ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษไม่หวั่นเขมรยิงถล่ม - ประกาศเปิดอุทยานฯ “เขาวิหาร” เที่ยวได้ทุกวัน

ศรีสะเกษ - ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ประกาศเปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ให้ ปชช.นักท่องเที่ยวขึ้นเที่ยวชม “ผามออีแดง” และจุดท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ ได้ทุกวัน อ้างส่งเสริมการค้าท่องเที่ยวของจังหวัด ยัน “มทภ.2” การันตีความปลอดภัย เชื่อ ทหารเขมรไม่เปิดปะทะอีก หลังศาลโลกคุ้มครองชั่วคราวให้ “เขาวิหาร” เป็นเขตปลอดทหาร ขณะเปิดวันแรกมีนักท่องเที่ยวขึ้นชมราว 100 คน “หนุ่มโอมาน” ตะลึงธรรมชาติผามออีแดงสวยงามกว่าที่คิด

ช่วงบ่ายวันนี้ (23 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ นายอำเภอกันทรลักษ์ และคณะ ได้เดินทางไปตรวจความพร้อมการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ในการที่เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมผามออีแดง บนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ได้ เป็นวันแรกในวันนี้

โดยมีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ร่วมกับพ่อค้า แม่ค้า ชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ช่วยกันปรับปรุงสถานที่ให้สะอาดสวยงาม เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยมี นายธีระยุทธ วงศ์ไพเสริฐ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร พร้อมด้วย นายวีรยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย และประชาชน พ่อค้า แม่ค้าชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ มาให้การต้อนรับคณะของผู้ว่าฯศรีสะเกษ

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ กล่าวว่า การอนุญาตให้ประชาชนนักท่องเที่ยวขึ้นไปชมผามออีแดงได้ในวันแรกนี้ (23 ก.ค.) หลังเกิดเหตุความไม่สงบเรียบร้อยจากการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณชายแดนเขาพระวิหาร ระหว่างวันที่ 4-7 ก.พ.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศพากันขึ้นมาท่องเที่ยวบนผามออีแดงประมาณ 100 คน

ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นการเปิดวันแรกนักท่องเที่ยวอาจยังไม่ทราบข่าว และในวันต่อๆ ไป คงมีนักท่องเที่ยวพากันขึ้นมาท่องเที่ยวบริเวณผามออีแดงกันมากขึ้น ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ รวมทั้งโบราณสถานให้ชมจำนวนมาก และจากจุดนี้สามารถมองเห็นปราสาทพระวิหารด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจน เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการค้า จ.ศรีสะเกษ ภายหลังจากศาลโลกมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวบริเวณเขาพระวิหารให้เป็นเขตปลอดทหารของทั้ง 2 ประเทศ

“จากนี้ไปกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชร่วมกับกองทัพภาคที่ 2 และ จ.ศรีสะเกษ จะเปิดให้ประชาชนนักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร และชมความสวยงามของผามออีแดง ได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 08.00-16.00 น.” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในด้านของความปลอดภัยนั้น ตนได้ประสานงานกับ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) แล้ว แจ้งว่า ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่บริเวณเขาพระวิหารมีการประสานงานกันเป็นอย่างดี ดังนั้น จึงไม่มีความรุนแรง หรือมีการปะทะกันระหว่างทหารทั้งสองฝ่ายขึ้นอีกต่อไป อีกทั้งขณะนี้ศาลโลกได้มีมาตรการคุ้มครองชั่วคราวออกมาแล้วว่าให้ทหารทั้ง 2 ฝ่ายถอยห่างออกจากกัน โอกาสที่จะปะทะกันจึงไม่มีเกิดขึ้นอีก

สำหรับร้านค้าจำหน่ายอาหารและของที่ระลึกนั้น ในวันถัดไปจะเต็มพื้นที่ทุกร้าน เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่

อีกทั้งจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวไปชมจุดตรวจการณ์เสาธง ชมสถูปคู่ ภาพแกะสลักหินนูนต่ำ และมีกล้องส่องทางไกลให้นักท่องเที่ยวสามารถชมความสวยงามของตัวปราสาทพระวิหารได้อย่างชัดเจนอีกด้วย

นอกจากนี้ จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปจนสุดถนนลาดยาง ถึงลานหินเลยหน้าประตูเหล็กทางขึ้นปราสาทพระวิหาร ส่วนทางด้านทิศตะวันตกจะให้นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมที่บริเวณสระตราว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมทัศนียภาพของเขาพระวิหารได้อย่างครบถ้วน ซึ่งเรื่องนี้ได้ประสานกับฝ่ายความมั่นคงเรียบร้อยแล้ว

“จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมความงามและเสน่ห์ของทะเลป่าภูผาหมอก อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารกันได้ทุกวัน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป” นายสมศักดิ์ กล่าว

ด้าน นายธีระยุทธ วงศ์ไพเสริฐ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร กล่าวว่า อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ซึ่งในช่วงนี้ยังไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมในการขึ้นไปเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารทั้งในส่วนของนักท่องเที่ยวและยานพาหนะที่ขึ้นไปตอนนี้ยังเปิดให้บริการฟรีทั้งหมดอยู่ ซึ่งจะมีการดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับการเก็บค่าธรรมเนียมนั้นจะต้องรอหนังสือสั่งการจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเสียก่อน ซึ่งต้องเป็นไปตามระเบียบปฏิบัติที่ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว

นายพิชญาตรี แซ่เอียว อายุ 36 ปี อัยการจังหวัดกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า เพิ่งย้ายมารับราชการที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้ทราบข่าวความสวยงามตามธรรมชาติของผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร มานานแล้ว เมื่อมีการเปิดผามออีแดงให้ขึ้นชมได้ในวันแรกนี้ จึงได้นำคณะ ส่วนมากอยู่ต่างจังหวัดพากันขึ้นมาชมความสวยงามตามธรรมชาติของผามออีแดง ซึ่งประทับใจในความสวยงามของผามออีแดงเป็นอย่างมาก และในโอกาสต่อไปจะชวนญาติพี่น้องที่อยู่กรุงเทพฯ มาเที่ยวชมผามออีแดง รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของ จ.ศรีสะเกษ ด้วย

ส่วน มิสเตอร์อัน ซา อายุ 40 ปี ชาวเมืองมัสกัส ประเทศโอมาน กล่าวว่า ตนทราบข่าวว่า ผามออีแดงอยู่ใกล้กับปราสาทพระวิหาร มีความสวยงามมาก จึงได้มาเที่ยวชม พร้อมทั้งบันทึกภาพความสวยงามของผามออีแดง รวมทั้งบันทึกภาพบริเวณที่เคยเป็นการสู้รบระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ไว้เพื่อเป็นที่ระลึกด้วย ตนเห็นว่า ผามออีแดงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมาก เมื่อกลับไปประเทศโอมานแล้ว จะชวนญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงมาเที่ยวชมผามออีแดงในคราวหน้าอีกด้วย