ศรีสะเกษ - โรงเรียนชายแดน “เขาพระวิหาร” อ.กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ 60 แห่ง เปิดเรียนวันแรก หลังปิดหนีกระสุนปืนใหญ่เขมรนาน 5 วัน เผย นร.ยังมาเรียนน้อย 30-50% เหตุผู้ปกครองยังผวาภัยสู้รบ ขณะ ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 4 ระบุ นักเรียนขาดแคลนเครื่องแบบ และสื่อการเรียนการสอนอื้อ ส่วนชาวบ้าน เผย เสียงปืนใหญ่ดังขึ้นอีก 4 นัด กลางดึกที่ “ภูมะเขือ”
วันนี้ (14 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.30 น.ที่โรงเรียนบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายวรรณะ บุญสุข ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 (ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 4) และคณะ ได้มาตรวจเยี่ยมการเปิดทำการเรียนการสอนเป็นวันแรก หลังโรงเรียนแห่งนี้ได้ปิดเรียนมาเป็นเวลา 5 วัน นับตั้งแต่เกิดการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่บริเวณรอบเขาพระวิหารเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา
โดยวันนี้ นายบุญรวม พงษาปาน ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านภูมิซรอล ได้นำคณะครู นักเรียน ทำการเก็บกวาดทำความสะอาดบริเวณอาคารสถานที่ของโรงเรียน เนื่องจากมีเศษใบไม้ และขยะมูลฝอยกระจายเกลื่อนไปทั่วบริเวณจากการไม่ได้ทำความสะอาดมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว เพราะทั้งครูและนักเรียนพากันอพยพหนีภัยการสู้รบไปอยู่ที่อื่นเพื่อความปลอดภัย
ขณะเดียวกัน นายวรรณะ บุญสุข ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 4 ได้ประกาศทางหอกระจายข่าวของโรงเรียนแจ้งให้ผู้ปกครองนักเรียน ได้ทราบว่า ขณะนี้โรงเรียนประถม ศึกษาทุกแห่งในสังกัด ได้เปิดทำการเรียนการสอนตามปกติแล้ว ซึ่งได้มีบรรดาผู้ปกครองนักเรียนทยอยพากันนำเด็กนักเรียนมาเรียนหนังสือกันอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาเวลา 08.30 น.คณะครูได้นำเด็กนักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติและสวดมนต์ไหว้พระ ซึ่งพบว่า มีเด็กนักเรียนมาเข้าแถวเคารพธงชาติ ประมาณ 70 คน จากจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 384 คน และนักเรียนที่มาเรียนหนังสือส่วนใหญ่ขาดแคลนเครื่องแบบนักเรียน สื่อการเรียนการสอน เพราะจากการอพยพหนีภัยสงคราม ทำให้เครื่องแบบนักเรียนและสื่อการเรียนการสอนของนักเรียนสูญหาย ซึ่งคณะครูโรงเรียนบ้านภูมิซรอล ได้พยายามจัดหาสื่อการเรียนการสอนให้นักเรียนแต่ยังไม่เพียงพอ
นายวรรณะ บุญสุข ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 4 กล่าวว่า ได้ตระเวนไปเยี่ยมโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 ที่จำเป็นต้องปิดเรียนเพราะได้รับผลกระทบจากการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา จำนวนทั้งสิ้น 60 แห่ง พบว่า ในวันนี้นักเรียนยังมาเรียนหนังสือจำนวนไม่มากนัก ประมาณ 30-50 % ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด เนื่องจากผู้ปกครองนักเรียนยังหวาดผวากับเหตุการณ์สู้รบที่เกิดขึ้น แต่คาดว่าในวันพรุ่งนี้ (15 ก.พ.) จะมีนักเรียนมาเรียนเต็ม 100%
นอกจากนี้ จากการที่ได้ไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนแต่ละแห่งพบว่า เด็กนักเรียนขาดแคลนเสื้อผ้าเครื่องแบบนักเรียน รวมทั้งสื่อการเรียนการสอนจำนวนมาก ซึ่งจากการที่ได้สอบถามเด็กนักเรียนทราบว่า เครื่องแบบนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนได้สูญหายไปในช่วงที่อพยพหนีภัยสงคราม
ดังนั้น จึงขอฝากเชิญชวนไปยังผู้มีจิตศรัทธาทั่วประเทศร่วมบริจาคเครื่องแบบนักเรียน หรืออุปกรณ์การเรียนการสอน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเด็กนักเรียน และโรงเรียนประถมศึกษาที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยติดต่อบริจาคได้ที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 ต.น้ำอ้อม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หรือติดต่อบริจาคโดยตรงได้ที่โรงเรียนประถมศึกษาตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทุกแห่ง
ทางด้าน นางหนูยิ้ม ซื่อสัตย์ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 หมู่ 4 บ้านหนองเม็ก ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมาส่งหลานเรียนหนังสือที่โรงเรียนบ้านภูมิซรอล กล่าวว่า เมื่อช่วงประมาณ 03.00 น.วันนี้ (14 ก.พ.) ขณะกำลังเก็บเห็ด ซึ่งเพาะไว้ขาย ปรากฏว่า ได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น 3 นัด ช่วงระยะเวลา 03.00-04.30 น.และต่อมาเวลา 05.00 น.เสียงปืนใหญ่ได้ดังขึ้นอีกครั้งที่บริเวณภูมะเขือ ด้านทิศตะวันตกเขาพระวิหาร ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นเสียงปืนจากฝ่ายใด แต่ไม่มีกระสุนปืนใหญ่ตกเข้ามาในเขตแดนไทยด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แต่อย่างใด
