จันทบุรี - การค้าชายแดนไทย-กัมพูชา คึกคัก หลังศาลโลก ศาลโลกตัดสินให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาถอนกำลังออกจากเขาพระวิหาร
ดร.อิสิวุฒิ ตั้งเกียรติ นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จันทบุรี และนักลงทุน เปิดเผยว่า จากกรณีที่ศาลโลกได้มีการตัดสินให้ทหารไทยและทหารกัมพูชา มีการถอนกำลังทหารออกจากเขาพระวิหาร ส่งผลทำให้การค้าการขาย การท่องเที่ยว และการลงทุนในพื้นชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรี เป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะด่านชายแดนถาวรบ้านแหลม ด่านชายแดนถาวรบ้านผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี และจุดผ่อนปรนทางการค้าอีก 3 จุดเป็นไปอย่างคึกคัก
โดยตั้งแต่ช่วงของการเปิดด่าน พบว่า มีพ่อค้า แม่ค้า ชาวกัมพูชาเข้ามาซื้อสินค้าจากฝั่งประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศการค้าการขายเป็นไปอย่างคึกคัก รวมถึงการท่องเที่ยวก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเลือกซื้อสินค้าตามแนวชายแดนกันเป็นจำนวนมากเช่นกัน นอกจากนี้ทำให้การขยายตัวในเรื่องการลงทุน จะมีการขยายตัวมากขึ้น
เนื่องจากความสัมพันธ์ทางการค้าการขายระหว่าง 2 ประเทศ ด้านจังหวัดจันทบุรี มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสมอมา ปัญหาการสู้รบ หรือ ปัญหาการปิดด่านยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นกับสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรีที่เป็นอยู่ นอกจากนี้ สินค้าจำพวกเครื่องอุปโภค บริโภค ก็เป็นสิ่งที่พ่อค้า แม่ค้าชาวกัมพูชามีความต้องการจากประเทศไทยเป็นจำนวนมากจึงทำให้ในแต่ละวันด่านชายแดนถาวร และจุดผ่อนปรนทางการค้าจะมีเงินสะพัดวันหนึ่งกว่า 30 ล้านบาท และในอนาคตคาดว่าการขยายตัวด้านการค้าการขาย การท่องเที่ยว และการลงทุนตามแนวชายในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีจะมีมากขึ้นและจะเห็นเม็ดเงินมากกว่าที่เป็นอยู่
ดร.อิสิวุฒิ กล่าวอีกว่า รัฐบาลชุดใหม่ตนเองมีความเชื่อมั่นว่าด่านชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรีจะมีการเจริญเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงจะมีการขยายตัวทางการค้าการขายมากขึ้นด้วยเช่นกันหากรัฐบาลไม่นำเรื่องทางการเมืองเข้าเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ก็จะทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นที่กล้าเข้ามาลงทุนในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีมากขึ้น รวมถึงในปัจจุบันการก่อสร้างถนนเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่พระตะบอง ไพลิน ไปจนถึงเวียดนาม เป็นสิ่งที่ประเทศไทยได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาล เพราะพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาจะใช้เส้นทางสายนี้นำสินค้าจากประเทศไทยไปขายต่อยังประเทศจีน เวียดนามได้อีกด้วย
รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ จะทำให้การเจริญเติบโตทางการค้าจะมีการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น หากรัฐบาลชุดใหม่ มีการส่งเสริมและมีการผลักดันอย่างจริงจังก็จะทำให้ด่านชายแดนถาวร และจุดผ่อนทางการค้าในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีจะเป็นด่านชายแดนตัวอย่างและเป็นต้นแบบที่จังหวัดชายแดนอื่นๆ สามารถที่จะนำไปแบบอย่างได้ดีต่อไปในอนาคตอีกด้วย
ดร.อิสิวุฒิ ตั้งเกียรติ นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จันทบุรี และนักลงทุน เปิดเผยว่า จากกรณีที่ศาลโลกได้มีการตัดสินให้ทหารไทยและทหารกัมพูชา มีการถอนกำลังทหารออกจากเขาพระวิหาร ส่งผลทำให้การค้าการขาย การท่องเที่ยว และการลงทุนในพื้นชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรี เป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะด่านชายแดนถาวรบ้านแหลม ด่านชายแดนถาวรบ้านผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี และจุดผ่อนปรนทางการค้าอีก 3 จุดเป็นไปอย่างคึกคัก
โดยตั้งแต่ช่วงของการเปิดด่าน พบว่า มีพ่อค้า แม่ค้า ชาวกัมพูชาเข้ามาซื้อสินค้าจากฝั่งประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศการค้าการขายเป็นไปอย่างคึกคัก รวมถึงการท่องเที่ยวก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเลือกซื้อสินค้าตามแนวชายแดนกันเป็นจำนวนมากเช่นกัน นอกจากนี้ทำให้การขยายตัวในเรื่องการลงทุน จะมีการขยายตัวมากขึ้น
เนื่องจากความสัมพันธ์ทางการค้าการขายระหว่าง 2 ประเทศ ด้านจังหวัดจันทบุรี มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสมอมา ปัญหาการสู้รบ หรือ ปัญหาการปิดด่านยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นกับสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรีที่เป็นอยู่ นอกจากนี้ สินค้าจำพวกเครื่องอุปโภค บริโภค ก็เป็นสิ่งที่พ่อค้า แม่ค้าชาวกัมพูชามีความต้องการจากประเทศไทยเป็นจำนวนมากจึงทำให้ในแต่ละวันด่านชายแดนถาวร และจุดผ่อนปรนทางการค้าจะมีเงินสะพัดวันหนึ่งกว่า 30 ล้านบาท และในอนาคตคาดว่าการขยายตัวด้านการค้าการขาย การท่องเที่ยว และการลงทุนตามแนวชายในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีจะมีมากขึ้นและจะเห็นเม็ดเงินมากกว่าที่เป็นอยู่
ดร.อิสิวุฒิ กล่าวอีกว่า รัฐบาลชุดใหม่ตนเองมีความเชื่อมั่นว่าด่านชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรีจะมีการเจริญเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงจะมีการขยายตัวทางการค้าการขายมากขึ้นด้วยเช่นกันหากรัฐบาลไม่นำเรื่องทางการเมืองเข้าเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ก็จะทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นที่กล้าเข้ามาลงทุนในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีมากขึ้น รวมถึงในปัจจุบันการก่อสร้างถนนเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่พระตะบอง ไพลิน ไปจนถึงเวียดนาม เป็นสิ่งที่ประเทศไทยได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาล เพราะพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาจะใช้เส้นทางสายนี้นำสินค้าจากประเทศไทยไปขายต่อยังประเทศจีน เวียดนามได้อีกด้วย
รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ จะทำให้การเจริญเติบโตทางการค้าจะมีการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น หากรัฐบาลชุดใหม่ มีการส่งเสริมและมีการผลักดันอย่างจริงจังก็จะทำให้ด่านชายแดนถาวร และจุดผ่อนทางการค้าในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีจะเป็นด่านชายแดนตัวอย่างและเป็นต้นแบบที่จังหวัดชายแดนอื่นๆ สามารถที่จะนำไปแบบอย่างได้ดีต่อไปในอนาคตอีกด้วย
