นครพนม - น้ำป่าเทือกเขาภูลังกาอำเภอบ้านแพง เมืองนครพนม ยังคงไหลทะลักลงจากสันเขาท่วมบ้านเรือนประชาชนและโรงเรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านพืชผลตั้งสั่งปิดโรงเรียนโดยไม่มีกำหนดจนกว่าน้ำลด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (1 ส.ค.) ที่อำเภอบ้านแพงจังหวัดนครพนม น้ำป่าจากเทือกเขาภูลังกายังคงไหลทะลักลงมาจากสันเขาอย่างต่อเนื่องและไม่สามารถระบายสู่น้ำโขงได้ส่งผลให้เอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนในหลายหมู่บ้าน ในเขตตำบลนางัวและตำบลไผ่ล้อม
โดยเฉพาะที่บ้านพืชผลตำบลนางัวกระแสน้ำยังไหลหลากท่วมบ้านเรือนประชาชนและถนนในหมู่บ้าน และที่หนักที่สุดน้ำยังทะลักท่วมบริเวณโรงเรียนบ้านพืชผลตั้งแต่อาคารเรียน โรงอาหาร สนามกีฬา ห้องน้ำ จมใต้น้ำลึก 40-50 ซม.
อาจารย์ทินกร โพธิ์ศรี ผอ.โรงเรียนบ้านพืชผล เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้สั่งปิดโรงเรียนโดยไม่มีกำหนดจนกว่าน้ำจะลด แต่ในขณะนี้น้ำป่าจากเทือกเขาภูลังกายังไหลทะลักลงมาจากสันเขาและหนุนกับน้ำโขงล้นตลิ่งน้ำป่าไม่สามารถระบายลงสู่ลำน้ำโขงได้ และยังเอ่อท่วมบริเวณโรงเรียนไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนได้เพราะหวั่นเกิดอันตรายขึ้นต่อนักเรียน ทางโรงเรียนต้องรอน้ำลดจึงจะเปิดสอนตามปกติได้
สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำโขง วัดเมื่อเวลา 06.00 น.วันนี้ วัดได้ 10.15 เมตร เพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อวาน 80 ซม. ขณะที่จุดวิกฤตอยู่ที่ 13 เมตร ก็จะไหลล้นทะลักเข้ามาตามลำน้ำสาขา
นางจุรีรัตน์ เทพอาส์น ปภ.นครพนม กล่าวว่า มีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียกายใน 3 อำเภอคือ อ.เมือง อ.ศรีสงคราม และ อ.บ้านแพง โดยล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น.ของกลางดึกวันที่ 30 ก.ค. น้ำป่าจากเทือกเขาภูลังกาได้ไหลทะลักอย่างรวดเร็วในพื้นที่ราบเชิงเขา ต.ไผ่ล้อม ต.นางัว ต.นาเข ซึ่งทางนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้สั่งการแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวได้เก็บข้าวของหนีน้ำขึ้นสู่ที่สูงกว่า 3,000 ครัวเรือนให้ทราบล่วงหน้าแล้ว ซึ่งวัดปริมาณน้ำฝนที่ อ.บ้านแพง ได้ 287 มิลลิเมตร ส่วนใหญ่เอ่อเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้าง ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างการเร่งสำรวจ
