พ่อแม่เหยื่อกระสุนเอ็ม 16 ที่ถูกอดีตทหารพรานยิงเสียชีวิตตรงข้ามป้ายรถเมล์ ม.อุบลราชธานี เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมให้ ผบ.ตร.ช่วยเร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว
วันนี้ (6 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายพีรพล เดชบุญ อายุ 49 ปี นางจีราวรรณ เดชบุญ อายุ 49 ปี นายนิ่ม จีปอมจา อายุ 46 ปี นางบังอร จีปอมจา อายุ 43 ปี และนางประพรศรี ศิลาโชค อายุ 54 ปี ทั้งหมดเป็นผู้ปกครองของนายณัฐพล เดชบุญ อายุ 24 ปี นายศักดิ์สาคร จีปอมจา อายุ 20 ปี และนายกิติโรจน์ ศิลาโชค อายุ 24 ปี นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งถูกนายศุภโชค พิมพิลา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 ม.12 ต.ท่าคล้อ อ.เบญจลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ และเป็นอดีตทหารพราน สังกัดกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณป้ายรถประจำทางตรงข้ามมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ผ่าน พ.ต.ต.สุทธิวุฒิ เตียวสนุก สว.ฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อขอความเป็นธรรมและให้เร่งรัดจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี
นางจีราวรรณ มารดานายณัฐพล เดชบุญ กล่าวทั้งน้ำตาว่า คดีนี้ผ่านมา 140 วัน แต่คนร้ายยังคงลอยนวลอยู่ แม้ศาลจะอนุมัติหมายจับคนร้ายไปแล้ว แต่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ซึ่งตนพร้อมด้วยครอบครัวผู้เสียชีวิตอยากขอความเป็นธรรมและให้ตำรวจเร่งรัดการจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินโดยเร็ว เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ ซึ่งคนร้ายใช้อาวุธทางราชการมาก่อเหตุยิงลูกชายและเพื่อนนักศึกษาจนเสียชีวิต ขณะเดียวกัน ผู้ต้องหาเป็นลูกทหาร เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม สำหรับลูกชายและนายกิติโรจน์กำลังจะจบการศึกษาในเดือน มี.ค. 2554 ขณะที่หนึ่งในผู้เสียชีวิตคือ นายศักดิ์สาคร เป็นนักเรียนทุนในพระบรมราชานุเคราะห์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
ด้าน พ.ต.ต.สุทธิวุฒิกล่าวว่า หลังจากรับหนังสือร้องเรียนแล้วจะนำเสนอ พล.ต.อ.วิเชียร เพื่อพิจารณาสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการต่อไป
ต่อมาเวลา 13.30 น. ญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผบก.ป.เพื่อร้องทุกข์ขอให้ตำรวจ บก.ป. ช่วยติดตามจับกุม นายศุภโชค ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี ลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
นายพีระพล กล่าวว่า เหตุที่ต้องเข้าร้องทุกข์ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บุตรชาย กับนายศักดิ์สาคร และนายกิติโรจน์ ได้ไปนั่งดื่มสังสรรค์กันที่ร้านแจ้งสนิท โดยมีนายศุภโชค ผู้ต้องหากับพวก นั่งอยู่ในร้านดังกล่าวด้วย แต่ระหว่างนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบทำให้ทาง รปภ.ของร้านต้องมาขอร้อง เพื่อไม่ให้สูบแต่ก็ไม่เป็นผล ต่อมา รปภ.ได้แจ้งตำรวจให้มาที่ร้าน ทำให้นายศุภโชค ซึ่งเริ่มมีอาการเมาสุราเกิดความไม่พอใจและเข้าใจผิดว่ากลุ่มผู้เสียชีวิตเป็นผู้แจ้งตำรวจ จึงเกิดมีปากเสียงกัน กระทั่งหลังจากปิดร้านไปแล้ว จากนั้นผู้เสียชีวิตกับพวก ได้ไปนั่งเล่นอยู่ที่ศาลาริมทางหน้าโรงเรียนบ้านศรีไค ต.เมืองศรีไค อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ระหว่างนั้น นายศุภโชค ซึ่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของนายปรัชญานันท์ นิยม ก่อนใช้ปืนเอ็ม 16 กราดยิงใส่ผู้เสียชีวิตอย่างเหี้ยมโหดแล้วหลบหนีไป ซึ่งภายหลังเกิดเหตุทางตำรวจ สภ.วารินชำราบ ได้เข้ามาตรวจสอบเหตุพร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ต่อมา นายปรัชญานันท์ ซึ่งเป็นคนขับรถให้นายศุภโชค ได้เข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีนี้ โดยทางพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนฟ้องคดีต่ออัยการไปแล้ว คงเหลือเพียงนายศุภโชค ที่ยังหลบหนีคดีอยู่จนถึงขณะนี้
"รู้สึกทุกข์ใจอย่างมากที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ การกระทำของนายศุภโชค ถือว่าเหี้ยมโหดเกินไปที่ใช้อาวุธสงครามของทางราชการก่อเหตุ ทั้งที่ฝ่ายบุตรชายและผู้เสียชีวิตไม่ได้มีอาวุธอะไร นอกจากนี้ผู้เสียชีวิตทั้งหมดก็ใกล้จะสำเร็จการศึกษาอยู่แล้ว ผมกับญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมดจึงรู้สึกเสียใจกับเหตุการณืที่เกิดขึ้นอย่างมาก และเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และตำรวจท้องที่ก็ยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จึงต้องเข้าร้องทุกข์ที่ บก.ป.เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีอีกทางหนึ่ง" นายพีระพล กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า ได้รับเรื่องไว้โดยจะประสานกับตำรวจ สภ.วารินชำราบ เพื่อเร่งรัดการดำเนินการติดตามผู้ต้องหาในคดี ซึ่งตนเข้าใจและเห็นใจว่าทางญาติผู้เสียหายมีความร้อนใจ แต่คดีนี้ไม่ใช่ว่าตำรวจท้องที่ไม่ได้ดำเนินการอะไร ซึ่งได้ทำคดีไปตามกระบวนการมีการออกหมายจับผู้ต้องหาไว้แล้ว อาจจะอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามตัวอยู่ ซึ่งตนจะส่งชุดสืบสวน บก.ป.ลงพื้นที่ไปดำเนินการต่อไป
วันนี้ (6 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายพีรพล เดชบุญ อายุ 49 ปี นางจีราวรรณ เดชบุญ อายุ 49 ปี นายนิ่ม จีปอมจา อายุ 46 ปี นางบังอร จีปอมจา อายุ 43 ปี และนางประพรศรี ศิลาโชค อายุ 54 ปี ทั้งหมดเป็นผู้ปกครองของนายณัฐพล เดชบุญ อายุ 24 ปี นายศักดิ์สาคร จีปอมจา อายุ 20 ปี และนายกิติโรจน์ ศิลาโชค อายุ 24 ปี นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งถูกนายศุภโชค พิมพิลา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 ม.12 ต.ท่าคล้อ อ.เบญจลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ และเป็นอดีตทหารพราน สังกัดกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณป้ายรถประจำทางตรงข้ามมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ผ่าน พ.ต.ต.สุทธิวุฒิ เตียวสนุก สว.ฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อขอความเป็นธรรมและให้เร่งรัดจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี
นางจีราวรรณ มารดานายณัฐพล เดชบุญ กล่าวทั้งน้ำตาว่า คดีนี้ผ่านมา 140 วัน แต่คนร้ายยังคงลอยนวลอยู่ แม้ศาลจะอนุมัติหมายจับคนร้ายไปแล้ว แต่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ซึ่งตนพร้อมด้วยครอบครัวผู้เสียชีวิตอยากขอความเป็นธรรมและให้ตำรวจเร่งรัดการจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินโดยเร็ว เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ ซึ่งคนร้ายใช้อาวุธทางราชการมาก่อเหตุยิงลูกชายและเพื่อนนักศึกษาจนเสียชีวิต ขณะเดียวกัน ผู้ต้องหาเป็นลูกทหาร เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม สำหรับลูกชายและนายกิติโรจน์กำลังจะจบการศึกษาในเดือน มี.ค. 2554 ขณะที่หนึ่งในผู้เสียชีวิตคือ นายศักดิ์สาคร เป็นนักเรียนทุนในพระบรมราชานุเคราะห์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
ด้าน พ.ต.ต.สุทธิวุฒิกล่าวว่า หลังจากรับหนังสือร้องเรียนแล้วจะนำเสนอ พล.ต.อ.วิเชียร เพื่อพิจารณาสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการต่อไป
ต่อมาเวลา 13.30 น. ญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผบก.ป.เพื่อร้องทุกข์ขอให้ตำรวจ บก.ป. ช่วยติดตามจับกุม นายศุภโชค ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี ลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
นายพีระพล กล่าวว่า เหตุที่ต้องเข้าร้องทุกข์ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บุตรชาย กับนายศักดิ์สาคร และนายกิติโรจน์ ได้ไปนั่งดื่มสังสรรค์กันที่ร้านแจ้งสนิท โดยมีนายศุภโชค ผู้ต้องหากับพวก นั่งอยู่ในร้านดังกล่าวด้วย แต่ระหว่างนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบทำให้ทาง รปภ.ของร้านต้องมาขอร้อง เพื่อไม่ให้สูบแต่ก็ไม่เป็นผล ต่อมา รปภ.ได้แจ้งตำรวจให้มาที่ร้าน ทำให้นายศุภโชค ซึ่งเริ่มมีอาการเมาสุราเกิดความไม่พอใจและเข้าใจผิดว่ากลุ่มผู้เสียชีวิตเป็นผู้แจ้งตำรวจ จึงเกิดมีปากเสียงกัน กระทั่งหลังจากปิดร้านไปแล้ว จากนั้นผู้เสียชีวิตกับพวก ได้ไปนั่งเล่นอยู่ที่ศาลาริมทางหน้าโรงเรียนบ้านศรีไค ต.เมืองศรีไค อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ระหว่างนั้น นายศุภโชค ซึ่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของนายปรัชญานันท์ นิยม ก่อนใช้ปืนเอ็ม 16 กราดยิงใส่ผู้เสียชีวิตอย่างเหี้ยมโหดแล้วหลบหนีไป ซึ่งภายหลังเกิดเหตุทางตำรวจ สภ.วารินชำราบ ได้เข้ามาตรวจสอบเหตุพร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ต่อมา นายปรัชญานันท์ ซึ่งเป็นคนขับรถให้นายศุภโชค ได้เข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีนี้ โดยทางพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนฟ้องคดีต่ออัยการไปแล้ว คงเหลือเพียงนายศุภโชค ที่ยังหลบหนีคดีอยู่จนถึงขณะนี้
"รู้สึกทุกข์ใจอย่างมากที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ การกระทำของนายศุภโชค ถือว่าเหี้ยมโหดเกินไปที่ใช้อาวุธสงครามของทางราชการก่อเหตุ ทั้งที่ฝ่ายบุตรชายและผู้เสียชีวิตไม่ได้มีอาวุธอะไร นอกจากนี้ผู้เสียชีวิตทั้งหมดก็ใกล้จะสำเร็จการศึกษาอยู่แล้ว ผมกับญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมดจึงรู้สึกเสียใจกับเหตุการณืที่เกิดขึ้นอย่างมาก และเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และตำรวจท้องที่ก็ยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จึงต้องเข้าร้องทุกข์ที่ บก.ป.เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีอีกทางหนึ่ง" นายพีระพล กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า ได้รับเรื่องไว้โดยจะประสานกับตำรวจ สภ.วารินชำราบ เพื่อเร่งรัดการดำเนินการติดตามผู้ต้องหาในคดี ซึ่งตนเข้าใจและเห็นใจว่าทางญาติผู้เสียหายมีความร้อนใจ แต่คดีนี้ไม่ใช่ว่าตำรวจท้องที่ไม่ได้ดำเนินการอะไร ซึ่งได้ทำคดีไปตามกระบวนการมีการออกหมายจับผู้ต้องหาไว้แล้ว อาจจะอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามตัวอยู่ ซึ่งตนจะส่งชุดสืบสวน บก.ป.ลงพื้นที่ไปดำเนินการต่อไป
