ศรีสะเกษ - แฉเขมรนำเด็ก-สตรีขึ้นมาเสริมเป็นโล่มนุษย์บนเขาพระวิหารมากขึ้น ขณะทหารไทยตั้งกล้องวิดีโอ “ผามออีแดง” จับภาพความเคลื่อนไหวทหารเขมรขนกำลัง-อาวุธหนักเข้าตรึงบริเวณปราสาทพระวิหารต่อเนื่องพร้อมรบทหารไทย ด้าน ผบ.ทหารพรานลั่นตอบโต้รุนแรงหากรุกล้ำอธิปไตยไทย ขณะชาวบ้าน “ภูมิซรอล” หนุนเผด็จศึกไล่ยิงถล่มทหารเขมรตกเขาพระวิหารโดยเร็ว ไม่ต้องมีสู้รบยืดเยื้ออีก
วันนี้ (1 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดเฝ้าตรวจการณ์บริเวณผามออีแดง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งสามารถมองเห็นปราสาทพระวิหารได้อย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่ทหารพรานหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้นำกล้องวิดีโอคุณภาพสูงมาตั้งไว้ที่บริเวณผามออีแดงเพื่อจับภาพความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชาที่อยู่รอบบริเวณเขาพระวิหารอย่างใกล้ชิด เนื่องจากทหารกัมพูชามีการเสริมกำลังทหารขึ้นมาบริเวณปราสาทพระวิหารอย่างต่อเนื่อง พร้อมนำอาวุธหนัก ทั้ง ปืนใหญ่ รถถัง ปืนค. มาติดตั้งพร้อมรบกับทหารไทยอย่างเต็มที่ ขณะที่ทหารไทยได้ตรึงกำลังพร้อมอาวุธหนักรอบเขาพระวิหารเพื่อเตรียมพร้อมตอบโต้เช่นกัน
พ.อ.ธนศักดิ์ มิตรภานนท์ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 กล่าวว่า ขณะนี้ทหารกัมพูชาได้นำเด็กและผู้หญิงเข้ามาอยู่ที่บริเวณทางขึ้นปราสาทพระวิหารมากขึ้นกว่าเดิม มีลักษณะนำมากับเป็นโล่มนุษย์ป้องกันทหารกัมพูชาที่หลบอยู่ด้านหลังโล่มนุษย์เหล่านี้ ซึ่งทหารไทยทุกนายจะไม่ทำการสู้รบหรือทำอันตรายต่อเด็กสตรีเหล่านี้แน่นอน แต่ทหารกัมพูชาไม่ควรใช้โล่มนุษย์มาเป็นเกาะกำบัง หากมีการปะทะกันขึ้นควรสู้รบกันแบบชายชาติทหารถึงจะถูกต้อง
“ทหารพรานเราได้เฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชาอย่างใกล้ชิด หากรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย ทหารไทยทุกนายจะทำการตอบโต้อย่างรุนแรงทันทีเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ทหารไทยทุกนายมีขวัญกำลังใจที่ดีเยี่ยม” พ.อ.ธนศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน ที่บริเวณบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหมู่บ้านตั้งอยู่ใกล้ชายแดนเขาพระวิหารมากที่สุด ชาวบ้านยังคงทำมาหากินกันตามปกติ แต่ทุกคนยังคงหวาดกลัวว่าจะมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเกิดขึ้น ซึ่งชาวบ้านมักรวมกลุ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับสถานการณ์ความเคลื่อนไหวบริเวณชายแดนเขาพระวิหาร และเฝ้าติดตามข่าวสารจากสื่อสารมวลชนทุกแขนงที่เสนอข่าวเกี่ยวกับเขาพระวิหารอย่างใกล้ชิด
นางแตง พานพบ อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่ 382 บ.ภูมิซรอล ม.13 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พิการขาข้างซ้ายขาด จากเหตุเหยียบกับระเบิดขณะเข้าไปหาของป่าที่บริเวณภูมะเขือใกล้กับเขาพระวิหาร กล่าวว่า รู้พิษสงของสงครามดีว่ามีความน่ากลัวมากเพียงใด เนื่องจาก ตนอายุ 80 ปีแล้ว และเมื่อวันที่ 4-7 ก.พ.ซึ่งมีการสู้รบกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาตนและครอบครัวต้องอพยพหนีตายอย่างโกลาหลและไม่อยากให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นมาอีก ขณะนี้พวกเรามีความหวาดกลัวว่าจะมีการปะทะกันระหว่างทหารทั้ง 2 ฝ่ายขึ้นอีก จึงได้เตรียมพร้อมในการอพยพไว้ตลอดเวลา เสื้อผ้าของใช้จำเป็นต่างๆ ไม่ได้เอาออกจากกระเป๋าเลย
นางกนกวรรณ ตั้งมั่น อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 บ.ภูมิซรอล ม.13 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า กล่าวว่า ตยมีความรู้สึกไม่ดีกับทหารกัมพูชาเป็นอย่างมากเพราะก่อนหน้านี้ หมู่บ้านของตนจะมีทหารกัมพูชาหิโซขึ้นมาหาขอข้าวและอาหาร จากชาวบ้านบริเวณนี้กินเพื่อประทังชีวิตอยู่เป็นประจำ แต่มาถึงเวลานี้ทหารกัมพูชาที่อยู่บริเวณเขาพระวิหารกลับใช้ปืนใหญ่ยิงใส่บ้านเรือนของพวกเรา ทำให้บ้านเรือนเสียหาย และญาติพี่น้องเสียชีวิต จึงอยากให้ทหารไทยไล่ยิงถล่มทหารกัมพูชาให้ตกไปจากเขาพระวิหารทั้งหมดโดยเร็ว จะได้ไม่ต้องมีการสู้รบยืดเยื้ออีกต่อไป