ASTVผู้จัดการรายวัน-ตำรวจจับนักเรียนเทคโนพระราม 6 และสารพัดช่างนครหลวง ได้กว่า 50 คน หลังใช้มีดดาบตะลุมบอนไล่ฟันกันที่ป้ายรถเมล์ ยิงเบ้าตาอาจารย์ช่างกล ขส.ทบ.บาดเจ็บ ยึดของกลางมีดดาบ 21 เล่ม ขวาน 1 เล่ม ระเบิดปิงปอง 1 ลูก ผู้การนนทบุรี เตรียมดำเนินการขั้นเด็ดขาดทั้งผู้ปกครองและนักเรียน เพื่อให้เข็ดหลาบ อีกคดีโจ๋ซ้อนท้ายจักรยานยนต์กระหน่ำยิงนักเรียนช่างไฟฟ้าเทคโนพระรามหก เสียชีวิต 1 บาดเจ็บ 4
เวลา 07.30 น.วานนี้ (21 ก.ค.) พ.ต.ท.ณธีพัฒน์ จิรัฐวรโชติ รองผกก.ป.สภ.เมืองนนทบุรี รับแจ้งเหตุมีกลุ่มนักศึกษาช่างกลก่อเหตุตะลุมบอนทะเลาะวิวาทกันบริเวณหน้าป้ายจอดรถประจำทางโรงเรียนการัญศึกษา หมู่ 8 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจจำนวนหนึ่งพร้อมวิทยุสกัดรถเมล์ สาย 203 ซึ่งวิ่งระหว่างท่าอิฐ-สนามหลวง ที่มีนักเรียนช่างกลกว่า 30 คน อยู่บนรถประจำทางกำลังหลบหนีไปทางถนนพิบูลสงคราม มุ่งหน้าสะพานพระราม 7 ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสกัดจับรถเมล์คันดังกล่าวเอาไว้ได้ ขณะเดียวกัน ยังสามารถควบคุมตัวกลุ่มนักเรียนช่างกลคู่อริที่ก่อเหตุที่ป้ายรถประจำทางได้อีกจำนวน 17 คน จึงได้ควบคุมนักเรียนนักเลงทั้งหมดมายัง สภ.เมืองนนทบุรี
จากการสอบสวน นายอนัน สมแวง พนักงานขับรถประจำทางสาย 203 ให้การว่า กลุ่มนักเรียนโรงเรียนเทคโนโลยีพระราม 6 กว่า 30 คน ได้ขึ้นโดยสารรถเมล์ประจำทางสาย 203 มาจากบริเวณท่าน้ำนนท์ เมื่อรถเมล์วิ่งถึงป้ายรถประจำทางหน้าโรงเรียนการัญศึกษา ถนนพิบูลสงคราม ก็มาพบกับกลุ่มนักเรียนสารพัดช่างนครหลวง ประมาณกว่า 20 คน รวมกลุ่มกันอยู่ที่ป้ายรถเมล์อยู่แล้ว ซึ่งเมื่อรถเมล์จอดส่งผู้โดยสารที่ป้ายรถเมล์ดังกล่าว จึงมีการตะโกนท้าทาย ด่าทอกัน ก่อนจะควักอาวุธมีดดาบออกมาไล่ฟันกัน ท่ามกลางกลุ่มผู้โดยสารที่รอรถอยู่ที่ป้ายรถเมล์ดังกล่าว จากนั้นตนจึงขับรถพากลุ่มนักเรียนที่อยู่บนรถออกไปจากป้ายรถเมล์ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำรถสายตรวจมาสกัดให้นำตัวนักเรียนทั้งหมดมาที่โรงพัก
นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย คือ นายวิเชียร ปัจชาเขียว อาจารย์ฝ่ายปกครองของโรงเรียนช่างกล ขส.ทบ.ที่พยายามเข้าระงับเหตุ แต่ถูกนักเรียนดังกล่าวใช้ปืนปากกายิงใส่ ทำให้กระสุนปืนไปถูกใต้เบ้าตาซ้ายของนายวิเชียร ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นกลุ่มนักเรียนทั้งสองโรงเรียนจึงแยกย้ายกันไป ขณะที่เพื่อนอาจารย์ด้วยกันช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามมาสกัดจับกลุ่มนักเรียนทั้งสองโรงเรียนที่ก่อเหตุเอาไว้ได้
อย่างไรก็ตาม จากการควบคุมตัวนักเรียนทั้งหมดพบอาวุธมีดดาบจำนวน 21 เล่ม ขวาน 1 เล่ม และระเบิดปิงปองที่ถูกจุดแล้ว แต่ยังไม่ระเบิด 1 ลูก ส่วนอาวุธปืนที่กลุ่มนักเรียนยิงใส่นายวิเชียร อาจารย์ฝ่ายปกครองของโรงเรียนช่างกล ขส.ทบ.ได้รับบาดเจ็บนั้น ตรวจสอบไม่พบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธปืนปากกา ขนาด .22 ของกลุ่มนักเรียนที่ก่อเหตุอาศัยจังหวะหลบหนีการควบคุมตัวไปได้
พล.ต.ต.สุรชัย สืบสุข ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เดินทางมาสอบสวนกลุ่มนักเรียนดังกล่าวทั้งหมด และสั่งกำชับให้พนักงานสอบสวน คาดโทษกับกลุ่มนักเรียนทั้งหมดที่ก่อเหตุว่า นับจากนี้ไปหากมีการจับกุมกลุ่มนักเรียนอาชีวะที่ก่อเหตุ หรือพกอาวุธได้ จากเดิมการดำเนินคดีจะเรียกเพียงอาจารย์ของโรงเรียนมารับทราบ และปรับฐานพกพาอาวุธมีดเพียงคนละ 100 บาท คงไม่เพียงพอที่จะหยุดพฤติกรรมนักเรียนนักเลงเหล่านี้ได้ ต่อไปจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีเรียกผู้ปกครองมาทำสัญญากับทางโรงพักไว้เลยว่าจะไม่ก่อเรื่องทะเลาะวิวาท หรือพกพาอาวุธอีก หากผิดสัญญาที่ตกลงกันไว้ ก็จะดำเนินการเด็ดขาดทั้งตัวผู้ปกครองและนักเรียนอาวชีวะเพื่อให้เข็ดหลาบ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นเวลา 00.10 น. ของวันที่ 21 ก.ค. พ.ต.ท.วิชัย ประทุมสุวรรณ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ประชาชื่น รับแจ้งเหตุมีนักศึกษาถูกยิงเสียชีวิตที่เพิงขายอาหารตามสั่งริมฟุตปาธใกล้สะพานพระราม 7 ถ.วงศ์สว่าง ซอย 5 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.เชิดชาย สัตตบุศย์ ผกก.สน.ประชาชื่น
ที่เกิดเหตุเป็นเพิงขายอาหารและสุรา มีโต๊ะให้ลูกค้านั่ง พบรอยเลือดและเศษแก้วกระจัดกระจาย ห่างจากริมฟุตปาธประมาณ 3 เมตร เจ้าหน้าที่พบศพนายปฏิพงษ์ บุญทด อายุ 18 ปี นักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1 แผนกช่างไฟฟ้า โรงเรียนเทคโนโลยีพระราม 6 ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กทม. นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นถนน สภาพสวมกางเกงขาสั้นลายพราง เสื้อยืดสีแดงสกรีนสัญลักษณ์ฟันเฟืองสีขาว และรายชื่อรุ่นนักศึกษา
จากนั้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้ตรวจสอบศพผู้ตายพบว่า ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด กระสุนเข้าที่หลังทะลุหน้าอกจำนวน 1 นัด นอกจากนี้ยังพบผู้ตายห้อยพระเครื่อง จำนวน 1 องค์
จากการสอบถามนายประสิทธิ์ มาลัย อายุ 20 ปี เพื่อนผู้ตายเล่าว่า ช่วงค่ำก่อนเกิดเหตุได้มานั่งรับประทานอาหารกับเพื่อนรวม 9 คน โดยเรียนอยู่เทคโนโลยีพระราม 6 จำนวน 2 คน ซึ่งปกติก็จะชวนกันมานั่งเป็นประจำอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นร้านของแม่เพื่อน จึงไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร ระหว่างนั้นเวลาประมาณเที่ยงคืน มีชายวัยรุ่น 2 คนสวมเสื้อแจ็กเกต และหมวกกันน็อกเต็มใบ ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อมายังจุดที่พวกตนนั่งอยู่ พร้อมกับชะลอรถ ก่อนที่คนซ้อนท้ายจะชักปืนออกมายิงใส่พวกตนจำนวน 5 นัด ซึ่งนายปฏิพงษ์ ถูกกระสุนเข้าที่กลางหลัง ตอนแรกยังมีสติอยู่จึงช่วยกันประคองเพื่อจะเรียกรถแท็กซี่พาไปส่งที่โรงพยาบาลยันฮี พร้อมกับเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน แต่ผู้ตายทนไม่ไหวล้มลงและเสียชีวิตที่พื้นถนน จึงพาคนเจ็บที่เหลือส่งโรงพยาบาล ซึ่งเพื่อนที่บาดเจ็บเป็นชาย 3 คน ได้รับบาดเจ็บบริเวณขา ส่วนเพื่อนผู้หญิงอีก 1 คนได้รับบาดเจ็บบริเวณท้อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พ.ต.อ.เชิดชาย สัตตบุศย์ ผกก.สน.ประชาชื่น กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมานักศึกษาโรงเรียนเทคโนฯ พระราม 6 ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน โดยแจ้งความไว้ที่ สน.บางพลัด ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนไปทำการตรวจสอบแล้วว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ส่วนนายปฏิพงษ์ ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตขณะนั่งรับประทานอาหารกับเพื่อนนั้น ทราบว่าสวมเสื้อยืดมีรูปสัญลักษณ์ฟันเฟือง อย่างไรก็ตาม จุดเกิดเหตุที่ผู้ตายถูกยิงอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เบื้องต้นจึงยังไม่แน่ใจว่าสาเหตุมาจากอะไร เป็นการเข้าใจผิดหรือไม่ คงต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนหาข้อมูล และสอบปากคำเพื่อนผู้ตายให้แน่ชัดอีกครั้ง ก่อนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เวลา 07.30 น.วานนี้ (21 ก.ค.) พ.ต.ท.ณธีพัฒน์ จิรัฐวรโชติ รองผกก.ป.สภ.เมืองนนทบุรี รับแจ้งเหตุมีกลุ่มนักศึกษาช่างกลก่อเหตุตะลุมบอนทะเลาะวิวาทกันบริเวณหน้าป้ายจอดรถประจำทางโรงเรียนการัญศึกษา หมู่ 8 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจจำนวนหนึ่งพร้อมวิทยุสกัดรถเมล์ สาย 203 ซึ่งวิ่งระหว่างท่าอิฐ-สนามหลวง ที่มีนักเรียนช่างกลกว่า 30 คน อยู่บนรถประจำทางกำลังหลบหนีไปทางถนนพิบูลสงคราม มุ่งหน้าสะพานพระราม 7 ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสกัดจับรถเมล์คันดังกล่าวเอาไว้ได้ ขณะเดียวกัน ยังสามารถควบคุมตัวกลุ่มนักเรียนช่างกลคู่อริที่ก่อเหตุที่ป้ายรถประจำทางได้อีกจำนวน 17 คน จึงได้ควบคุมนักเรียนนักเลงทั้งหมดมายัง สภ.เมืองนนทบุรี
จากการสอบสวน นายอนัน สมแวง พนักงานขับรถประจำทางสาย 203 ให้การว่า กลุ่มนักเรียนโรงเรียนเทคโนโลยีพระราม 6 กว่า 30 คน ได้ขึ้นโดยสารรถเมล์ประจำทางสาย 203 มาจากบริเวณท่าน้ำนนท์ เมื่อรถเมล์วิ่งถึงป้ายรถประจำทางหน้าโรงเรียนการัญศึกษา ถนนพิบูลสงคราม ก็มาพบกับกลุ่มนักเรียนสารพัดช่างนครหลวง ประมาณกว่า 20 คน รวมกลุ่มกันอยู่ที่ป้ายรถเมล์อยู่แล้ว ซึ่งเมื่อรถเมล์จอดส่งผู้โดยสารที่ป้ายรถเมล์ดังกล่าว จึงมีการตะโกนท้าทาย ด่าทอกัน ก่อนจะควักอาวุธมีดดาบออกมาไล่ฟันกัน ท่ามกลางกลุ่มผู้โดยสารที่รอรถอยู่ที่ป้ายรถเมล์ดังกล่าว จากนั้นตนจึงขับรถพากลุ่มนักเรียนที่อยู่บนรถออกไปจากป้ายรถเมล์ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำรถสายตรวจมาสกัดให้นำตัวนักเรียนทั้งหมดมาที่โรงพัก
นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย คือ นายวิเชียร ปัจชาเขียว อาจารย์ฝ่ายปกครองของโรงเรียนช่างกล ขส.ทบ.ที่พยายามเข้าระงับเหตุ แต่ถูกนักเรียนดังกล่าวใช้ปืนปากกายิงใส่ ทำให้กระสุนปืนไปถูกใต้เบ้าตาซ้ายของนายวิเชียร ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นกลุ่มนักเรียนทั้งสองโรงเรียนจึงแยกย้ายกันไป ขณะที่เพื่อนอาจารย์ด้วยกันช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามมาสกัดจับกลุ่มนักเรียนทั้งสองโรงเรียนที่ก่อเหตุเอาไว้ได้
อย่างไรก็ตาม จากการควบคุมตัวนักเรียนทั้งหมดพบอาวุธมีดดาบจำนวน 21 เล่ม ขวาน 1 เล่ม และระเบิดปิงปองที่ถูกจุดแล้ว แต่ยังไม่ระเบิด 1 ลูก ส่วนอาวุธปืนที่กลุ่มนักเรียนยิงใส่นายวิเชียร อาจารย์ฝ่ายปกครองของโรงเรียนช่างกล ขส.ทบ.ได้รับบาดเจ็บนั้น ตรวจสอบไม่พบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธปืนปากกา ขนาด .22 ของกลุ่มนักเรียนที่ก่อเหตุอาศัยจังหวะหลบหนีการควบคุมตัวไปได้
พล.ต.ต.สุรชัย สืบสุข ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เดินทางมาสอบสวนกลุ่มนักเรียนดังกล่าวทั้งหมด และสั่งกำชับให้พนักงานสอบสวน คาดโทษกับกลุ่มนักเรียนทั้งหมดที่ก่อเหตุว่า นับจากนี้ไปหากมีการจับกุมกลุ่มนักเรียนอาชีวะที่ก่อเหตุ หรือพกอาวุธได้ จากเดิมการดำเนินคดีจะเรียกเพียงอาจารย์ของโรงเรียนมารับทราบ และปรับฐานพกพาอาวุธมีดเพียงคนละ 100 บาท คงไม่เพียงพอที่จะหยุดพฤติกรรมนักเรียนนักเลงเหล่านี้ได้ ต่อไปจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีเรียกผู้ปกครองมาทำสัญญากับทางโรงพักไว้เลยว่าจะไม่ก่อเรื่องทะเลาะวิวาท หรือพกพาอาวุธอีก หากผิดสัญญาที่ตกลงกันไว้ ก็จะดำเนินการเด็ดขาดทั้งตัวผู้ปกครองและนักเรียนอาวชีวะเพื่อให้เข็ดหลาบ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นเวลา 00.10 น. ของวันที่ 21 ก.ค. พ.ต.ท.วิชัย ประทุมสุวรรณ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ประชาชื่น รับแจ้งเหตุมีนักศึกษาถูกยิงเสียชีวิตที่เพิงขายอาหารตามสั่งริมฟุตปาธใกล้สะพานพระราม 7 ถ.วงศ์สว่าง ซอย 5 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.เชิดชาย สัตตบุศย์ ผกก.สน.ประชาชื่น
ที่เกิดเหตุเป็นเพิงขายอาหารและสุรา มีโต๊ะให้ลูกค้านั่ง พบรอยเลือดและเศษแก้วกระจัดกระจาย ห่างจากริมฟุตปาธประมาณ 3 เมตร เจ้าหน้าที่พบศพนายปฏิพงษ์ บุญทด อายุ 18 ปี นักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1 แผนกช่างไฟฟ้า โรงเรียนเทคโนโลยีพระราม 6 ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กทม. นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นถนน สภาพสวมกางเกงขาสั้นลายพราง เสื้อยืดสีแดงสกรีนสัญลักษณ์ฟันเฟืองสีขาว และรายชื่อรุ่นนักศึกษา
จากนั้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้ตรวจสอบศพผู้ตายพบว่า ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด กระสุนเข้าที่หลังทะลุหน้าอกจำนวน 1 นัด นอกจากนี้ยังพบผู้ตายห้อยพระเครื่อง จำนวน 1 องค์
จากการสอบถามนายประสิทธิ์ มาลัย อายุ 20 ปี เพื่อนผู้ตายเล่าว่า ช่วงค่ำก่อนเกิดเหตุได้มานั่งรับประทานอาหารกับเพื่อนรวม 9 คน โดยเรียนอยู่เทคโนโลยีพระราม 6 จำนวน 2 คน ซึ่งปกติก็จะชวนกันมานั่งเป็นประจำอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นร้านของแม่เพื่อน จึงไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร ระหว่างนั้นเวลาประมาณเที่ยงคืน มีชายวัยรุ่น 2 คนสวมเสื้อแจ็กเกต และหมวกกันน็อกเต็มใบ ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อมายังจุดที่พวกตนนั่งอยู่ พร้อมกับชะลอรถ ก่อนที่คนซ้อนท้ายจะชักปืนออกมายิงใส่พวกตนจำนวน 5 นัด ซึ่งนายปฏิพงษ์ ถูกกระสุนเข้าที่กลางหลัง ตอนแรกยังมีสติอยู่จึงช่วยกันประคองเพื่อจะเรียกรถแท็กซี่พาไปส่งที่โรงพยาบาลยันฮี พร้อมกับเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน แต่ผู้ตายทนไม่ไหวล้มลงและเสียชีวิตที่พื้นถนน จึงพาคนเจ็บที่เหลือส่งโรงพยาบาล ซึ่งเพื่อนที่บาดเจ็บเป็นชาย 3 คน ได้รับบาดเจ็บบริเวณขา ส่วนเพื่อนผู้หญิงอีก 1 คนได้รับบาดเจ็บบริเวณท้อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พ.ต.อ.เชิดชาย สัตตบุศย์ ผกก.สน.ประชาชื่น กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมานักศึกษาโรงเรียนเทคโนฯ พระราม 6 ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน โดยแจ้งความไว้ที่ สน.บางพลัด ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนไปทำการตรวจสอบแล้วว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ส่วนนายปฏิพงษ์ ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตขณะนั่งรับประทานอาหารกับเพื่อนนั้น ทราบว่าสวมเสื้อยืดมีรูปสัญลักษณ์ฟันเฟือง อย่างไรก็ตาม จุดเกิดเหตุที่ผู้ตายถูกยิงอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เบื้องต้นจึงยังไม่แน่ใจว่าสาเหตุมาจากอะไร เป็นการเข้าใจผิดหรือไม่ คงต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนหาข้อมูล และสอบปากคำเพื่อนผู้ตายให้แน่ชัดอีกครั้ง ก่อนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
