ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผบช.ภ.5 แถลงผลจับกุมหนุ่มเมืองสองแคว พร้อมแฟนสาวก่อคดีฆ่าชิงทรัพย์เฒ่าวัย 72 อดีตคนพายเรือพระที่นั่งถวายในหลวง ระหว่างเสด็จพระราชดำเนิน ณ หนองบัวพระเจ้าหลวง เชียงใหม่ อีกคดีจับ 2 ผู้ต้องหาค้ายาบ้าขัดขืนและยิงต่อสู้ จนท.ก่อนโดนรวบพร้อมของกลางยาบ้าและอาวุธปืน ส่วนคดีสุดท้ายจับกุม 3 ชาวต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง บังคับเด็กอายุ 3-14 ปี บังคับขอทานและล่วงละเมิดทางเพศ
วันนี้ (26 ก.ค.) ที่ตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอัมพันธ์กุล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แถลงผลการสืบสวนจับกุมคดีสำคัญ 3 คดี โดยคดีแรกเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 สามารถทำการจับกุม นายปรีชา ไพเราะ อายุ 23 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลก และแฟนสาว นางสาวจันจิรา สิทธิปัญญา อายุ 18 ปี ชาวอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ที่ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ นายตัน ยาวีระ อายุ 72 ปี ที่บ้านพักเลขที่ 213 หมู่ 6 ตำบลแม่ฮ้อยเงิน อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 3 ก.ค.54 โดยใช้มีดแทง นายตัน รวม 26 แผล จนเสียชีวิต แล้วชิงทรัพย์เป็นสร้อยคอทองคำ พระเครื่อง รถยนต์ และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง แล้วหลบหนีไป
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมได้ที่จังหวัดพิษณุโลก ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและฆ่าผู้อื่น เพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการจะกระทำผิดอย่างอื่น สำหรับ นายตัน นั้น เคยเป็นคนพายเรือพระที่นั่งถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนิน ณ หนองบัวพระเจ้าหลวง อำเภอดอยสะเก็ด เมื่อ พ.ศ.2503 ด้วย
ขณะที่คดีต่อมาเป็นการจับกุมตัว นายบุญเท่ง กันทะตี อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 10 ตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และ นายวัชระ เซนต์แก้ว อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 หมู่ 10 ตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน พร้อมของกลางยาบ้า 647 เม็ด รถยนต์กระบะ อาวุธปืนยาว ขนาด .22 พร้อมซองกระสุน 1 กระบอก อาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อนอริงโก้ ขนาด 9 มม.พร้อมซองกระสุน 1 กระบอก อาวุธปืนลูกโม่ ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด 9 มม.1 กระบอก กระสุนปืนขนาดต่างๆ รวม 112 นัด และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
ทั้งนี้ การจับกุมสืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มีพฤติการณ์จำหน่ายยาบ้า ซ่องสุมกำลังวัยรุ่นออกก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นและชอบสะสมอาวุธปืน จึงวางแผนล่อซื้อยาบ้าจากผู้ต้องหา เมื่อวันที่ 22 ก.ค.54 ในหมู่บ้านแม่ป้อก หมู่ 10 ตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ แต่ระหว่างการล่อซื้อผู้ต้องหาทั้งคู่ไหวตัวทันและพยายามขับรถยนต์กระบะหลบหนี โดยนายวัชระ ได้ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงยางรถยนต์ของผู้ต้องหาแตก จนผู้ต้องหาต้องหยุดรถแล้วพากันวิ่งหลบหนี แต่ถูกเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามจับกุมตัวไว้ได้ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ในระหว่างการจับกุม
โดยในส่วนของ นายบุญเท่ง นั้น พบว่า มีประวัติการกระทำผิดหลายคดี เช่น คดีฆ่าผู้อื่น ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน ตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ใช้อิทธิพลข่มขู่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ซึ่งขัดขวางการตัดไม้ทำลายป่าของตนเอง นอกจากนี้ยังมีพฤติการณ์เป็นมือปืนรับจ้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะมีส่วนพัวพันกับคดีฆ่าหลายคดีในพื้นที่จังหวัดลำพูนและจังหวัดลำปาง ด้วย เพราะมีการใช้อาวุธปืนขนาดเดียวกัน โดยจะมีการติดตามขยายผลต่อไป
ส่วนคดีสุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเจ้าหน้าพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ และอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจับกุมแหล่งค้ามนุษย์บังคับเด็กขอทานและละเมิดทางเพศต่อเด็ก ที่บ้านไม่มีเลขที่ ย่านหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ สามารถช่วยเหลือเด็กต่างด้าวอายุระหว่าง 3-14 ปี ได้รวม 8 คน
พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 3 คน เป็นชาวต่างด้าว ได้แก่ นายตินวิน ไม่มีนามสกุล นางดอฉวยจี ไม่มีนามสกุล และ นางมะโฉ่ ไม่มีนามสกุล ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ โดย นายตินวิน ถูกดำเนินคดีเพิ่มในข้อหากระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คน สารภาพว่ามาจากจังหวัดเชียงตุง และจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า หลบหนีเข้าเมืองมาอยู่เมืองไทยได้ประมาณ 3 ปี แล้วนำเด็กต่างด้าวหลบหนีเข้ามาเมืองมาจากชายแดน เพื่อนำมาขอทานทั่วเมืองเชียงใหม่ ใช้แรงงานและล่วงละเมิดทางเพศ