ศูนย์ข่าวภูมิภาค-ภาคเหนือยังอ่วม! “วังชิ้น”อยู่ในขั้นวิกฤตถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง นอภ.เผยตอนนี้ต้องการเรือมากสุด ขณะที่ศพ จ.ส.อ.ค่ายกาวิละลอยขึ้นอืดหลังจมน้ำหายตั้งแต่ 1 สิงหาฯ "ตาก"ซุงยักษ์โผล่ประจานกลางกระแสน้ำพุ่งชนสะพานข้ามน้ำแม่ตื่นพังทำ 10 หมู่บ้านเขตแม่ระมาดถูกตัดขาด "เชียงใหม่"หลายพื้นที่ยังจม ผู้ว่าฯสั่งช่วยครอบครัว "แม่ฮ่องสอน" ระดม จนท.เดินเท้าเข้าช่วยเหลือหมู่บ้านโดนโคลนถล่มแล้ว ปภ.เผยเหยื่อนกเตนตาย 7 สูญหาย 4 บาดเจ็บ 12
หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและอีสานยังคงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก โดยเฉพาะที่ จ.แพร่ ซึ่งเมื่อวานนี้ (4ส.ค.) มีรายงานข่าวว่า แม้ระดับน้ำยมในเขตตัวเมืองแพร่จะเริ่มลดลงตั้งแต่เย็นวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่กระแสแม่น้ำยมกลับมีปริมาณเพิ่มขึ้นใน อ.วังชิ้น พื้นที่ทางตอนใต้ของ จ.แพร่ วัดได้ที่หน้าอำเภอวังชิ้นมีระดับน้ำสูงถึง 15 เมตร ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งและเข้าท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตรมีระดับน้ำสูงถึง 2 เมตรเศษ ทุ่งนาที่เพิ่งปักดำเสร็จถูกน้ำท่วมเสียหายนับ 1,000 ไร่ บ้านเรือนใน ต.วังชิ้น ต.แม่ป้าก ต.แม่เกิ๋ง ทุกหมู่บ้านถูกน้ำท่วมและตัดขาดไม่สามารถเดินทางเข้าออกได้โดยรถยนต์ ต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียวเนื่องจากมีระดับน้ำสูงมาก
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากจากเหตุน้ำท่วมครั้งนี้แล้ว 2 รายคือ นายเพชร ทองนาค อายุ 16 ปี ชาวบ้านนาเวียง ต.วังชิ้น ประสบอุบัติเหตุ พร้อมด้วยนายโยคิน ทองนาค บิดาแต่ชาวบ้านได้ช่วยเหลือบิดาไว้ได้ทัน ส่วนนายเพชรยังไม่สามารถค้นหาศพได้ อีกรายคือ นายสุบิน สุนันท์วงศ์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านน้ำชำ อ.สูงเม่น ไปธุระนอกบ้านขณะน้ำท่วมแต่ไม่กลับมา ภรรยาตามไปดูเห็นรองเท้าลอยน้ำจึงช่วยกันค้นหาและพบว่านายสุบินพลัดตกน้ำเสียชีวิต ทั้งยังมีประชาชนใน อ.วังชิ้นติดอยู่ในสวนซึ่งมีระดับน้ำสูงไม่สามารถกลับได้จำนวน 2 คน คือนายบุญธรรม ที่บ้านปางมะโอ อีกรายคือนายวิเชียร ก้านเงิน อายุ 56 ปี ขณะนี้ยังติดต่อไม่ได้ถ้ายังไม่พบตัวในวันสองวันนี้เชื่อว่าน่าจะถูกน้ำพัดเสียชีวิตอีกรายก็เป็นได้
**พบศพ จ.ส.อ.ค่ายกาวิละลอยขึ้นอืด
เวลา 12.30 น.พ.ต.ท.ณฐกฤษ ชัยนันท์ สารวัตรเวร สภ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีศพลอยน้ำมาติดกิ่งไม้ที่บริเวณ ฝ่ายกั้นน้ำแม่หล่าย 2 ม.5 ต.แม่หล่าย อ.เมืองแพร่ เมื่อไปตรวจสอบพบเป็นศพ จ.ส.อ.เข็มชาติ ก้อนคำ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/1 หมู่ 4 ต.แม่หล่าย อ.เมืองแพร่ เป็นทหารค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่
**ซุงยักษ์โผล่ประจานกลางกระแสน้ำป่าตาก
ที่ จ.ตาก มีรายงานข่าวว่า น้ำป่าจากเทือกเขาหลายแห่งจาก อ.บ้านตาก ไหลทะลักลงแม่น้ำแม่ตื่นที่เป็นแม่น้ำสายเดียวที่รองรับน้ำ เพื่อระบายลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล โดยกระแสน้ำป่าได้พัดพาต้นไม้และต้นซุงขนาดใหญ่จำนวนมากลงมาติดตอม่อสะพานแม่ตื่น ที่เชื่อมฝั่งเหนือกับฝั่งใต้ของ ต.แม่ตื่น อ.แม่ระมาด จ.ตาก และท่อนซุงบางส่วนที่ไหลมากับกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากได้ชนตอม่อสะพานจนทำให้ตอม่อหักสะพานช่วงกลางที่ยาวกว่า 20 เมตรทานแรงกระแทกไม่ไหวพังครืนลงทำให้ประชาชนทั้งสองฝั่งไม่สามารถข้ามไปมาได้ ซึ่งฝั่งตรงข้ามมีหมู่บ้านกว่า 10 หมู่บ้านที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก รถชาวบ้านที่เข้าไปหาของป่านับสิบคันต้องติดริมฝั่งน้ำ
นายวีรวุฒิ ใหม่โม่ง อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 เปิดเผยว่า มีกว่า 10 หมู่บ้าน ประมาณ 6,000 คน ที่ติดอยู่ไม่สามารถข้ามมาได้
**แม่ฮ่องสอนเดินเท้าเข้าเขตโคลนถล่ม
ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 อ.แม่สะเรียง พ.อ.สุทัศน์ จารุมณี รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 รักษาราชการผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 ได้ปล่อยแถวกำลังชุดปฏิบัติการ 200 นายเพื่อเดินทางไปยังหมู่บ้านปู่ทา ม.6 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย หลังจากที่ได้เกิดดินถล่มทับบ้านเรือนราษฏร 10 หลังคามีผู้เสียชีวิต 3 ศพสูญหายอีก 4 รายและบาดเจ็บอีก 12 รายเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ชุดปฏิบัติการฯทั้ง 200 นายต้องเดินเท้าลัดเลาะตามสันเขาไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง เพราะเส้นทางรถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปมาได้
**นครพนมประกาศ9อำเภอพื้นที่น้ำท่วม
ด้านนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำโขงๆได้สูงขึ้นถึงจุดวิกฤตกว่า 12 เมตรแล้วและมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีก ซึ่งทางจังหวัดได้ประกาศเตือนให้ประชาชนระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลันแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางจังหวัดได้ประกาศให้ 9 อำเภอ คือ อ.บ้านแพง นาทม โพนสวรรค์ ศรีสงคราม ท่าอุเทน นาหว้า เรณูนคร และ อ.เมือง เป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมแล้ว
**เมืองสกลนครน้ำยังทรงตัวตายแล้ว1ศพ
ส่วนสถานการน้ำท่วมที่ จ.สกลนคร น้ำยังทรงตัวเนื่องจากระดับน้ำในแหล่งน้ำสำคัญ คือ ลำน้ำยาม และลำน้ำสงคราม ยังคงหนุนเนื่อง มูลค่าความเสียหายทางเจ้าหน้าที่ยังคงเร่งสำรวจ เบื้องต้นคาดความเสียหายไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 1 ศพคือ นายอุทิศ สุริยันต์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 ม.4 ต.วัฒนา อ.ส่องดาว จ.สกลนคร เนื่องจากไปหาปลาที่ลำห้วยยางบ้านโคกสุวรรณ ในตำบลเดียวกัน โดยเหตุเกิดในช่วงบ่ายวันที่ 3 ส.ค.
**น้ำท่วมคลี่คลายเหลือ14จังหวัดยังอ่วม
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงอิทธิพลของพายุโซนร้อน“นกเตน”ที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทยทำให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค.ว่า แม้ภาวะฝนตกจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนนกเตนจะคลี่คลายลงแล้ว แต่ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้วอยู่ระหว่างการฟื้นฟู 2 จังหวัดได้แก่ จ.น่าน และหนองคาย แต่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยทั้งสิ้น 14 จังหวัด 92 อำเภอ 491 ตำบล 3,600 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 125,513 ครัวเรือน 441,316 คน ผู้เสียชีวิต 7 ราย ผู้สูญหาย 4 คน ผู้บาดเจ็บ 12 คน
หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและอีสานยังคงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก โดยเฉพาะที่ จ.แพร่ ซึ่งเมื่อวานนี้ (4ส.ค.) มีรายงานข่าวว่า แม้ระดับน้ำยมในเขตตัวเมืองแพร่จะเริ่มลดลงตั้งแต่เย็นวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่กระแสแม่น้ำยมกลับมีปริมาณเพิ่มขึ้นใน อ.วังชิ้น พื้นที่ทางตอนใต้ของ จ.แพร่ วัดได้ที่หน้าอำเภอวังชิ้นมีระดับน้ำสูงถึง 15 เมตร ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งและเข้าท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตรมีระดับน้ำสูงถึง 2 เมตรเศษ ทุ่งนาที่เพิ่งปักดำเสร็จถูกน้ำท่วมเสียหายนับ 1,000 ไร่ บ้านเรือนใน ต.วังชิ้น ต.แม่ป้าก ต.แม่เกิ๋ง ทุกหมู่บ้านถูกน้ำท่วมและตัดขาดไม่สามารถเดินทางเข้าออกได้โดยรถยนต์ ต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียวเนื่องจากมีระดับน้ำสูงมาก
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากจากเหตุน้ำท่วมครั้งนี้แล้ว 2 รายคือ นายเพชร ทองนาค อายุ 16 ปี ชาวบ้านนาเวียง ต.วังชิ้น ประสบอุบัติเหตุ พร้อมด้วยนายโยคิน ทองนาค บิดาแต่ชาวบ้านได้ช่วยเหลือบิดาไว้ได้ทัน ส่วนนายเพชรยังไม่สามารถค้นหาศพได้ อีกรายคือ นายสุบิน สุนันท์วงศ์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านน้ำชำ อ.สูงเม่น ไปธุระนอกบ้านขณะน้ำท่วมแต่ไม่กลับมา ภรรยาตามไปดูเห็นรองเท้าลอยน้ำจึงช่วยกันค้นหาและพบว่านายสุบินพลัดตกน้ำเสียชีวิต ทั้งยังมีประชาชนใน อ.วังชิ้นติดอยู่ในสวนซึ่งมีระดับน้ำสูงไม่สามารถกลับได้จำนวน 2 คน คือนายบุญธรรม ที่บ้านปางมะโอ อีกรายคือนายวิเชียร ก้านเงิน อายุ 56 ปี ขณะนี้ยังติดต่อไม่ได้ถ้ายังไม่พบตัวในวันสองวันนี้เชื่อว่าน่าจะถูกน้ำพัดเสียชีวิตอีกรายก็เป็นได้
**พบศพ จ.ส.อ.ค่ายกาวิละลอยขึ้นอืด
เวลา 12.30 น.พ.ต.ท.ณฐกฤษ ชัยนันท์ สารวัตรเวร สภ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีศพลอยน้ำมาติดกิ่งไม้ที่บริเวณ ฝ่ายกั้นน้ำแม่หล่าย 2 ม.5 ต.แม่หล่าย อ.เมืองแพร่ เมื่อไปตรวจสอบพบเป็นศพ จ.ส.อ.เข็มชาติ ก้อนคำ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/1 หมู่ 4 ต.แม่หล่าย อ.เมืองแพร่ เป็นทหารค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่
**ซุงยักษ์โผล่ประจานกลางกระแสน้ำป่าตาก
ที่ จ.ตาก มีรายงานข่าวว่า น้ำป่าจากเทือกเขาหลายแห่งจาก อ.บ้านตาก ไหลทะลักลงแม่น้ำแม่ตื่นที่เป็นแม่น้ำสายเดียวที่รองรับน้ำ เพื่อระบายลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล โดยกระแสน้ำป่าได้พัดพาต้นไม้และต้นซุงขนาดใหญ่จำนวนมากลงมาติดตอม่อสะพานแม่ตื่น ที่เชื่อมฝั่งเหนือกับฝั่งใต้ของ ต.แม่ตื่น อ.แม่ระมาด จ.ตาก และท่อนซุงบางส่วนที่ไหลมากับกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากได้ชนตอม่อสะพานจนทำให้ตอม่อหักสะพานช่วงกลางที่ยาวกว่า 20 เมตรทานแรงกระแทกไม่ไหวพังครืนลงทำให้ประชาชนทั้งสองฝั่งไม่สามารถข้ามไปมาได้ ซึ่งฝั่งตรงข้ามมีหมู่บ้านกว่า 10 หมู่บ้านที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก รถชาวบ้านที่เข้าไปหาของป่านับสิบคันต้องติดริมฝั่งน้ำ
นายวีรวุฒิ ใหม่โม่ง อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 เปิดเผยว่า มีกว่า 10 หมู่บ้าน ประมาณ 6,000 คน ที่ติดอยู่ไม่สามารถข้ามมาได้
**แม่ฮ่องสอนเดินเท้าเข้าเขตโคลนถล่ม
ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 อ.แม่สะเรียง พ.อ.สุทัศน์ จารุมณี รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 รักษาราชการผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 ได้ปล่อยแถวกำลังชุดปฏิบัติการ 200 นายเพื่อเดินทางไปยังหมู่บ้านปู่ทา ม.6 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย หลังจากที่ได้เกิดดินถล่มทับบ้านเรือนราษฏร 10 หลังคามีผู้เสียชีวิต 3 ศพสูญหายอีก 4 รายและบาดเจ็บอีก 12 รายเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ชุดปฏิบัติการฯทั้ง 200 นายต้องเดินเท้าลัดเลาะตามสันเขาไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง เพราะเส้นทางรถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปมาได้
**นครพนมประกาศ9อำเภอพื้นที่น้ำท่วม
ด้านนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำโขงๆได้สูงขึ้นถึงจุดวิกฤตกว่า 12 เมตรแล้วและมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีก ซึ่งทางจังหวัดได้ประกาศเตือนให้ประชาชนระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลันแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางจังหวัดได้ประกาศให้ 9 อำเภอ คือ อ.บ้านแพง นาทม โพนสวรรค์ ศรีสงคราม ท่าอุเทน นาหว้า เรณูนคร และ อ.เมือง เป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมแล้ว
**เมืองสกลนครน้ำยังทรงตัวตายแล้ว1ศพ
ส่วนสถานการน้ำท่วมที่ จ.สกลนคร น้ำยังทรงตัวเนื่องจากระดับน้ำในแหล่งน้ำสำคัญ คือ ลำน้ำยาม และลำน้ำสงคราม ยังคงหนุนเนื่อง มูลค่าความเสียหายทางเจ้าหน้าที่ยังคงเร่งสำรวจ เบื้องต้นคาดความเสียหายไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 1 ศพคือ นายอุทิศ สุริยันต์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 ม.4 ต.วัฒนา อ.ส่องดาว จ.สกลนคร เนื่องจากไปหาปลาที่ลำห้วยยางบ้านโคกสุวรรณ ในตำบลเดียวกัน โดยเหตุเกิดในช่วงบ่ายวันที่ 3 ส.ค.
**น้ำท่วมคลี่คลายเหลือ14จังหวัดยังอ่วม
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงอิทธิพลของพายุโซนร้อน“นกเตน”ที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทยทำให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค.ว่า แม้ภาวะฝนตกจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนนกเตนจะคลี่คลายลงแล้ว แต่ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้วอยู่ระหว่างการฟื้นฟู 2 จังหวัดได้แก่ จ.น่าน และหนองคาย แต่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยทั้งสิ้น 14 จังหวัด 92 อำเภอ 491 ตำบล 3,600 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 125,513 ครัวเรือน 441,316 คน ผู้เสียชีวิต 7 ราย ผู้สูญหาย 4 คน ผู้บาดเจ็บ 12 คน
