ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้บริหารระดับสูง กองทัพเรือ เข้าตรวจชมสมรรถนะยานเกราะล้อยาง BTR-3E1 ยูเครน และยานเกราะล้อยาง BTR-3E1 จำนวน 12 คัน ที่สั่งซื้อจากประเทศยูเครน เพื่อเตรียมใช้ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยทหารนาวิกโยธิน ในการรักษาความสงบพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้
พลเรือเอก สุวิทย์ ธาระรูป ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมยานเกราะล้อยางแบบ BTR-3E1 จำนวน 12 คัน ที่ได้รับมอบจากกระทรวงกลาโหม ให้มาใช้ในการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทดแทนรถเกราะคอมมานโด V-150 ที่มีจำนวนน้อย และเสื่อมสภาพ โดยมี พลเรือโท จักรชัย ภู่เจริญยศ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารเรือ พร้อมด้วย พลเรือโท พงศ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ให้การต้อนรับ และบรรยายสรุป พร้อมสาธิตการใช้ยานเกราะล้อยางแบบ BTR-3E1 เพื่อทราบถึงสมรรถนะขีดความสามารถ
โดย พลเรือโท จักรชัย ภู่เจริญยศ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหายานเกราะล้อยางแบบ BTR-3E1 กล่าวว่า การจัดหายานเกราะล้อยางแบบ BTR-3E1 พร้อมระบบอาวุธ อมภัณฑ์ภูมิฐาน เครื่องมือ เครื่องอะไหล่ และการฝึกอบรมจากประเทศยูเครน เป็นไปตามที่กระทรวงกลาโหม ได้อนุมัติโครงการจัดหายานเกราะล้อยางตามแผนงานป้องกันราชอาณาจักร เพื่อทดแทนรถเกราะคอมมานโด V-150 สำหรับภารกิจตามแผนป้องกันประเทศ และปฏิบัติราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมา กองทัพเรือได้อนุมัติให้ พลเรือตรี ณรงค์รัตน์ โพธิ์แดง ประธานกรรมการตรวจรับพัสดุ เดินทางไปตรวจสอบขั้นโรงงาน ณ ประเทศยูเครน ผลการตรวจสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมส่งกำลังพลจำนวน 11 นาย เข้ารับการฝึกอบรม ณ ประเทศยูเครน จำนวน 63 วัน ต่อมาบริษัทได้จัดส่งยานเกราะล้อยางจำนวน 12 คัน พร้อมอุปกรณ์ และอมภัณฑ์มูลฐาน ประจำยานเกราะ มาถึงประเทศไทย ณ ท่าเรือทุ่งโปรง เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมาก่อนจะจัดเก็บรักษาไว้ที่กองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน ซึ่งประเทศยูเครนจะดำเนินการส่งมอบเครื่องมือ และอะไหล่ ในงวดที่เหลือในเดือนสิงหาคมนี้ โดยสัญญาจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ พร้อมใช้ในราชการภายในเดือนกันยายน
สำหรับยานเกราะล้อยางแบบ BTR-3E1 เป็นรถที่ใช้ในการลำเลียงหน่วยทหารราบ และพร้อมใช้ในภารกิจการยิงสนับสนุน ให้กับหน่วยเคลื่อนที่เร็ว และหน่วยสะเทินน้ำสะเทินบก บรรทุกพลได้ 13 นาย ระบบอาวุธติดตั้งปืนขนาด 30 มิลิเมตร ทำลายเป้าหมายเป็นบุคคล กระสุนชนิดเจาะเกราะที่มีอัตราการยิง 330 นัด/วินาที ระยะหวังผล 4,000 เมตร และติดตั้งปืนกล ขนาด 7.62 มิลลิเมตร PKT อัตราการยิง 700-800 นัด/นาที ไกลสุด 3,800 เมตร สามารถปฏิบัติงานได้ทั้งกลางวันกลางคืน
ทั้งในสภาวะสงครามชีวะ เคมี มีสมรรถนะในการขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงสุดไม่ต่ำกว่า 100 กม./ชม.ลอยน้ำได้นาน 12 ชม.เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 8 กม./ชม.ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ยี่ห้อ BENZ MTU 6R 106 TD 21 ขนาด 6 สูบ แถวเรียง 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีระบบพรางตัวด้วย เครื่องยิงระเบิดควัน ที่สามารถสร้างม่านควันได้วงกว้าง 27 เมตร และระดับความสูง 8 เมตร นอกจากนี้ ยังมีระบบตรวจการณ์ด้วยกล้องติดตามเป้าหมาย (Track) และกล้องดีไวท์ สำหรับยิงจรวด