xs
xsm
sm
md
lg

นร.ชายแดนบุรีรัมย์ซ้อมเข้าหลุมหลบภัย - “ผญบ.” ชี้แจงชาวบ้านไม่ให้แตกตื่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักเรียนโรงเรียนนิคมสร้างตนเอง 8 บ.สายโท 5 ใต้ ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซ้อมวิ่งเข้าหลุมหลบภัย เตรียมรับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่อาจเกิดเหตุปะทะขึ้นอีก วันนี้ (20 ก.ค.)
บุรีรัมย์ - ครู นักเรียนชายแดน อ.บ้านกรวด บุรีรัมย์ ยังวิตกหวั่นเกิดเหตุปะทะซ้ำอีก หลังไทยและกัมพูชายังไม่ถอนทหารออกจากเขาพระวิหารตามมติศาลโลก จี้ ภาครัฐเร่งสร้างหลุมหลบภัยรองรับสถานการณ์ ขณะผู้ใหญ่บ้านชายแดนใช้หอกระจายข่าว ชี้แจงชาวบ้านไม่ให้ตื่นตระหนก พร้อมสร้างความมั่นใจ จัดชุด ชรบ.-อป.พร.เข้าเวรยามเฝ้าลาดตระเวนตลอด 24 ชม.

วันนี้ (20 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักเรียนโรงเรียนนิคมสร้างตนเอง 8 บ้านสายโท 5 ใต้ ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ยังมาเรียนตามปกติ ขณะที่ทางโรงเรียนได้ให้เด็กนักเรียนซักซ้อมวิ่งลงหลุมหลบภัย ที่ทางโรงเรียนได้ใช้งบประมาณก่อสร้างขึ้นเองภายในโรงเรียนจำนวน 2 หลุม ช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่เกิดเหตุปะทะกันเมื่อครั้งที่ผ่านมา เพื่อเป็นการเตรียมความรองรับสถานการณ์ หากเกิดเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยกับฝ่ายกัมพูชา ขึ้น หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่มีถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร หรือเขตปลอดทหาร ตามคำสั่งของศาลโลก

ทั้งนี้ ครู และ นักเรียน ยังมีความกังวลและไม่มั่นใจในความปลอดภัย เพราะต่างฝ่ายต่างยังตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดน จึงอยากเรียกร้องให้ทางภาครัฐได้เร่งจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการก่อสร้างหลุมหลบภัยที่มีขนาดใหญ่ และได้มาตรฐาน ภายในโรงเรียนให้โดยเร่งด่วนด้วย เพื่อความปลอดภัยของครูและนักเรียน เพราะปัจจุบันหลุมหลบภัยที่มีอยู่ 2 หลุม มีขนาดเล็ก และไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร

นายไพบูลย์ ภูมิทัศน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนนิคมสร้างตนเอง 8 กล่าวว่า ถึงแม้ศาลโลกจะมีคำสั่งให้ทั้งไทยและกัมพูชา ถอนทหารออกจากพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารแล้ว แต่ยังมีความวิตกกังวลและไม่มั่นใจในความปลอดภัย เกรงจะเกิดเหตุการณ์สู้รบขึ้นอีก จึงอยากให้ทางจังหวัดบุรีรัมย์ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาก่อสร้างหลุมหลบภัยที่ได้มาตรฐาน พร้อมทั้งอยากให้ทางรัฐบาลเร่งเจรจาหาข้อยุติโดยเร็วด้วย

ด้าย น.ส.ชไมพร มาตหงษา นักเรียน ชั้น ม.3 บอกว่า ไม่อยากให้ไทยกับกัมพูชาสู้รบกัน เพราะไทยและกัมพูชาก็เปรียบเสมือนเป็นบ้านพี่เมืองน้อง ที่เคยมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน หากมีการสู้รบกันจะก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่าย ทั้งยังส่งผลกระทบต่อการเรียนของเด็กนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวชายแดนด้วย จึงอยากเรียกร้องให้ทั้งสองประเทศเร่งเจรจาแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างสันติ

ขณะที่ นายประสงค์ อยู่ระมัด ผู้ใหญ่บ้านบ้านสายโท 5 ใต้ ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด ซึ่งเป็นหมู่บ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยสู้รบ ที่ตั้งอยู่ติดเขตชายแดน ไทย-กัมพูชา ได้ใช้หอกระจายข่าว ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของทางอำเภอและจังหวัด ไม่ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวชายแดน เกิดความตื่นตระหนก และให้ใช้ชีวิตทำมาหากินตามปกติ หลังศาลโลกวินิจฉัยให้ทั้งไทยและกัมพูชา ถอนทหารออกจากพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร แต่ประชาชนตามแนวชายแดนยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย เนื่องจากขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังไม่มีการถอนกำลังทหารตามคำสั่งของศาลโลก

จากกรณีดังกล่าวจึงให้ชาวบ้านได้ติดตามรับฟังข่าวสารจากสื่อต่างๆ ทั้งข้อมูลข่าวสารจากหอกระจายข่าวถึงความเคลื่อนไหว หรือหากมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น ทางผู้ใหญ่บ้านก็จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านได้รับทราบเป็นระยะ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

นายประสงค์ อยู่ระมัด ผู้ใหญ่บ้านบ้านสายโท 5 ใต้ กล่าวว่า ปกติชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยก็มีการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ในการที่จะอพยพไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัยที่ทางอำเภอ และจังหวัดจัดไว้ให้อยู่แล้ว หากเกิดการสู้รบขึ้น เพราะส่วนมากมีประสบการณ์จากการปะทะระหว่างกองกำลังทหารไทยกับกองกำลังกัมพูชามาก่อนหน้านี้แล้ว

อย่างไรก็ตาม ทางหมู่บ้านได้มีการจัดชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และ อป.พร. เข้าเวรยามเฝ้าลาดตระเวน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งหาข่าวในหมู่บ้านถึงความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นหรือหากพบคนแปลกหน้าให้รายงานทางเจ้าหน้าที่และทางจังหวัดโดยเร็วด้วย






นายประสงค์  อยู่ระมัด  ผู้ใหญ่บ้านสายโท 5 ใต้ ใช้หอกระจายข่าวชี้แจงทำความเข้าใจกับลูกบ้าน

กำลังโหลดความคิดเห็น