่าเข้ามาตามลำหวยสาขา และล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วมพื้นนาข้าวบ่อปลา และบ้านเรือนประชาชนตามอำเภอตามแนวลุ่มน้ำโขง เช่น อ.บ้านแพง อ.ท่าอุเทน อ.เมือง โดยเฉพาะเขตอำเภอบ้านแพง น้ำป่าบนเทือกเขาภูลังกาได้ไหลบ่าลงมาท่วมบ้านเรือน 1,000 หลังคาเรือนใน 3 ตำบลถึง 2 ครั้ง
จังหวัดได้ประกาศให้ 9 อำเภอ คือ อ.บ้านแพง นาทม โพนสวรรค์ ศรีสงคราม ท่าอุเทน นาหว้า เรณูนคร และ อ.เมือง เป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมและน้ำถุงยังชีพออกช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นส่วนความเสียหายกำลังดำเนินการสำรวจ และตนได้สั่งกำชับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาแจ้งเตือนและช่วยเหลือประชาชนตามแนวลำน้ำโขงเป็นพิเศษ ตั้งแต่เตรียมเรืออพยพชาวบ้านขึ้นที่สูง ระวังตลิ่งโขงถล่ม เพราะขณะนี้น้ำโขงไหลเชี่ยวล้นตลิ่งเข้ามาท่วมบ้านเรือนประชาชนในบางส่วนแล้ว และจะหนักยิ่งขึ้นถ้าน้ำโขงสูงขึ้นอีก
นางวารี พิมพ์พงษ์ อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านริมตลิ่งโขงเลียบถนนสุนทรวิจิตรรายหนึ่งเปิดเผยว่า ตนและครอบครัวอยู่ที่นี่มานานแล้ว ขณะนี้ระดับน้ำโขงขึ้นมาเร็วมากห่างจากใต้ถุนบ้านประมาณ 50 ซม. เมื่อ 2-3 ปีก่อนก็เคยเกิดขึ้นเมื่อน้ำโขงสูงขึ้นมาอีก น้ำก็จะทะลักเข้ามาใต้ถุนบ้าน โดยจุดใต้ถุนบ้านจะเป็นห้องส้วมห้องน้ำ และเก็บของในชั้นล่าง เมื่อน้ำทะลักเข้ามา วิธีแก้ไขปัญหาคือจะเก็บของเครื่องใช้ขึ้นมาชั้นบน และจะใช้ห้องน้ำชั้นบนที่เราสร้างไว้หลังเจอบทเรียนหลายครั้งเมื่อน้ำโขงขึ้น ซึ่งแต่ก่อนเรายังไม่ได้รับบทเรียนและวางระบบป้องกันจะลำบากมาก ต้องไปขอใช้ห้องน้ำคนรู้จักที่อยู่ใกล้กัน เมื่อน้ำลดเราก็จะใช้ห้องน้ำโดยปกติแต่ก็ต้องลำบากอีกครั้งเพราะต้องล้างโคลนสีแดงที่มากับน้ำโขง
นางจุรีรัตน์ เทพอาสา หัวหน้าสำนักงานป้องกันสาธารณภัยนครพนม เปิดเผยว่า ตอนนี้เราต้องประกาศเตือนประชาชนให้ประชาชนติดลุ่มน้ำ และใต้ภูเขา ระวังน้ำท่วมฉับพลัน ตั้งแต่พายุนกเตนเข้ามาและให้ระมัดระวังต่อไป เพราะระดับน้ำโขงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังมีฝนตกตลอดซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ พร้อมกับมีการกำชับให้ส่วนราชการระดับหมู่บ้านตำบลหน่วยงานเกี่ยวข้องพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับการแก้ปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วน ผู้ว่าราชการจังหวัดได้นำถุงยังชีพไปแจกจ่ายชาวบ้านที่บ้านไผ่ล้อม อำเภอบ้านแพง และอำเภอศรีสงครามแล้วกว่า 1,000 ชุด
ส่วนการช่วยเหลือผลผลิตด้านการเกษตรการประมงเสียหาย ต้องรอสรุปจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการก่อนจะจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือ เพราะขณะนี้เป็นน้ำท่วมใหม่ต้องรอสักพักว่ายอดความเสียหายจะเป็นเท่าไหร่ ซึ่งยังอยู่ในจุดช่วยเหลือเบื้องต้นเท่านั้น