กาญจนบุรี - พ่อเมืองกาญจน์ อ้อน ปชช.อย่าเบื่อการเมืองวอนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้เต็มที่ หลังรัฐบาลยุบสภาคืนอำนาจให้ ปชช.ชี้หากผู้สมัครรายใดต้องการ ตร.คุ้มกันให้ส่งหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรถึง ผบก.กาญจน์ได้ทุกเมื่อ เผยหากพบหลักฐานข้าราชการไม่เป็นกลางสั่งย้ายออกนอกพื้นที่ทันที
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (1 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผวจ.กาญจนบุรี ที่ห้องทำงานชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อสัมภาษณ์เกี่ยวกับการหาเสียงของบรรดาผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีทั้ง 5 เขต รวม 10 พรรค มีผู้สมัครทั้งสิ้น 32 คน
โดย นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรีทุกคนโดยเฉพาะประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ก่อนจะถึงวันใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.โดยในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่นักการเมืองทั้งหลายกำลังออกหาเสียงในพื้นที่ที่รับผิดชอบ
จึงขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการเลือกผู้สมัครแต่ละรายให้ถ่องแท้ที่คิดว่าผู้สมัครบุคคลนั้นสามารถเข้ามาช่วยเหลือประชาชนได้ ที่สำคัญ ประชาชนทุกคนอย่าเพิ่งเบื่อการเมืองหรือการเลือกตั้ง เพราะการเมืองกับประชาชนนั้นเป็นของคู่กัน ครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีที่รัฐบาลยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน
ฉะนั้น เราทุกคนจะต้องถือโอกาสนี้เลือกคนดีเข้าไปรับใช้เราในสภา เพื่อมาพัฒนาบ้านเมืองของเราให้เจริญก้าวหน้าต่อไป ที่สำคัญเราอย่าขายเสียงให้กับนักการเมืองอย่างเด็ดขาด เพราะการขายเสียงนั้นหมายถึงต้นทุนที่นักการเมืองเขาลงทุนไปเมื่อเขาได้เป็น ส.ส.ต่อไปก็คือ การถอนทุนคืนและเมื่อมีการลงทุนก็ต้องมีกำไรจะด้วยวิธีไหนก็แล้วแต่
หวังว่าประชาชนชาวกาญจนบุรีจะเข้าใจตรงจุดนี้ การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาประชาชนชาวกาญจนบุรีออกมาใช้สิทธิ์ ทั้งสิ้น 74% ในครั้งนี้ เราได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิมากกว่าเดิมหรือมากกว่า 75% อย่างแน่นอนเนื่องจากปัจจุบันชาวกาญจนบุรีตื่นตัวเรื่องการเมืองมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา การเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบันทำให้ประชาชนรู้แล้วว่าอะไรเป็นอย่างไร และควรจะเลือกใครมาเป็นตัวแทน
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวต่อว่า ในส่วนของผู้สมัคร ส.ส.ขณะนี้เริ่มมีการประสานเข้ามาเพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันขณะหาเสียงบ้างแล้ว ซึ่งก็แนะนำไปว่าให้ทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรมาถึงตนเพื่อจะได้ประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจ หรือจะทำหนังสือไปถึง พล.ต.ต.โชต วีรเดชกำแหง ผบก.กาญจนบุรีโดยตรงก็ได้ ซึ่งขณะนี้ตนได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทั้งหมด 21 โรงพักให้เฝ้าระวังเหตุร้ายที่อาจจะเกิดกับผู้สมัคร ส.ส.รวมทั้งหัวคะแนนด้วย การรักษาความปลอดภัยให้กับผู้สมัคร และหัวคะแนนนั้นถือว่าเป็นวาระแห่งชาติและเป็นนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอยู่แล้ว
ส่วนปัญหาเรื่องการทำตัวไม่เป็นกลางของข้าราชการ ตนได้สั่งกำชับไปว่าห้ามข้าราชการทุกคนเอนเอียงไปเข้าข้างหรือช่วยเหลือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างเด็ดขาด โดยถ้าหากมีการร้องเรียนเข้ามาและมีหลักฐานชัดเจนตนจะใช้อำนาจสั่งย้ายข้าราชการคนนั้นออกนอกพื้นที่ทันที รวมทั้งจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (1 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผวจ.กาญจนบุรี ที่ห้องทำงานชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อสัมภาษณ์เกี่ยวกับการหาเสียงของบรรดาผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีทั้ง 5 เขต รวม 10 พรรค มีผู้สมัครทั้งสิ้น 32 คน
โดย นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรีทุกคนโดยเฉพาะประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ก่อนจะถึงวันใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.โดยในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่นักการเมืองทั้งหลายกำลังออกหาเสียงในพื้นที่ที่รับผิดชอบ
จึงขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการเลือกผู้สมัครแต่ละรายให้ถ่องแท้ที่คิดว่าผู้สมัครบุคคลนั้นสามารถเข้ามาช่วยเหลือประชาชนได้ ที่สำคัญ ประชาชนทุกคนอย่าเพิ่งเบื่อการเมืองหรือการเลือกตั้ง เพราะการเมืองกับประชาชนนั้นเป็นของคู่กัน ครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีที่รัฐบาลยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน
ฉะนั้น เราทุกคนจะต้องถือโอกาสนี้เลือกคนดีเข้าไปรับใช้เราในสภา เพื่อมาพัฒนาบ้านเมืองของเราให้เจริญก้าวหน้าต่อไป ที่สำคัญเราอย่าขายเสียงให้กับนักการเมืองอย่างเด็ดขาด เพราะการขายเสียงนั้นหมายถึงต้นทุนที่นักการเมืองเขาลงทุนไปเมื่อเขาได้เป็น ส.ส.ต่อไปก็คือ การถอนทุนคืนและเมื่อมีการลงทุนก็ต้องมีกำไรจะด้วยวิธีไหนก็แล้วแต่
หวังว่าประชาชนชาวกาญจนบุรีจะเข้าใจตรงจุดนี้ การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาประชาชนชาวกาญจนบุรีออกมาใช้สิทธิ์ ทั้งสิ้น 74% ในครั้งนี้ เราได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิมากกว่าเดิมหรือมากกว่า 75% อย่างแน่นอนเนื่องจากปัจจุบันชาวกาญจนบุรีตื่นตัวเรื่องการเมืองมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา การเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบันทำให้ประชาชนรู้แล้วว่าอะไรเป็นอย่างไร และควรจะเลือกใครมาเป็นตัวแทน
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวต่อว่า ในส่วนของผู้สมัคร ส.ส.ขณะนี้เริ่มมีการประสานเข้ามาเพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันขณะหาเสียงบ้างแล้ว ซึ่งก็แนะนำไปว่าให้ทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรมาถึงตนเพื่อจะได้ประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจ หรือจะทำหนังสือไปถึง พล.ต.ต.โชต วีรเดชกำแหง ผบก.กาญจนบุรีโดยตรงก็ได้ ซึ่งขณะนี้ตนได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทั้งหมด 21 โรงพักให้เฝ้าระวังเหตุร้ายที่อาจจะเกิดกับผู้สมัคร ส.ส.รวมทั้งหัวคะแนนด้วย การรักษาความปลอดภัยให้กับผู้สมัคร และหัวคะแนนนั้นถือว่าเป็นวาระแห่งชาติและเป็นนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอยู่แล้ว
ส่วนปัญหาเรื่องการทำตัวไม่เป็นกลางของข้าราชการ ตนได้สั่งกำชับไปว่าห้ามข้าราชการทุกคนเอนเอียงไปเข้าข้างหรือช่วยเหลือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างเด็ดขาด โดยถ้าหากมีการร้องเรียนเข้ามาและมีหลักฐานชัดเจนตนจะใช้อำนาจสั่งย้ายข้าราชการคนนั้นออกนอกพื้นที่ทันที รวมทั้งจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด