กาญจนบุรี - ชาวกาญจน์ ประท้วงนอนขวางทางรถไฟ จนขบวนรถไฟหยุดวิ่ง 30 นาที หลังการรถไฟนำแผงเหล็กปิดกั้นการสัญจร 4 หมู่บ้าน ผวจ.กาญจน์ นำทีมรุดเจรจา ก่อนให้ ร.ฟ.ท.เปิดเส้นทาง 2 เมตร ให้ใช้ชั่วคราว
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (1 ส.ค.) ได้มีชาวบ้านจาก 4 หมู่บ้าน ของ ต.ทุ่งทอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ประมาณ 200 คน ไม่พอใจที่การรถไฟแห่งประเทศไทย นำเครื่องกั้นมาปิดทางข้ามถนน ซึ่งเป็นทางสัญจรระหว่าง 4 หมู่บ้าน จึงรวมตัวเดินทางมาชุมนุมที่บริเวณถนนตัดทางรถไฟบ้านทุ่งทอง หมู่ 6 ต.ทุ่งทอง ซึ่งอยู่ริมคลองชลประทานสายทุ่งทอง-บางเลน โดยชาวบ้านได้นำป้ายกระดาษที่เขียนข้อความโจมตีการทำงานของการรถไฟแห่งประเทศไทยที่เจ้าหน้าที่รถไฟทำการใช้แผงเหล็กปิดกั้นเส้นทางที่ชาวบ้านใช้เดินทางผ่านข้ามทางรถไฟ
เมื่อชาวบ้านมาถึงได้รวมตัวกันถือป้ายประท้วง จนกระทั่งเวลา 10.30 น.ได้มีรถไฟขบวนธนบุรี-น้ำตก ขบวนที่ 4031 มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี แล่นมา ปรากฏว่า มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้กระจายกันนอนขวางรางรถไฟ บ้างก็ยืนถือป้ายกระดาษบนทางรถไฟ เมื่อรถไฟแล่นมาถึงในระยะ 300 เมตร เห็นว่า มีชาวบ้านขวางรางอยู่ พนักงานขับรถไฟพยายามชะลอความเร็วพร้อมเปิดสัญญาณแตรหวูดเสียงดัง เพื่อเป็นสัญญาณให้ชาวบ้านหลบจากรางรถไฟ แต่ชาวบ้านไม่หลบ ทำให้รถไฟขบวนดังกล่าวต้องหยุดการเดินทางทันที และได้จอดรอราว 30 นาที
ต่อจากนั้นพนักงานการรถไฟได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วง นำกำลังมาทำการเจรจา
ต่อมา พ.ต.อ.ธนู ฮวบประเสริฐ ผกก.สภ.ท่าม่วง พร้อมกำลัง 20 นาย ได้เดินทางมาที่จุดที่เกิดเหตุ พร้อมเจรจากับชาวบ้าน โดยร้องขอให้ชาวบ้านอย่าปิดกั้นทางรถไฟ เพื่อให้ขบวนเดินทางต่อไปได้ ซึ่งชาวบ้านก็ยินยอม แต่เมื่อขบวนเริ่มออกชาวบ้านต่างพากันตะโกนโห่ไล่หลังไป
ต่อมาเวลา 12.00 น.นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ที่ทราบข่าวการชุมนุมประท้วงดังกล่าวได้เดินทางมาที่ ต.ท่าม่วง โดยมี นายปิยะ คุปต์กาญจนกุล นายอำเภอท่าม่วง นายไพฑูรย์ สุขดี นายก อบต.ทุ่งทอง พ.ต.อ.ธนู ฮวบประเสริฐ ผกก.สภ.ท่าม่วง นายสมคิด น้อยจรินทร์ สารวัตรบำรุงทางกาญจนบุรี พร้อมแกนนำชาวบ้านเพื่อร่วมประชุมหาทางออก ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลท่าม่วง
ในที่ประชุมตัวแทนชาวบ้านได้ร้องขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ว่า พวกเราชาวบ้านตำบลทุ่งทองมีความเดือดร้อนมาก อยากขอความกรุณาจากผวจ.กาญจนบุรีช่วยเจรจากับการรถไฟนำเหล็กแผงกั้นที่ปิดถนนข้ามทางรถไฟทั้ง 2 ด้านออก เพื่อให้ชาวบ้านใช้เป็นทางสัญจรตามปกติ เพราะจุดตัดทางรถไฟบริเวณดังกล่าวเป็นถนนเชื่อมต่อระหว่าง 4 หมู่บ้าน
ประกอบด้วย หมู่ 8 บ้านรางจิก หมู่ 6 บ้านหนองปลวก หมู่ 4 บ้านห้วยนาคราช หมู่ 2 บ้านทุ่งทอง และเป็นถนนที่ใช้กันมานานกว่า 30 ปี แล้ว อยู่ๆ การรถไฟก็มาปิดกั้น โดยให้เหตุผลว่าถ้าปิดกั้นเส้นทางดังกล่าว ชาวบ้านที่ใช้ทางและนำบุตรหลานไปโรงเรียนจะต้องใช้เส้นทางเลี่ยง ซึ่งเป็นทางลูกรังและเปลี่ยวมาก เสี่ยงต่อการก่อเหตุอาชญากรรมได้ เพราะที่ผ่านมามีชาวบ้านเป็นหญิงสาวใช้เส้นทางดังกล่าวและถูกก่อเหตุข่มขืนมาแล้ว และยังมีคดีชิงทรัพย์ชาวบ้านในเส้นเลี่ยงดังกล่าว
ในเรื่องดังกล่าว นายสมคิด น้อยจรินทร์ สารวัตรบำรุงทางกาญจนบุรี กล่าวว่า ถนนดังกล่าวตามแผนที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ระบุว่าเป็นเส้นทางลักผ่านของชาวบ้านที่ใช้มานาน ซึ่งไม่ได้เป็นเส้นทางที่ทางรถไฟฯ เปิดให้ข้ามใช้ จึงมีการปิดเพื่อเป็นการป้องกันเพราะมีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยได้เปิดจุดใหม่ห่างจากจุดเดิม 300 เมตร เพื่อให้ชาวบ้านใช้ผ่านข้าม ซึ่งอยู่หลังร้านอาหารร่มก้ามปู แต่ชาวบ้านอ้างว่าจุดดังกล่าวไกลและเปลี่ยวอีกทั้งยังเป็นทางลูกรังไม่สะดวก
หลังจากฟังข้อเรียกร้อง และการชี้แจงทุกฝ่ายแล้ว นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้กล่าวข้อสรุปในการประชุมครั้งนี้ ว่า เรื่องนี้เป็นรความเดือดร้อนชของประชาชน ที่ต้องเร่งการแก้ปัญหาแต่ต้องเป็นการแก้ไขร่วมกันหลายหน่วยงาน เบื้องต้นให้ อบต.ทุ่งทอง จัดสรรงบประมาณมาลาดยาง และทำไฟฟ้าส่องสว่างเส้นทางใหม่ที่ทางรถไฟเตรียมไว้ให้ เพื่อเป็นการลดความอันตราย ซึ่งชาวบ้านต้องการในส่วนนี้พอใจ โดยให้ทาง อ.ท่าม่วง ทต.ท่าม่วงและ อบต.ทุ่งทอง ประสานกับทางหลวงชนบทจังหวัดกาญจนบุรี ไปดูจุดและเร่งดำเนินการ โดยระหว่างรองบประมาณ ขอให้ทางรถไฟแห่งประเทศไทยจะเปิดขยายทางจุดที่ปิดออกไปเป็น 2 เมตร เพื่อให้ชาวบ้านใช้ จยย.สัญจรชั่วคราวไปก่อน แต่หากเกิดอุบัติเหตุการรถไฟฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
หลังจากที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้สรุปแนวทางแก้ปัญหาทั้งหมดแล้วชาวบ้านต่างพอใจและโห่ร้องสรรเสริญขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ต่อจากนั้นจึงสลายตัวเดินทางกลับภูมิลำเนาในที่สุด
