พระนครศรีอยุธยา - วัยรุ่นเมืองพระนครศรีอยุธยา เหิมหนัก สาดกระสุนไม่ต่ำกว่า 6 นัด ใส่รถคนต่างถิ่นขณะวิ่งผ่านพื้นที่เขตอำเภอบางปะหัน ทำให้เจ้าของไร่เมืองกาญจนบุรี บาดเจ็บ ขณะที่เหยื่อคมกระสุน เผย ไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน แต่ก็มาโดนยิงโดยไม่รู้สาเหตุ ตำรวจเร่งล่าคนร้ายมาดำเนินคดี
เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น.ของวันนี้ (3 ส.ค.) ตรงช่วงถนนถนนสาย 347 ห่างจากวงแหวนบางปะหัน ประมาณ 1 กม.เขต ต.พุทเลา อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ใกล้กับวัดนนทรี พบว่า คนร้ายจำนวน 4 คน ใช้จักรจักรยานยนต์ 3 คัน ไล่ตามาประกบรถยนต์เก๋ง โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ หมายเลข กง 8205 กาญจนบุรี โดยรถจักรยานยนต์คนร้าย คันแรกขับประกบด้านขวาของรถ มีชายสองคนขับและซ้อนท้าย รูปร่างสันทัด สวมเสื้อยืดแขนสั้น สวมหมวกกันน็อก และรถจักรยานยนต์คันที่ 2 มีคนขับเพียงคนเดียว ขับประกบด้านขวาเช่นกัน และคันที่ 3 มีคนขับคนเดียวขับตามหลัง
จากนั้นคนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันแรก ได้ยิงปืนใส่รถเก๋งทางด้านขวาจำนวน 6 นัด เข้าที่ซุ้มล้อรถขวาหลังจำนวน 3 นัด เข้าที่ประตูหลังขวา 1 นัด ประตูหน้าขวา 1 นัด และกระจก 1 นัด ทำให้ นายชูชาติ พุ่มพวง อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 42 ม.1 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ที่เป็นเจ้าของรถเก๋งและเป็นคนขับ ถูกยิงด้วยกระสุนไม่ทราบขนาดเข้าที่ท่อนแขนขวา จนกระสุนฝังในท่อนแขน โดย นางรุ่งฤดี อุบลบาล อายุ 33 ปี ภรรยา ได้เร่งให้ขับรถหนีตาย โดยขับมุ่งหน้าเข้าในตัวเมืองอยุธยา และโทร.แจ้งตำรวจ 191 ไปพร้อมกัน ท้ายสุดมาจอดที่หน้า รพ.พระนครศรีอยุธยา และรอดตายอย่างฉิวเฉียด โดยแพทย์ให้การรักษานายชูชาติ พุ่มพวง ผู้บาดเจ็บ และทีมแพทย์กำลังจะผ่าตัดเอาหัวกระสุนออกมา เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนทางคดี ล่าสุดพบว่าปลอดภัยแล้ว
นายชูชาติ พุ่มพวง ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ตนเองมีอาชีพเป็นเจ้าของไร่อ้อยจำนวนกว่า 100 ไร่ ที่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยเมื่อวานตนเองขับรถยนต์เก๋ง โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ หมายเลข กง 8205 กาญจนบุรี ไปทำธุระที่ จ.มหาสารคราม และ จ.กาฬสินธุ์ โดยนำเงินไปจ่ายค่าคนงานตัดอ้อย ซึ่งก็ไม่ได้นำเงินสดติดตัวไป เพราะใช้เงินผ่านบัตรเอทีเอ็ม จากนั้นไปทำธุระที่บ้านแฟนที่ จ.พิษณุโลก และออกจาก จ.พิษณุโลก ตอน 20.00 น.และตั้งใจจะเข้า จ.อ่างทอง เพื่อไปทะลุ จ.สุพรรณบุรี และไป จ.กาญจนบุรี แต่ท้ายที่สุดหลงทางเข้ามาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา
และในช่วงเกิดเหตุประมาณ 02.30 น.เศษ มาเกิดเหตุถูกตามไล่ยิงดังกล่าว ทั้งนี้ ตนไม่มีศัตรูอะไรกับใคร และก็เป็นเพียงคนต่างถิ่นที่หลงทางผ่านเข้ามาในเขต จ.พระศรีอยุธยา ซึ่งข่าวสารต่างๆ ของจังหวัดนี้ ตนเองก็หวั่นเกรงอยู่แล้ว เพราะมีทั้งปาหินและยิงใส่รถคนต่างถิ่น ก็ไม่นึกว่าจะมาโดนกับตัวเอง ซึ่งเชื่อว่า คนร้านต้องการยิงตนเองให้ตายหรือต้องการให้รถหยุด เพื่อจะปล้นเอารถ หรือทรัพย์สินในรถ หรืออาจเป็นพวกป่วนเมือง ซึ่งตนเองก็ไม่รู้เป็นอะไรแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ ก็ไม่ได้ขับรถปาดกับรถอะไรบนถนนระหว่างเส้นทางที่วิ่งรถมา จึงอยากให้ตำรวจเร่งติดตามหาตัวตนร้าย
จากนั้น นางรุ่งฤดี อุบลบาล ภรรยา ได้พามาดูรถโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ หมายเลข กง 8205 กาญจนบุรี ที่จอดหน้า รพ.ซึ่งพบว่ามีรอยกระสุนไม่ทราบขนาดเข้าที่ซุ้มล้อรถด้านขวา 3 นัด ประตูหลังขวา 1 นัด ประตูหน้าขวา 1 นัด และอีก นัดเข้ากระจกข้าวขวา จนกระจกแตกละเอียด ในรถตรงเบาะคนขับพบรอยเลือดจำนวนมาก พร้อมเปิดเผยว่า หวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เข้าใจพวกตนเองแค่หลงทางเข้ามาทำไมต้องมาทำร้ายกันขนาดนี้ หากโชคไม่ดีพวกตนเองตายกันไปหมดแล้ว และตนเองก็จะพยายามพาสามีย้าย รพ.ไป จ.กาญจนบุรี ด่วนที่สุด เพราะคิดว่า พื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อันตราย
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ภูวดิท ธนะคชภัทร รองผบก.ภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมสอบปากคำผู้เสียหาย และพบว่า พนักงานสอบสวนของ สภ.บางปะหัน และ สภ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบปากคำ โดยพบว่า ที่เกิดเหตุที่แท้จริงอยู่ในเขต ต.พุทเลา อ.บางปะหัน และจะได้เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนโดยเร็วที่สุด โดยจะต้องตรวจเช็กจากกลุ่มแก๊งในพื้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียง และให้ความมั่นใจว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้แน่นอน
ต่อมาเวลา 12.00 น. พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เดินทางไปที่ รพ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเยี่ยมผู้บาดเจ็บและกำชับให้ตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุสืบสวนติดตามการเดินทางของ นายชูชาติ ผู้บาดเจ็บ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามเส้นทาง ตอนนี้ได้ตั้งประเด็นไว้ ประสงค์ต่อทรัพย์ และเหตุขับรถปาดหน้า
