ศรีสะเกษ - ชาวบ้านโนนสว่างพัฒนา ต.เสาธงชัย กันทรลักษ์ หอบลูกจูงหลานซ้อมอพยพหนีภัยสู้รบไทย-เขมร ชายแดนเขาพระวิหาร ด้านกำนันโวยถนนพัง ทำให้รถยนต์ขนชาวบ้านวิ่งหนีปืนใหญ่เขมรล่าช้า ขณะปลัดอำเภอกันทรลักษ์ เผย เขมรเร่งทำลายลูกระเบิด-กระสุนปืนใหญ่อื้อ 400-500 ลูก บนเขาพระวิหาร
วันนี้ (21 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านโนนสว่างพัฒนา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ และทุกหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องของจังหวัดศรีสะเกษ ได้ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 ทำการซ้อมแผนการอพยพชาวบ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ
ทั้งนี้ ได้จำลองเหตุการณ์ ว่า ได้เกิดเหตุการณ์สู้รบระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ขึ้นตามแนวชายแดนเขาพระวิหาร และมีกระสุนปืนใหญ่ฝ่ายกัมพูชายิงเข้ามาตกในบริเวณหมู่บ้านแนวชายแดน ที่บ้านโนนสว่างพัฒนา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ประชาชนทั้งเด็กผู้ใหญ่ คนชรา ต่างพากันวิ่งเข้าหลุมหลบภัย ภายในหมู่บ้านเพื่อความปลอดภัยในเบื้องต้น
จากนั้นทุกส่วนราชการจึงได้ทำการอพยพชาวบ้านโนนสว่างพัฒนา ที่พากันหอบลูกจูงหลานมาขึ้นรถยนต์ จำนวน 15 คัน เร่งหนีภัยการสู้รบออกจากหมู่บ้านโดยมีเจ้าหน้าที่ทหารพราน, ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) โนนสว่างพัฒนา และ ตำรวจ สภ.บึงมะลู ร่วมกันเคลื่อนย้ายอพยพประชาชนออกจากหมู่บ้านไปยังพื้นที่รองรับการอพยพจุดที่ 1 ณ หอประชุมที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์ ซึ่งเป็นจุดรองรับประชาชนในเขตพื้นที่ ต.เสาธงชัย ประกอบด้วย บ้านโนนสว่างพัฒนา ม.9, บ้านโนนเจริญ ม.10, บ้านหนองเม็กน้อย ม.11, บ้านภูมิซรอลใหม่ ม.12 และ บ้านภูมิซรอล 2 หมู่ 13
จ.อ.สมควร สิงห์คำ ปลัดอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การซ้อมแผนอพยพในครั้งนี้จะทำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ซักซ้อมขั้นตอนในการปฏิบัติอย่างถูกต้องเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง โดยภายในศูนย์อพยพจะมีเจ้าหน้าที่จากทุกส่วนราชการเข้ามาให้การช่วยเหลือประชาชนที่อพยพหนีภัยการสู้รบ ทั้งการลงทะเบียนผู้อพยพ การดูแลด้านการรักษาพยาบาล อาหารและเครื่องอุปโภคบริโภค และการดูแลด้านสาธารณสุข ซึ่งจะทำให้ทุกขั้นตอนมีการปฏิบัติอย่างรวดเร็ว สามารถช่วยเหลือชาวบ้านที่อพยพหนีภัยสงครามได้อย่างปลอดภัย และทันท่วงที
จ.อ.สมควร กล่าวอีกว่า ในวันนี้ (21 ก.ค.) เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป ได้รับแจ้งว่า ทางฝ่ายกัมพูชาจะมีการทำลายลูกระเบิดและกระสุนปืนใหญ่จำนวนมากประมาณ 400-500 ลูก บนบริเวณเขาพระวิหาร ซึ่งตนได้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทุกหมู่บ้านที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาแล้ว เพื่อแจ้งให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับทราบ จะได้ไม่ต้องตื่นตกใจว่าเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ที่บริเวณเขาพระวิหาร
นางยะ สิงห์ทอง อายุ 52 ปี ชาวบ้านโนนสว่างพัฒนา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การซ้อมอพยพหนีภัยการสู้รบครั้งนี้ถือ เป็นการดีมากเพราะทำให้ตนและครอบครัวสามารถนำเอาบุตรหลานวิ่งเข้าหลุมหลบภัยและขึ้นรถยนต์ออกจากหมู่บ้านหนีกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายกัมพูชาได้อย่างถูกต้องตามขั้นตอนที่ทางราชการกำหนดไว้ เมื่อเกิดเหตุการณ์จะได้ไม่เกิดความโกลาหล
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์จริงที่ผ่านมาตนวิ่งหนีลูกปืนใหญ่ของกัมพูชาได้เร็วกว่าการซ้อมวันนี้มากเนื่องจากเกิดความกลัวสุดขีด และไม่เคยเจอกับเหตุการณ์ร้ายแรงแบบนี้มาก่อน
ทางด้าน นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนัน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การซ้อมอพยพหนีภัยการสู้รบชายแดนเขาพระวิหาร ในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นอุปสรรคมาก คือ ถนนที่จะใช้ในการอพยพหนีภัยสงครามชำรุดทรุดโทรมมาก โดยเฉพาะถนนระหว่างหมู่บ้านโนนสว่างพัฒนา ต.เสาธงชัย ไปยังบ้านตาแท่น ต.บึงมะลู ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร (กม.) ชำรุดเป็นหลุมบ่อตลาดเส้นทางมานานหลายสิบปีแล้ว แต่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไม่ได้เข้ามาซ่อมแซมปรับปรุงดูแลแต่อย่างใด
“หากเกิดเหตุการณ์สู้รบกันระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ขึ้นมาอีกซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ก็ไม่ทราบว่าถนนสายนี้จะช่วยให้ชาวบ้านหนีพ้นวิถีกระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชาได้หรือไม่ เพราะรถยนต์วิ่งได้ช้ามาก เนื่องจากถนนพังยับเยินมานานหลายสิบปีแล้ว จึงขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลแก้ไขด่วนด้วย” นายวีระยุทธ กล่าว