เขมรอีแอบเสริมกำลัง “เขาวิหาร” กลางคืน - นักเที่ยวขึ้นชม “ผามออีแดง” 500 คน

ศรีสะเกษ - นักท่องเที่ยวขึ้นชม “ผามออีแดง” อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร 3 วัน 500 คน ขณะทหารไทย-กัมพูชา ตั้งบังเกอร์เพิ่มที่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ทหารแนวหน้าเผยเขมรอีแอบขนทหารขึ้นมาบนเขาพระวิหารเพิ่มในช่วงเวลากลางคืน

วันนี้ (25 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่บริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า หลังทางจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับกองทัพภาคที่ 2 และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ประกาศอนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุด นั้น ล่าสุด วันนี้ได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ประมาณ 100 คน พากันขึ้นไปชมผามออีแดง, ภาพแกะสลักหินนูนต่ำ อายุกว่า 2,500 ปี, สถูปคู่ รวมทั้งความสวยงามของธรรมชาติและใช้กล้องส่องทางไกลที่ทหารไทยได้ติดตั้งไว้ ส่องดูปราสาทพระวิหาร ซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินเที่ยวชมได้ถึงบริเวณหน้าประตูเหล็กใกล้บริเวณเชิงบันไดทางขึ้นปราสาทพระวิหาร แล้ว

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า หลังจากที่เปิดมาได้ 3 วัน มีนักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ประมาณ 500 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งขณะนี้ได้จัดเตรียมอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ร้านค้าจำหน่ายอาหารและของที่ระลึก ห้องน้ำห้องส้วม รวมทั้งระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยทางกองกำลังสุรนารี ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 และ ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้เฝ้ารักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน บริเวณหน้าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ทางด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา ทหารไทยและทหารกัมพูชาได้ทำการก่อสร้างบังเกอร์และซ่อมแซมหลุมหลบภัยเพิ่มเติม เนื่องจากบริเวณหน้าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระมักเป็นจุดมีการปะทะกันระหว่างทหารกัมพูชาและทหารไทยอยู่บ่อยครั้ง และล่าสุด ทหารทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้มีการถอนกำลังทหารออกจากบริเวณเขาพระวิหารตามมาตรการคุ้มครองชั่วคราวของศาลโลกแต่อย่างใด

แหล่งข่าวทางทหารประจำแนวหน้าชายแดนเขาพระวิหาร เปิดเผยว่า ในช่วงเวลากลางคืนทหารกัมพูชาจะอาศัยความมืดเคลื่อนย้ายกำลังทหารขึ้นมาเสริมที่บริเวณเขาพระวิหารเพิ่มเติม โดยใช้เส้นทางถนนสายใหม่ที่แยกออกไปทางด้านหลังวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระขึ้นไปที่บริเวณปราสาทโคปุระชั้นที่ 2 ซึ่งทหารไทยได้เฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชาอย่างใกล้ชิด และในวันนี้มีชาวกัมพูชาประมาณ 100 คน พากันเดินทางโดยรถยนต์ปิกอัพและรถบรรทุก 6 ล้อ ขึ้นไปเที่ยวชมปราสาทพระวิหาร บรรยากาศไม่ได้ตึงเครียดแต่อย่างใด