xs
xsm
sm
md
lg

คุกตลอดชีวิต! หนุ่มขี้เมาฆ่าบีบคอสาวพนักงานโรงแรมริมป้ายรถเมล์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสุวิทย์ บุญไพโรจน์ อายุ 26 ปี ถูกนำตัวมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษา
ศาลอาญาสั่งประหารชีวิตหนุ่มขี้เมา ฆ่าบีบคอชิงเงิน 120 บาท สาวพนักงานโรงแรม ริมป้ายรถประจำทางตรงข้ามวัดศรีบุญเรือง จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงโทษจำคุกตลอดชีวิต ด้านแม่ของผู้เสียชีวิตเผยทุกวันนี้ยังเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บอกลงโทษจำเลยน้อยไป เตรียมปรึกษาทนายยื่นอุทธรณ์


วันนี้ (31 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ห้องพิจารณา 809 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีฆ่าชิงทรัพย์หมายเลขดำที่ อ.4746/2552 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสุวิทย์ บุญไพโรจน์ อายุ 26 ปี อดีตพนักงานทำความสะอาด เป็นจำเลยในความผิดฐานชิงทรัพย์ผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเพื่อประโยชน์ของตัวเองหรือของผู้อื่น, พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ และข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาตน ตามฟ้องโจทก์ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า

เมื่อวันที่ 29 ก.ย.52 จำเลยได้เสพเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า จำนวน 2 เม็ด ต่อมาวันที่ 1 ต.ค.52 ขณะที่ น.ส.ศศิประภา วิงวอน อายุ 29 ปี พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท กำลังนั่งรอรถที่ป้ายรถโดยสารประจำทางตรงข้ามวัดศรีบุญเรือง ระหว่างซอยรามคำแหง 64-66 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จำเลยได้เข้ามาขอเงินผู้ตาย แต่ผู้ตายปฏิเสธจึงใช้กำลังประทุษร้ายลากผู้ตายเข้าไปบริเวณป่าหญ้าด้านหลังป้ายรถประจำทางใช้กำลังชกต่อยที่บริเวณใบหน้า ลำตัว และบีบคอจับศีรษะกดน้ำจนถึงแก่ความตาย และถอดกางเกงผู้ตายเพื่อค้นหาเงิน และเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นความผิดอาญาข้อหาชิงทรัพย์ จำเลยจึงได้อำพรางศพด้วยการ เตรียมจะข่มขืนกระทำชำเราแต่มีผู้พบเห็นเหตุการณ์ก่อนจึงหลบหนีไปและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมากติดตามจับกุมจำเลยได้

จำเลยให้การรับสารภาพโดยตลอด และไม่ติดใจสืบพยาน

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความพยานประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทย์มีคนขายหมูทอดและคนขายน้ำเต้าหู้ ซึ่งเป็นประจักษ์พยานและพยานแวดล้อม เบิกความรับฟังได้ว่า นายสุทัศน์ ฟ้องเสียง แฟนผู้ตาย ได้ขอให้ช่วยติดตามหาแฟนสาว ซึ่งน่าจะถูกคนร้ายลากตัวเข้าไปในพงหญ้า พยานจึงเข้าไปในบริเวณดังกล่าว ลึกประมาณ 10 เมตร พบจำเลยกำลังจะข่มขืนผู้ตายจึงตะโกนเรียก จนจำเลยตกใจและหลบหนีไป พยานจึงช่วยกันอุ้มร่างผู้ตายมาปั๊มหัวใจ แต่พบว่าเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว

พยานทั้งสองล้วนเบิกความสอดคล้องต้องกันมีเหตุผล ไม่มีพิรุธน่าสงสงสัยแต่อย่างใด แม้ขณะเกิดเหตุจะเป็นช่วงเช้า ฝนตำพรำๆ ฟ้าครึ้ม แต่มีแสงสว่างเพียงพอให้เห็นและจดจำใบหน้าจำเลยได้อย่างแม่นยำ ประกอบกับจำเลยให้การรับสารภาพว่าอยู่ในที่เกิดเหตุจริง คำบิกความจึงมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ รวมทั้งคำเบิกความของพนักงานสอบสวนที่จับกุมจำเลยได้ในสภาพร่างกายมีบาดแผล เสื้อผ้าเปียก และพบเงินสด 120 บาทของผู้ตาย การกระทำดังกล่าวจำเลยย่อมเล็งเห็นว่าจะทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตได้ ถือว่ามีเจตนาทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อันเป็นความผิดหลายกรรม ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษทำกรรม

พิพากษาให้ลงโทษประหารชีวิตจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (7) ฐานฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลกระโยชน์อันเกิดจากการกระทำที่ตนได้กระทำความผิด ซึ่งเป็นบทหนักสุด, จำคุก 6 เดือน ฐานเสพยาเสพติด จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต ส่วนข้อหาอื่นให้ยก

ภายหลังมีคำพิพากษา นางแสงดาว วิงวอน มารดาของผู้ตาย มีใบหน้าโศกเศร้า กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ทุกวันนี้ยังรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก เพราะสูญเสียลูกสาวไปทั้งคน ตนเห็นว่าศาลพิพากษาลงโทษจำเลยน้อยไป คิดว่าจะปรึกษาทนายความเพื่อยื่นอุทธรณ์ต่อไป

ภาพในวันก่อเหตุขณะทำการขอขมาผู้ตาย
นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น