ศรีสะเกษ - วันพิพากษาศาลโลกชี้ขาดคุ้มครองชั่วคราว “เขาพระวิหาร” ตามคำร้องฝ่ายเขมร ทำ “ช่องสะงำ” ศรีสะเกษเงียบเหงา ผวาเหตุรุนแรงชาวกัมพูชาไม่ข้ามมาซื้อสินค้าและนักท่องเที่ยวผ่านเข้า-ออกน้อย ขณะที่บริเวณชายแดนเขาพระวิหารตึงเครียด ทหาร 2 ฝ่ายได้รับคำสั่งเตรียมพร้อมเต็มอัตราศึก
วันนี้ (18 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นวันที่ศาลโลกจะอ่านคำวินิจฉัยมาตรการคุ้มครองชั่วคราวกรณีคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2505 ที่ฝ่ายกัมพูชาได้ยื่นฟ้องขอให้ศาลโลกตีความและมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวที่บริเวณเขาพระวิหาร โดยเฉพาะการสั่งให้ไทยถอนกำลังทหารจากพื้นที่และห้ามทำกิจกรรมทางทหารของไทยทั้งหมดในทันทีในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ปรากฏว่า ได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการค้าขายและการท่องเที่ยวที่บริเวณช่องสะงำเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ เนื่องจากชาวกัมพูชาพากันหวั่นเกรงว่าอาจเกิดความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้น ดังนั้นจึงไม่พากันเข้ามาหาซื้อสินค้าในเขตแดนไทย มีเพียงชาวกัมพูชาบางส่วนและนักท่องเที่ยวทั่วไปเดินทางผ่านเข้า-ออกจำนวนน้อยมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูสิงห์ และทหารพรานที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณชายแดนช่องสะงำได้เฝ้ารักษาความสงบเรียบร้อยป้องกันเหตุร้ายอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกันที่บริเวณรอบเขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทหารไทยและทหารกัมพูชายังคงตรึงกำลังเข้มอยู่ในที่มั่นของตัวเองและทหารทั้งสองฝ่ายได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อมอยู่ในที่ตั้งเต็มอัตราศึก เพื่อรองรับสถานการณ์ที่ศาลโลกจะอ่านคำวินิจฉัยคุ้มครองชั่วคราวตามคำร้องของฝ่ายกัมพูชาบริเวณเขาพระวิหาร ในวันนี้ (18 ก.ค.) ทำให้บรรยากาศบริเวณรอบเขาพระวิหารค่อนข้างตึงเครียด
ทางด้านทหารไทยได้มีคำสั่งห้ามไม่ให้ทหารคนใดลงจากฐานปฏิบัติการตามแนวชายแดนเข้าหาซื้อสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวหรือเครื่องอุปโภคบริโภคที่บริเวณตลาดบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาอาจเปิดฉากโจมตีไทยได้ตลอดเวลา ส่งผลให้บริเวณบ้านภูมิซรอลค่อนข้างเงียบเหงาเช่นกันเพราะขาดลูกค้าคือบรรดาทหารไทยมาหาซื้อสินค้าเช่นทุกวันที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ชาวบ้านภูมิซรอลทุกครอบครัวได้เตรียมพร้อมอพยพหนีภัยสงครามที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาเช่นกัน พร้อมทั้งทำความสะอาดหลุมหลบภัย และนำอุปกรณ์สำหรับเตรียมหลบภัยเข้าไปเตรียมไว้ในหลุมหลบภัยด้วย
นายประสิทธิ์ กลิ่นอ้ม อายุ 45 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมันและร้านจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดที่บ้านภูมิซรอล กล่าวว่า วันนี้ไม่มีทหารไทยลงมาหาซื้อสินค้าคึกคักเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา จากการสอบถามนายทหารที่คุ้นเคยกันทราบว่า ทหารไทยได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อมเต็มอัตราศึก เพื่อเตรียมพร้อมรับคำพิพากษาของศาลโลก ซึ่งไม่ทราบว่าศาลโลกจะมีคำพิพากษาออกมาอย่างไร แต่ในวันนี้พวกเราก็ได้เตรียมพร้อมเก็บเสื้อผ้าและของมีค่าไว้เรียบร้อยแล้ว หากมีการสู้รบกันขึ้นมาก็จะปิดบ้านเรือนเอาไว้ และอพยพหนีภัยสงครามทันที
อย่างไรก็ตาม คาดว่าคงจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น เนื่องจากหากทหารกัมพูชาเปิดฉากโจมตีไทยก่อนเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมาก็จะทำให้สังคมโลกมองว่าฝ่ายกัมพูชากระหายสงครามที่บริเวณเขาพระวิหาร