ฉะเชิงเทรา - นักจิตวิทยาบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา เผย 2 ด.ช.อาศัยนอนที่ป้ายรถเมล์พื้นฐานครอบครัวคนใช้แรงงานและแตกแยกแถมติดเกม และยังไม่ให้ญาตินำตัวกลับเกรงไม่มีคนดูแลเอาใจใส่
จากกรณีชาวบ้านพบสองเด็กชายนอนหลับใหลอย่างไร้สติที่บริเวณป้ายหยุดรถโดยสารประจำทาง ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านสถานีขนส่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเกรงว่าอาจเป็นการถูกมอมยาเสพติด หรือถูกวางยาสลบก่อนนำตัวมาปล่อยทิ้งไว้ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด วันนี้ (25 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดฉะเชิงเทราได้เดินทางไปตรวจสอบข้อมูลกับ น.ส.พรทิวา การเจริญดี นักจิตวิทยาบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา สังกัดสำนักป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้าหญิงและเด็ก กระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งเป็นผู้ดูแลเด็กชายทั้งสองคน
หลังจากได้รับช่วงต่อมาจากสำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จังหวัดฉะเชิงเทรา และได้เข้าดูแลอย่างใกล้ชิดกับเด็กทั้งสองคนตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ปัญหาของเด็กชายทั้งสองคนที่ถูกพบขณะนอนหลับใหลนั้นเป็นสภาพความอ่อนเพลียของร่างกาย จนต้องนอนหลับอยู่ที่ป้ายรถประจำทาง เพราะเด็กทั้งสองเป็นเด็กติดเกมและพื้นฐานครอบครัวแตกร้าว แต่จากการตรวจร่างกายไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด
ในส่วนของเด็กชายเอ (นามสมมติ) วัย 9 ปีนั้น มารดามีอาชีพเป็นหญิงบริการ และได้สามีใหม่จนมีลูกใหม่เพิ่มอีก 3 คน และได้นำมาฝากไว้กับภรรยาของน้องชายสามีใหม่ ทำให้การเลี้ยงดูเอาใจใส่ไม่ทั่วถึง จนเด็กต้องออกจากบ้านมาเดินเรี่ยไรของเศษเงินจากประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยตามห้างต่างๆ เพื่อหาเงินประทังชีวิตและเล่นเกม
จนได้รู้จักกับเด็กชายบี (นามสมมติ) วัย 8 ปี และได้เป็นเพื่อนกันก่อนจะช่วยกันเรี่ยไรหาเงินมาเล่นเกมเป็นประจำทุกวัน ซึ่งก่อนหน้าเด็กชายเอได้ศึกษาอยู่ชั้นประถมปีที่ 1 แต่ต้องออกจากโรงเรียน เพราะต้องหาเงินประทังชีวิตและหาเงินเล่นเกม จนไม่ได้ไปเรียนหนังสือแล้วในปัจจุบัน
สำหรับเด็กชายบี (นามสมมติ) วัย 8 ปีนั้น ทราบว่า ผู้ปกครองทั้งบิดาและมารดาทำงานก่อสร้าง จึงไม่มีเวลาเอาใจใส่เลี้ยงดูลูกนัก เพราะต้องออกไปทำงานต่างพื้นที่อยู่เป็นประจำ โดยแต่ละวันจะเดินของเศษเงินจากผู้คนที่ผ่านไปมาจนมีรายได้ถึงวันละ 500-600 บาท และบางวันก็ยังถูกเด็กที่โตกว่าหรือผู้ใหญ่บางรายข่มขู่รีดไถเงินที่หามาได้อีกด้วย
และที่ผ่านมา เด็กชายบี (นามสมมติ) วัย 8 ปีนั้น มีผู้ปกครองได้เข้ามาติดต่อขอรับตัวกลับเพื่อนำไปให้ญาติผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นปู่และย่าที่ จ.ปราจีนบุรี ดูแลแล้ว แต่ทางบ้านพักเด็กยังไม่ยินยอมปล่อยให้เด็กไป เนื่องจากต้องมีการวางมาตรการ กำหนดเงื่อนไขในการดูแลเด็ก จากการประชุมคณะกรรมการสหวิชาชีพ ซึ่งประกอบด้วย อัยการ ตำรวจ นักสังคมสงเคราะห์ และนักจิตวิทยาก่อนและจะต้องติดตามลงพื้นที่ไปดูยังบ้านพักของปู่-ย่า ด้วยว่ามีความพร้อมหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ปกครองของเด็กไม่ได้สนใจดูแลเอาใจใส่ และปล่อยปละละเลย จนเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น
สำหรับแนวทางการดำเนินการในขั้นต่อไปนั้นยังอยู่ระหว่างรอการประชุมของคณะกรรมการสหวิชาชีพเพื่อลงความเห็นว่าควรส่งเด็กให้ไปอยู่ยังที่ใด ซึ่งหากจะคืนเด็กให้กลับทางบ้านไปก็หวั่นเกรงว่าจะมีพฤติกรรมซ้ำ เป็นเหมือนเดิมอีก โดยอาจต้องส่งไปยังสถานสงเคราะห์ของทางราชการที่มีความพร้อมและมีครูสอนหนังสือ เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสเรียนหนังสือตามที่กฎหมายระบุไว้
โดยเรื่องดังกล่าวถือเป็นภัยคุกคามอันร้ายแรงต่อคุณภาพสังคม โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชนไทยในปัจจุบันที่หลงเดินทางเข้าไปสู่ในวังวนแห่งจินตนาการจากการเล่นเกม จนอาจส่งผลไปถึงความรุนแรงและเป็นปัญหาที่ใหญ่โตขึ้นให้แก่สังคมในอนาคต ทุกฝ่ายจึงควรให้ความสำคัญต่อเร่องดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้น เพราะเยาวชนคืออนาคตของชาติ