สพฐ.เปิดศูนย์จัดการเรียนแก่นักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา 9 ศูนย์ที่ศรีษะเกษ เตรียมพร้อมสอบประเมินคุณภาพผู้เรียนระดับชาติปลายเดือนนี้ ด้านผู้ว่าศรีสะเกษเตรียมหารือแม่ทัพภาค 2 ส่งชาวบ้านกลับใน 2 วันนี้ ขณะที่ชาวบ้านอยากให้เหตุการณ์ยุติโดยเร็ว ห่วงบ้าน อยากใช้ชีวิตปกติ
วันนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.30 น. นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานกล่าวเปิดศูนย์จัดการเรียนแก่นักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ที่โรงเรียนอนุบาลดำรงราชานุสรณ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ว่าจากการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.เป็นต้นมา ส่งผลให้นักเรียน ครู ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพออกนอกพื้นที่ไปอยู่ตามศูนย์พักพิงที่ทางจังหวัดจัดไว้ให้ บางส่วนได้ไปอยู่ตามบ้านญาติ ขณะเดียวกันทำให้โรงเรียนที่อยู่ตามแนวชายแดน ต้องหยุดเรียนถึง 60 แห่ง จำนวนนักเรียน 25,928 คน ต้องหยุดเรียนหลายวัน แต่เพื่อเป็นการช่วยเหลือนักเรียนเหล่านี้ไม่ให้กระทบ กับผลการเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จึงได้จัดตั้งศูนย์จัดการเรียนแก่นักเรียนขึ้น เพื่อให้ได้รับการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง สร้างขวัญกำลังใจให้แก่ครู และนักเรียน อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมรับการประเมินคุณภาพผู้เรียนระดับชาติ(NT) ที่จะสอบระหว่างสันที่ 23-24 ก.พ.นี้ อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ในช่วง 1-2 วันนี้ ไม่เกิดเหตุการประทะกันขึ้นมาอีก ตนจะได้หารือกับทางแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อพิจารณาการส่งกลับชาวบ้าน และให้โรงเรียนสามารถเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติ
ด้าน นายปัญญา แก้วกรียูร ที่ปรึกษาด้านพัฒนากระบวนการเรียนการสอน สพฐ. กล่าวว่า นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความห่วงใยในเรื่องการเรียนการสอนของนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบในครั้งนี้ดังนั้นจึงให้มีการจัดศูนย์การเรียนแก่นักเรียนขึ้นจำนวน 9 ศูนย์ โดยเน้นจัดการเรียนการสอนใน 5 กลุ่มสาระหลัก ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสังคมศึกษา รวมทั้งทักษะชีวิตและการสร้างขวัญกำลังใจ ส่วนที่หลายคนเป็นห่วงว่าหากสถานการณ์ยังไม่กลับเข้าสู่สภาวะปกติอาจจะส่งผลให้นักเรียนได้รับผลกระทบในการสอบ NT นั้น เรื่องนี้ตนคิดว่าหากมีเหตุผลและความจำเป็นก็น่าจะสามารถเลื่อนการสอบออกไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยายกาศการเปิดศูนย์การเรียนฯ แม้ว่าจะมีเด็กนักเรียนเข้ามาเรียนภายในศูนย์นับร้อยคน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ามีผู้ปกครองมาเฝ้าบุตรหลานของตัวเองด้วยความเป็นห่วง โดยนางชู เชื้อหอม อายุ 48 ปี ชาวบ้านลุง ต.ลุง อ.กันทรลักษ์ ซึ่งพาหลานชายมาเรียนภายในศูนย์ กล่าวว่า อยากให้เหตุการณ์การสู้รบยุติโดยเร็ว เพราะรู้สึกเป็นห่วงบ้านมาก อยากกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ อย่างไรก็ตาม รู้สึกดีใจที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เปิดศูนย์การเรียน อย่างน้อยจะทำให้เด็กได้เรียนอย่างต่อเนื่อง ไปพร้อมๆ กับการทำกิจกรรม ซึ่งจะช่วยลดความเครียดได้
จากนั้นเวลาประมาณ 11.30 น. คณะผู้บริหารและสื่อมวลชนได้เดินทางไปยังร.ร.ภูมิซรอลวิทยา ซึ่งอาคารเรียน 2 หลังได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดของกระสุนปืนใหญ่ จนหลังคาเปิด ห้องเรียนอเนกประสงค์ อาคารห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ พังเสียหายทั้งหลัง ทั้งนี้ นายวิทย์ ภูมาพันธ์ อาจารย์สอนวิชาช่าง ร.ร.ภูมิซรอลวิทยา กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลเสียต่อการจัดการเรียนการสอนให้กับเด็กนักเรียนเป็นอย่างมาก ทั้งนักเรียนและครู ต่างขวัญหนีดีฝ่อ จึงอยากเรียกร้องให้ทางรัฐบาล เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ยุติโดยเร็ว รวมทั้งขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อช่วยเหลือซ่อมแซม อาคาร อุปกรณ์การเรียนที่เสียหายเพื่อให้นักเรียนได้กลับมาเรียนตามปกติโดยเร็ว
นายประมูล แสวงผล ผอ.ร.ร.ภูมิซรอลวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะสามารถเปิดเรียนได้เมื่อไร คงต้องรอให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติเสียก่อน รวมไปถึงการซ่อมแซมอาคารเรียน และอุปกรณ์การเรียนการสอนต่างๆ อย่างไรก็ตามสิ่งที่อยากเรียกร้องมากที่สุดขณะนี้คืออยากให้ ศธ. ช่วยพิจารณาในเรื่องค่าเสี่ยงภัยให้แก่ครู และบุคลากรทางการศึกษาของร.ร.ภูมิซรอลวิทยาด้วย เพราะที่ผ่านมาก็ไม่ได้รับการพิจารณา แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากพิจารณากันตามความเป็นจริงแล้วทางโรงเรียนก็ควรได้รับการสนับสนุน
วันนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.30 น. นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานกล่าวเปิดศูนย์จัดการเรียนแก่นักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ที่โรงเรียนอนุบาลดำรงราชานุสรณ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ว่าจากการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.เป็นต้นมา ส่งผลให้นักเรียน ครู ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพออกนอกพื้นที่ไปอยู่ตามศูนย์พักพิงที่ทางจังหวัดจัดไว้ให้ บางส่วนได้ไปอยู่ตามบ้านญาติ ขณะเดียวกันทำให้โรงเรียนที่อยู่ตามแนวชายแดน ต้องหยุดเรียนถึง 60 แห่ง จำนวนนักเรียน 25,928 คน ต้องหยุดเรียนหลายวัน แต่เพื่อเป็นการช่วยเหลือนักเรียนเหล่านี้ไม่ให้กระทบ กับผลการเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จึงได้จัดตั้งศูนย์จัดการเรียนแก่นักเรียนขึ้น เพื่อให้ได้รับการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง สร้างขวัญกำลังใจให้แก่ครู และนักเรียน อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมรับการประเมินคุณภาพผู้เรียนระดับชาติ(NT) ที่จะสอบระหว่างสันที่ 23-24 ก.พ.นี้ อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ในช่วง 1-2 วันนี้ ไม่เกิดเหตุการประทะกันขึ้นมาอีก ตนจะได้หารือกับทางแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อพิจารณาการส่งกลับชาวบ้าน และให้โรงเรียนสามารถเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติ
ด้าน นายปัญญา แก้วกรียูร ที่ปรึกษาด้านพัฒนากระบวนการเรียนการสอน สพฐ. กล่าวว่า นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความห่วงใยในเรื่องการเรียนการสอนของนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบในครั้งนี้ดังนั้นจึงให้มีการจัดศูนย์การเรียนแก่นักเรียนขึ้นจำนวน 9 ศูนย์ โดยเน้นจัดการเรียนการสอนใน 5 กลุ่มสาระหลัก ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสังคมศึกษา รวมทั้งทักษะชีวิตและการสร้างขวัญกำลังใจ ส่วนที่หลายคนเป็นห่วงว่าหากสถานการณ์ยังไม่กลับเข้าสู่สภาวะปกติอาจจะส่งผลให้นักเรียนได้รับผลกระทบในการสอบ NT นั้น เรื่องนี้ตนคิดว่าหากมีเหตุผลและความจำเป็นก็น่าจะสามารถเลื่อนการสอบออกไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยายกาศการเปิดศูนย์การเรียนฯ แม้ว่าจะมีเด็กนักเรียนเข้ามาเรียนภายในศูนย์นับร้อยคน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ามีผู้ปกครองมาเฝ้าบุตรหลานของตัวเองด้วยความเป็นห่วง โดยนางชู เชื้อหอม อายุ 48 ปี ชาวบ้านลุง ต.ลุง อ.กันทรลักษ์ ซึ่งพาหลานชายมาเรียนภายในศูนย์ กล่าวว่า อยากให้เหตุการณ์การสู้รบยุติโดยเร็ว เพราะรู้สึกเป็นห่วงบ้านมาก อยากกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ อย่างไรก็ตาม รู้สึกดีใจที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เปิดศูนย์การเรียน อย่างน้อยจะทำให้เด็กได้เรียนอย่างต่อเนื่อง ไปพร้อมๆ กับการทำกิจกรรม ซึ่งจะช่วยลดความเครียดได้
จากนั้นเวลาประมาณ 11.30 น. คณะผู้บริหารและสื่อมวลชนได้เดินทางไปยังร.ร.ภูมิซรอลวิทยา ซึ่งอาคารเรียน 2 หลังได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดของกระสุนปืนใหญ่ จนหลังคาเปิด ห้องเรียนอเนกประสงค์ อาคารห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ พังเสียหายทั้งหลัง ทั้งนี้ นายวิทย์ ภูมาพันธ์ อาจารย์สอนวิชาช่าง ร.ร.ภูมิซรอลวิทยา กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลเสียต่อการจัดการเรียนการสอนให้กับเด็กนักเรียนเป็นอย่างมาก ทั้งนักเรียนและครู ต่างขวัญหนีดีฝ่อ จึงอยากเรียกร้องให้ทางรัฐบาล เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ยุติโดยเร็ว รวมทั้งขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อช่วยเหลือซ่อมแซม อาคาร อุปกรณ์การเรียนที่เสียหายเพื่อให้นักเรียนได้กลับมาเรียนตามปกติโดยเร็ว
นายประมูล แสวงผล ผอ.ร.ร.ภูมิซรอลวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะสามารถเปิดเรียนได้เมื่อไร คงต้องรอให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติเสียก่อน รวมไปถึงการซ่อมแซมอาคารเรียน และอุปกรณ์การเรียนการสอนต่างๆ อย่างไรก็ตามสิ่งที่อยากเรียกร้องมากที่สุดขณะนี้คืออยากให้ ศธ. ช่วยพิจารณาในเรื่องค่าเสี่ยงภัยให้แก่ครู และบุคลากรทางการศึกษาของร.ร.ภูมิซรอลวิทยาด้วย เพราะที่ผ่านมาก็ไม่ได้รับการพิจารณา แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากพิจารณากันตามความเป็นจริงแล้วทางโรงเรียนก็ควรได้รับการสนับสนุน
