หนุ่มเลือดร้อนฉุนเฒ่าวัย 63 ขับรถปาดหน้า คว้าอาวุธแทง-ปากคอดับ เข้ามอบตัวต่อตำรวจวังทองหลางแล้ว สารภาพทำไปเพราะโมโหถูกผู้ตายขับรถปาดหน้า ด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรง ก่อนชุลมุนชกต่อยกันจึงใช้สนับมือกระหน่ำแทงจนเสียชีวิต ด้านตำรวจเตรียมสอบปากคำและนำตัวฝากขังเช้านี้
วันนี้ (18 ก.ค.) ความคืบหน้ากรณีคนขับรถเก๋งฟอร์ด ป้ายแดง ก่อเหตุใช้มีดปาดคอและแทง นายชัยวัฒน์ ลิมปวัชรพงศ์ อายุ 63 ปี เสียชีวิต บริเวณแยกซอยสหการประมูล หน้าสถานทูตกัมพูชา ถ.ประชาอุทิศ แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. สาเหตุเพียงแค่ขับรถปาดหน้ากันไปมาเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา
กระทั่งต่อมาเวลา 17.00 น. นายกนก ปุ่นนิ่ม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/237 ซอยรามคำแหง 174 แขวงและเขตมีนบุรี กทม. ผู้ต้องหา ได้เข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.อาณัต เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ลือชัย สุดยอด รอง ผบก.น.4 และ พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า ผกก.สน.วังทองหลาง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนที่ห้องประชุมชั้น 2
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ใช้อาวุธมีดแทงนายชัยวัฒน์จนเสียชีวิต สาเหตุเนื่องจากโมโหเรื่องขับรถปาดหน้ากัน โดยกล่าวว่าก่อนเกิดเหตุตนขับรถจากซอยวัดเทพลีลา ย่านรามคำแหง เพื่อจะไปทำงานที่สำนักงานถนนรัชดาภิเษก ระหว่างขับรถเก๋งมาถึงถนนประชาอุทิศ ผู้ตายได้ขับรถปาดหน้าตน ด้วยความโมโหจึงขับรถตามไปแล้วปาดคืน กระทั่งผู้ตายได้เบรกรถอย่างกะทันหันเพื่อให้รถตนชนท้าย จากนั้นผู้ตายได้ขับรถไปจอดรอเหมือนจะหาเรื่อง ตนจึงขับรถไปปาดหน้าแล้วเบรกบ้าง ทำให้ผู้ตายซึ่งขับรถตามมาชนท้ายรถตน จากนั้นผู้ตายลงจากรถมาต่อว่าด้วยถ้อยคำที่รุนแรง กระทั่งมีเรื่องชกต่อยกัน ตนจึงใช้มีดที่เป็นสนับมือที่มักพกติดตัวเป็นประจำกระหน่ำแทงผู้ตายไปหลายครั้งด้วยความโกรธ จากนั้นจึงหลบหนีไปไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ก่อนจะตัดสินใจเข้ามอบตัว ส่วนอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ ตนเอาไปทิ้งไว้ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุมากนัก อย่างไรก็ตาม ฝากขอโทษครอบครัวผู้ตายจากการกระทำของตนในครั้งนี้ด้วย จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงนำตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำอย่างละเอียดที่ห้องเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนอีกครั้ง
ด้าน พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รองผบก.น.4 กล่าวว่า สาเหตุครั้งนี้เกิดจากการบันดาลโทสะ จากการขับรถปาดหน้ากันเท่านั้นเอง หลังจากที่ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวจะให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำก่อนที่จะแจ้งข้อหาเจตนาฆ่าผู้อื่น ก่อนที่จะปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากไม่มีพฤติกรรมหลบหนี จากนั้นจะนัดให้ผู้ต้องหา มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาฯ ในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค) เวลา 09.00 น.