ศรีสะเกษ - ชาวบ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ อพยพหนีภัยสงครามได้พากันกลับบ้านหมดแล้ว หลังจากเสียงปืนที่ชายแดน “เขาพระวิหาร” เงียบสงบ แต่ยังหวาดผวาเหตุการณ์สู้รบ ขณะเมียทหารพราน ชาวบ้านภูมิซรอล จี้รัฐบาลใช้ความเด็ดขาดแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา
วันนี้ (27 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ บรรดาชาวบ้านภูมิซรอล บ้านเสาธงชัย บ้านโดนอาว และบ้านหนองเม็ก ที่พากันอพยพหนีภัยการสู้รบเข้าไปอยู่ที่หอประชุมที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์ ตั้งแต่ช่วงบ้านเมื่อวาน (26 เม.ย.) นี้ ได้พากันกลับมาอยู่บ้านเรือนของตนเองหมดแล้ว หลังจากที่เสียงปืนการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ที่บริเวณภูมะเขือ ด้านทิศตะวันตกเขาพระวิหาร ได้เงียบสงบลงมาแต่เมื่อวานนี้
อีกทั้งได้รับการยืนยันจากทางฝ่ายทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.กันทรลักษ์ ว่า สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ชาวบ้านจึงได้พากันกลับบ้านทั้งหมด
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้มอบหมายให้ นายนคร ศิริปริญญานันท์ ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทน นายอำเภอกันทรลักษ์ คอยดูแลอำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านที่พากันเดินทางกลับบ้านเรือนของตัวเอง โดยมีรถบรรทุก 6 ล้อ ของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 และ กันทรลักษ์ ได้จัดรถตำรวจมาช่วยนำชาวบ้านไปส่งที่บ้านภูมิซรอล และหลายหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
นายนคร ศิริปริญญานันท์ ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทนนายอำเภอกันทรลักษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านส่วนมากที่อพยพหนีภัยการสู้รบตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 26 เม.ย.ได้เดินทางกลับไปที่บ้านเรือนของตนเองแล้ว ซึ่งชาวบ้านที่เดินทางกลับบ้านหลายคนมีอาการปวดขาและอาการเครียดเป็นจำนวนมาก และขณะนี้สถานการณ์ที่บริเวณเขาพระวิหารยังอยู่ในภาวะปกติ
ด้าน นางประภาพร สมบูรณ์ชัย อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 / 2 หมู่ 13 บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า อยากฝากไปถึงรัฐบาลให้ใช้ความเด็ดขาดในการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ทหารกัมพูชามักใช้กำลังทหารโจมตีฝ่ายไทยอยู่เสมอ ทำให้ประชาชนชาวไทยและทหารไทยได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่เป็นประจำ ซึ่งเมื่อมีการเสียชีวิตหรือพิการ ครอบครัวลูกเมีย ญาติพี่น้อง ก็จะต้องลำบากในการทำมาหาเลี้ยงชีพ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แม้ชาวบ้านภูมิซรอลและหมู่บ้านตามแนวชายแดน ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จะพากันกลับบ้านเรือนของตนเองหมดแล้ว แต่ยังหวาดผวากับเหตุการณ์สู้รบ เนื่องจากไม่ทราบว่าจะมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเกิดขึ้นอีกเมื่อใด ชาวบ้านทุกคนจึงได้พากันเก็บข้าวของทรัพย์สินของมีค่าเอาไว้เตรียมอพยพหนีภัยสงครามได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (27 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ บรรดาชาวบ้านภูมิซรอล บ้านเสาธงชัย บ้านโดนอาว และบ้านหนองเม็ก ที่พากันอพยพหนีภัยการสู้รบเข้าไปอยู่ที่หอประชุมที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์ ตั้งแต่ช่วงบ้านเมื่อวาน (26 เม.ย.) นี้ ได้พากันกลับมาอยู่บ้านเรือนของตนเองหมดแล้ว หลังจากที่เสียงปืนการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ที่บริเวณภูมะเขือ ด้านทิศตะวันตกเขาพระวิหาร ได้เงียบสงบลงมาแต่เมื่อวานนี้
อีกทั้งได้รับการยืนยันจากทางฝ่ายทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.กันทรลักษ์ ว่า สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ชาวบ้านจึงได้พากันกลับบ้านทั้งหมด
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้มอบหมายให้ นายนคร ศิริปริญญานันท์ ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทน นายอำเภอกันทรลักษ์ คอยดูแลอำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านที่พากันเดินทางกลับบ้านเรือนของตัวเอง โดยมีรถบรรทุก 6 ล้อ ของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 และ กันทรลักษ์ ได้จัดรถตำรวจมาช่วยนำชาวบ้านไปส่งที่บ้านภูมิซรอล และหลายหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
นายนคร ศิริปริญญานันท์ ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทนนายอำเภอกันทรลักษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านส่วนมากที่อพยพหนีภัยการสู้รบตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 26 เม.ย.ได้เดินทางกลับไปที่บ้านเรือนของตนเองแล้ว ซึ่งชาวบ้านที่เดินทางกลับบ้านหลายคนมีอาการปวดขาและอาการเครียดเป็นจำนวนมาก และขณะนี้สถานการณ์ที่บริเวณเขาพระวิหารยังอยู่ในภาวะปกติ
ด้าน นางประภาพร สมบูรณ์ชัย อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 / 2 หมู่ 13 บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า อยากฝากไปถึงรัฐบาลให้ใช้ความเด็ดขาดในการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ทหารกัมพูชามักใช้กำลังทหารโจมตีฝ่ายไทยอยู่เสมอ ทำให้ประชาชนชาวไทยและทหารไทยได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่เป็นประจำ ซึ่งเมื่อมีการเสียชีวิตหรือพิการ ครอบครัวลูกเมีย ญาติพี่น้อง ก็จะต้องลำบากในการทำมาหาเลี้ยงชีพ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แม้ชาวบ้านภูมิซรอลและหมู่บ้านตามแนวชายแดน ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จะพากันกลับบ้านเรือนของตนเองหมดแล้ว แต่ยังหวาดผวากับเหตุการณ์สู้รบ เนื่องจากไม่ทราบว่าจะมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเกิดขึ้นอีกเมื่อใด ชาวบ้านทุกคนจึงได้พากันเก็บข้าวของทรัพย์สินของมีค่าเอาไว้เตรียมอพยพหนีภัยสงครามได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง