ศรีสะเกษ- เขมรทะลักซื้อสินค้าที่ช่องสะงำคึกคัก ขณะที่มีการเสริมกำลังทหารและรถถังที่เขาพระวิหารจำนวนมากรับวันพิพากษาของศาลโลก 18 ก.ค.54 ชาวบ้านภูมิซรอลหวาดผวาหวั่นเกิดสงครามระลอกใหม่
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (17 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ศรีสะเกษ ว่า แม้ว่าในวันที่ 18 ก.ค.54 จะเป็นวันที่ศาลโลกจะมีการพิพากษาเกี่ยวกับการที่ประเทศกัมพูชาได้ร้องขอต่อศาลโลกให้มีการคุ้มครองชั่วคราวที่บริเวณเขาพระวิหาร แต่ว่ากรณีดังกล่าวก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการค้าและการท่องเที่ยวที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ แต่อย่างใด
ทั้งนี้ เมื่อมีการเปิดด่านตั้งแต่เวลา 07.00 น.ของวันนี้ ปรากฏว่า มีบรรดาประชาชนชาวกัมพูชาพากันแห่ทะลักเข้ามาหาซื้อสินค้าในเขตแดนไทยกันอย่างคึกคัก และชาวกัมพูชาจะพากันนำเอาของป่าและผลิตผลทางการเกษตรเข้ามาขายในเขตแดนไทยจำนวนมาก ส่วนพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาก็จะเข้ามาหาซื้อสินค้าในเขตแดนไทยเข้าไปขายในเขตกัมพูชา ทำให้พ่อค้าแม่ค้าชาวไทยขายสินค้าได้เป็นอย่างดีมากทีเดียว ขณะที่เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ภูสิงห์ และทหารไทย ได้เฝ้าตรวจดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่
ขณะที่บริเวณด่านทหารที่บริเวณด่านเก็บเงินค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทหารไทยก็ยังคงตั้งด่านตรวจเข้มเพื่อป้องกันเหตุร้ายอย่างเต็มที่
ส่วนที่บริเวณเขาพระวิหาร ทหารกัมพูชาได้มีการทยอยเสริมกำลังทหารเข้ามาอย่างต่อเนื่องและนำรถถังจำนวนประมาณ 5 คันขึ้นไปประจำที่บริเวณใกล้ปราสาทโคปุระชั้นที่ 3 และหันปากประบอกปืนรถถังเข้ามาทางเขตแดนไทย ขณะนี้ฝ่ายกัมพูชาได้ทำการก่อสร้างถนนขึ้นอีก 1 สายแยกจากด้านหลังวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ขึ้นไปยังบริเวณเป้ยตาดีของเขาพระวิหารเรียบร้อยแล้ว และสามารถที่จะเคลื่อนย้ายกำลังทหารและรถถังขึ้นไปประจำบนเขาพระวิหารได้อย่างสะดวก ซึ่งทหารไทยได้เฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชาอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
ด้านชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ก็ยังคงทำมาหากินกันตามปกติ และมีการจับกลุ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับการที่จะมีการพิพากษาของศาลโลกกรณีปราสาทพระวิหาร ซึ่งชาวบ้านต่างพากันหวาดกลัวว่า หากคำพิพากษาของศาลโลกออกมาแล้วทำให้ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาไม่พอใจและทำให้ประเทศชาติเสียอธิปไตยก็อาจจะเกิดสงครามขึ้นมาได้ตลอดเวลา
นายประสิทธิ์ กลิ่นอ้ม อายุ 45 ปี ชาวบ้านภูมิซรอลคนหนึ่ง กล่าวว่า พวกตนหวาดกลัวว่า หากคำพิพากษาของศาลโลกออกมาแล้ว ฝ่ายกัมพูชาไม่พอใจก็อาจจะเกิดการสู้รบกันขึ้นมาอีกก็ได้ เพราะว่าทหารกัมพูชาพร้อมที่จะรุกรานไทยตลอดเวลา และจะทำให้ประชาชนชาวไทยและชาวกัมพูชาได้รับผลกระทบจากการสู้รบขึ้นมาอีก หลังจากที่มีการสู้รบกันอย่างรุนแรงเมื่อห้วงระหว่างวันที่ 4-7 ก.พ.54 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้พวกตนได้เตรียมเก็บทรัพย์สินข้าวของมีค่าเสื้อผ้าไว้พร้อมแล้ว และพร้อมที่จะทำการอพยพหนีภัยสงคราม หากมีการสู้รบกันขึ้นมาอีกที่บริเวณเขาพระวิหาร
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (17 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ศรีสะเกษ ว่า แม้ว่าในวันที่ 18 ก.ค.54 จะเป็นวันที่ศาลโลกจะมีการพิพากษาเกี่ยวกับการที่ประเทศกัมพูชาได้ร้องขอต่อศาลโลกให้มีการคุ้มครองชั่วคราวที่บริเวณเขาพระวิหาร แต่ว่ากรณีดังกล่าวก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการค้าและการท่องเที่ยวที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ แต่อย่างใด
ทั้งนี้ เมื่อมีการเปิดด่านตั้งแต่เวลา 07.00 น.ของวันนี้ ปรากฏว่า มีบรรดาประชาชนชาวกัมพูชาพากันแห่ทะลักเข้ามาหาซื้อสินค้าในเขตแดนไทยกันอย่างคึกคัก และชาวกัมพูชาจะพากันนำเอาของป่าและผลิตผลทางการเกษตรเข้ามาขายในเขตแดนไทยจำนวนมาก ส่วนพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาก็จะเข้ามาหาซื้อสินค้าในเขตแดนไทยเข้าไปขายในเขตกัมพูชา ทำให้พ่อค้าแม่ค้าชาวไทยขายสินค้าได้เป็นอย่างดีมากทีเดียว ขณะที่เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ภูสิงห์ และทหารไทย ได้เฝ้าตรวจดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่
ขณะที่บริเวณด่านทหารที่บริเวณด่านเก็บเงินค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทหารไทยก็ยังคงตั้งด่านตรวจเข้มเพื่อป้องกันเหตุร้ายอย่างเต็มที่
ส่วนที่บริเวณเขาพระวิหาร ทหารกัมพูชาได้มีการทยอยเสริมกำลังทหารเข้ามาอย่างต่อเนื่องและนำรถถังจำนวนประมาณ 5 คันขึ้นไปประจำที่บริเวณใกล้ปราสาทโคปุระชั้นที่ 3 และหันปากประบอกปืนรถถังเข้ามาทางเขตแดนไทย ขณะนี้ฝ่ายกัมพูชาได้ทำการก่อสร้างถนนขึ้นอีก 1 สายแยกจากด้านหลังวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ขึ้นไปยังบริเวณเป้ยตาดีของเขาพระวิหารเรียบร้อยแล้ว และสามารถที่จะเคลื่อนย้ายกำลังทหารและรถถังขึ้นไปประจำบนเขาพระวิหารได้อย่างสะดวก ซึ่งทหารไทยได้เฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชาอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
ด้านชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ก็ยังคงทำมาหากินกันตามปกติ และมีการจับกลุ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับการที่จะมีการพิพากษาของศาลโลกกรณีปราสาทพระวิหาร ซึ่งชาวบ้านต่างพากันหวาดกลัวว่า หากคำพิพากษาของศาลโลกออกมาแล้วทำให้ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาไม่พอใจและทำให้ประเทศชาติเสียอธิปไตยก็อาจจะเกิดสงครามขึ้นมาได้ตลอดเวลา
นายประสิทธิ์ กลิ่นอ้ม อายุ 45 ปี ชาวบ้านภูมิซรอลคนหนึ่ง กล่าวว่า พวกตนหวาดกลัวว่า หากคำพิพากษาของศาลโลกออกมาแล้ว ฝ่ายกัมพูชาไม่พอใจก็อาจจะเกิดการสู้รบกันขึ้นมาอีกก็ได้ เพราะว่าทหารกัมพูชาพร้อมที่จะรุกรานไทยตลอดเวลา และจะทำให้ประชาชนชาวไทยและชาวกัมพูชาได้รับผลกระทบจากการสู้รบขึ้นมาอีก หลังจากที่มีการสู้รบกันอย่างรุนแรงเมื่อห้วงระหว่างวันที่ 4-7 ก.พ.54 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้พวกตนได้เตรียมเก็บทรัพย์สินข้าวของมีค่าเสื้อผ้าไว้พร้อมแล้ว และพร้อมที่จะทำการอพยพหนีภัยสงคราม หากมีการสู้รบกันขึ้นมาอีกที่บริเวณเขาพระวิหาร